บท
ตั้งค่า

INSIDE ME | 02 แค่ปลายจมูก

หลายวันต่อมา

เปรี้ยง!

เสียงฟ้าร้องโครมครามสนั่นหวั่นไหวทั่วแผ่นฟ้าในวันที่สายฝนโปรยปรายลงมาตั้งแต่เช้ามืดของวันใหม่

“ออกมาเร็วๆ เดี๋ยวก็เปียกหมดหรอก” เสียงหวานตะโกนแข่งกับเสียงฝนที่กระหน่ำเทลงมาอย่างหนัก “ตัวเล็กเดินออกมาเร็วเข้า” เธอไม่ละความพยายามที่จะเรียกลูกสุนัขตัวอ้วนสีขาวที่นอนหนาวสั่นอยู่ในกล่องพัสดุเก่าที่ตอนนี้เปียกน้ำจนเปื่อยยุ่ยหมดแล้ว

“มีเทอ”

“ว่า”

“จะนั่งตากฝนอยู่ตรงนั้นนานไหมเนี่ย เดี๋ยวก็ไม่สบายหรอก”

“ก็น้องไม่ยอมออกมา”

“เอาไว้ฝนหยุดค่อยมาพามันไปหาหมอก็ได้”

“ถ้ามันตายล่ะ”

“เฮ้อ” เพื่อนสาวที่นั่งรออยู่ในรถกลอกตามองบน นี่นับครั้งไม่ถ้วนแล้วที่ยายเพื่อนตัวดีฝ่าฝนไปเก็บลูกหมาลูกแมวกลับไปเลี้ยง ไม่ว่าจะโดนข่วนโดนกัดก็ไม่เคยทำให้ผู้หญิงที่ชื่อมีเทอกลัวสักครั้ง

“แน็กช่วยฉันหน่อย”

“ชะ…ช่วยอะไร” สแน็กตะโกนถามมีเทอ

“แกเปิดท้ายรถหน่อย เดี๋ยวฉันอุ้มน้องไปไว้หลังรถ”

“อีกแล้วเหรอ รถฉันเป็นรถรับส่งหมาแมวจรจัดแล้วเหรอ” เธอกลอกตามองบนแต่ก็กดเปิดท้ายรถให้ยายเพื่อนตัวดีได้อุ้มลูกสุนัขไปไว้หลังรถ

“ไปเร็ว”

“ไปไหน”

“พาน้องไปหาหมอไง”

“นี่แก มันยังเช้าอยู่เลยนะ”

“โรงพยาบาลสัตว์ไง เขาเปิดยี่สิบชั่วโมงนะไปเร็ว”

“เออๆ ก็ได้ๆ ยายมีเทอนะยายมีเทอ” และเธอก็ยอมใจอ่อนขับรถพาลูกสุนัขไปหาหมอจนได้ “ฉันถามแกจริงๆ นะมีเทอ”

“อืม”

“คนที่เราไปดูวันนั้น…ใช่คนนั้นจริงเหรอที่เป็นว่าที่คู่หมั้นแกอะ”

“ใช่ แต่ฉันจะไม่หมั้นกับเขา”

“เพราะอะไรอะ แกอุตส่าห์เปลี่ยนแปลงขนาดนี้แล้ว ไม่ใช่เพื่อเขาเหรอ”

“ใครบอกฉันเปลี่ยนแปลงตัวเองเพื่อเขา”

“What?”

“I changed myself for revenge.”

“OMG!!” สแน็กเบิกตากว้าง

“คำพูดนั้นยังตามหลอกหลอนฉัน และฉันจะทำให้เขารู้ว่าเด็กอ้วนคนนี้แหละที่ทำให้เขารู้สึกเสียใจกับคำพูดตัวเองในวันนั้น”

“แกโอเคไหม” ทุกครั้งที่เพื่อนพูดถึงเรื่องนี้เธอมักจะเสียน้ำตาให้กับมันอยู่เรื่อย จำวันที่มีเทอร้องไห้มาหาและหักโหมออกกำลังกายจนป่วยเข้าโรงพยาบาล และคำว่า ‘อ้วน’ คำนี้ก็ยังตามหลอกหลอนเพื่อนของเธอทุกวัน จะกินข้าวแต่ละทีต้องคำนวณแคลอรี อยากกินอะไรก็ได้แค่มองเท่านั้น ยอมรับตรงๆ ว่าคำคำนั้นมันมีอิทธิพลต่อความรู้สึกมีเทอมากจริงๆ

“แล้วแกจะกลับบ้านไหม”

“ฉันยังไม่พร้อมกลับบ้านตอนนี้” ไม่เคยขาดการติดต่อจากคนที่บ้านก็จริงแต่เธอยังไม่พร้อมที่จะเผชิญหน้ากับใครตอนนี้ และภาพจำของทุกคนเธอคือเด็กอ้วนตุ๊ต๊ะคนหนึ่ง

“แกอุตส่าห์ลดน้ำหนัก ก็น่าจะไปหาแม่วิไลบ้างสิ แม่เห็นแกตอนนี้คงอึ้งจนตาค้าง”

“ไม่หรอก แกช่วยเร่งเครื่องหน่อยได้ไหม พาน้องไปหาหมอแล้วฉันต้องกลับไปออกกำลังกายที่ห้อง”

“โหแก ออกกำลังกายทั้งที่เราเพิ่งกลับจากผับเนี่ยนะ”

“ใช่ วันนี้ดื่มน้ำเยอะต้องเบิร์นให้เหงื่อออกเยอะๆ หน่อยจะได้ไม่บวมน้ำ”

“โอเคค่าคุณหนู”

วันต่อมา 14:00

(โหลมึง)

“ว่าไง”

(ว่างไหม) วอร์ถามอย่างกระวนกระวายใจ

“เกิดอะไรขึ้น”

(หนูดีไม่สบาย มึงพาหนูดีไปหาหมอหน่อยสิ)

“มึงอยู่ไหน”

(กูอยู่ต่างจังหวัด กลับไปตอนนี้คงไม่ทัน)

“หนูดีอยู่กับใคร”

(คนเดียวที่ห้องกู มึงอย่าถามเซ้าซี้ได้ไหมวะ รีบไปพาหนูดีไปหาหมอที ขอร้องละ)

“เฮ้อ…อืม ๆ” โฮปรับปากแล้วคว้ากุญแจรถเดินออกมาจากห้องทำงาน เขากระชับเสื้อสูทสีกรมเล็กน้อย “ผมต้องออกไปธุระด่วน อาจจะไม่ได้เข้ามาที่บริษัทอีก ช่วยเคลียร์โต๊ะทำงานด้วยนะครับ” เขาสั่งงานเลขาแล้วรีบไปรับหนูดีไปหาหมอ หนูดีแมวตัวอ้วนที่วอร์เลี้ยงและรักดั่งลูกในไส้ มันบอกว่าถ้าแมวรับมรดกได้มันจะโอนทุกอย่างให้หนูดีให้หมด

โฮปเปิดประตูเข้ามาในห้องพักของวอร์แล้วเดินตรงไปหาหนูดีที่ห้องของมัน

“ไงเรา” ทันทีที่หนูดีเห็นโฮปมันก็เดินเตาะแตะมาคลอเคลียที่ขาเหมือนจะบอกเขาว่า ‘หนูไม่สบาย’ “เดี๋ยวป๊าพาไปหาหมอตอนนี้เลยนะ” ว่าแล้วก็เดินไปหยิบกระเป๋าเป้สำหรับใส่สัตว์เลี้ยงมาใส่หนูดีแล้วพาไปหาหมอที่โรงพยาบาลสัตว์ทันที

@โรงพยาบาลสัตว์

“น้องเป็นยังไงบ้างคะ” สายตายังสอดส่องหาลูกสุนัขตัวอ้วนที่นำมาหาหมอเมื่อเช้าวานนี้ด้วยความเป็นห่วง

“น้องพ้นขีดอันตรายแล้วค่ะ เข้าน้ำเกลืออีกสองวันก็น่าจะออกจากโรงพยาบาลได้แล้ว”

“ค่ะ ส่วนค่ารักษาพยาบาลส่งเข้าไปในไลน์มีเทอเลยนะคะพี่ เดี๋ยวจัดการเอง”

“ได้เลยค่ะน้องมีเทอ ว่าแต่น้องคนนี้มีคนอุปการะแล้วหรือยังคะ”

“หนูยังไม่ได้โพสต์หาคนรับเลี้ยงน้องเลยค่ะ คงต้องรอให้น้องวิ่งซนได้ก่อนค่อยจะถ่ายคลิปความน่ารักของน้องลงเพจ”

“ขอให้ได้บุญเยอะๆ นะคะ” ผู้ช่วยคุณหมอที่สนิทสนมกันมาได้สักระยะหนึ่งแล้วส่งยิ้มให้ ด้วยเพราะมีเทอพาลูกสุนัขและลูกแมวมารักษาที่โรงพยาบาลสัตว์แห่งนี้บ่อยจึงได้พูดคุยกับนางบ่อยจนสนิท

“ไงเรา หายซ่าเลยใช่ไหมลูก” หญิงสาวนั่งยอง ๆ ลงข้างกรงแล้วยื่นมือไปลูบหัวลูกสุนัขที่นอนทำตาแป๋วน่าเอ็นดูอยู่ในกรงเบา ๆ คล้ายว่ามันจะบอกเธอว่า ‘ขอบคุณครับ’ ผ่านแววตาน่าเอ็นดูคู่นั้น “เดี๋ยวก็ได้บ้านใหม่แล้วนะเราน่ะ รีบๆ หายเลย”

ระหว่างนั้นเสียงเข้มของใครบางคนที่เธอฟังแล้วคุ้นหูสุดๆ ก็ดังขึ้น

“หมอครับ ไม่รู้หนูดีเป็นอะไรช่วยรักษาด้วยครับ”

มีเทอหันไปมองเจ้าของเสียงเข้มนั้นช้าๆ พร้อมกับดึงหน้ากากอนามัยขึ้นมาปิดและกระชับหมวกที่สวมใส่เล็กน้อย

“..!!” หัวใจดวงน้อยหล่นลงไปอยู่ตาตุ่มเมื่อเห็นใบหน้าชัดเจนของผู้ชายคนที่ยืนเกาะขอบเคาน์เตอร์กำลังคุยกับหมออยู่ ‘พี่โฮป!’

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel