EPISODE - 02 / 2
เฮ้อ! นี่แค่เรียวขานะ ถ้าเกิดเห็นฉันทั้งตัวจะไม่อ้าปากค้างน้ำลายสอหรือไง
พวกฉันเดินตามคนที่มารับยัยเกวเข้ามาทางประตูด้านข้างที่เขียนไว้สำหรับ ‘VIP’ ตรงเข้ามาสู่ด้านในคลับที่กว้างมากแถมยังแบ่งเป็นโซน ๆ ดูหรูและเป็นระเบียบ
“ที่นี่กว้างมากเลยค่ะแถมจัดเป็นระเบียบด้วย” ยัยเกวหันไปคุยหยอกล้อกับผู้ชายที่ยังไม่ยอมแนะนำเพื่อนสักคำว่าคือใคร
“อยากนั่งโซนไหนเป็นพิเศษไหน”
อีกคนก็ดูเทกแคร์เพื่อนฉันดีนะ อิจฉาคนมีคู่ก็วันนี้แหละ
“แกว่าไง”
ยัยเพื่อนตัวแสบหันมาถาม ชิ! นึกว่าลืมฉันแล้วเสียอีก
“อย่างฉันต้องนั่งสาวโสดอยู่แล้ว”
มองไปเห็นโซนหนึ่งที่เขียนไว้ว่า ‘โสด’ เลยคิดว่าน่าจะจัดไว้ให้คนที่ยังไม่มีคู่แล้วมาคลิกกันเอง
“แต่ฉันไม่โสดย่ะ!” ยัยเกวกระซิบบอกเบา ๆ
หมั่นไส้เพื่อนตอนนี้ได้ไหม?
“งั้นก็แยกกันนั่ง” ฉันตอบคืนแบบไม่ใส่ใจเพราะรู้คำตอบดี
“เกวมากับเพื่อนเราไปนั่งโซนนั้นได้ไหมคะ”
นางชี้ไปยังโซนที่ฉันบอก อีกคนเลยพยักหน้าส่งยิ้มแถมยังหันมามองฉันอีก
“ได้ครับ”
เป็นผู้ชายพูดจาไพเราะเสียด้วย ขอให้เป็นแบบนี้เสมอต้นเสมอปลายเถอะ!
“แกกำลังแอบด่าพี่ภูผาฉันอยู่ใช่ไหมยะ!” นี่ก็เซนส์แรงจริง
“รู้แล้วก็ไม่น่าถาม” ฉันทำหน้าไม่รู้ร้อนรู้หนาวที่ถูกเพื่อนจับได้ว่าคิดอะไรอยู่
“ขอร้องล่ะยัยลี่ ผู้ชายไม่ได้เลวเหมือนกันหมด แกไม่ต้องมองว่าพี่ภูผาของฉันจะหักอกฉันเหมือน... อื้อ” รีบยกมือปิดปากมาก ๆ ของนางทันที
“หุบปากแล้วไปออดอ้อนแฟนแกต่อเลย!” ปล่อยมือออกจากปากเพื่อนตัวแสบแล้วเดินตามอีกคนที่เดินไปไกลจนถึงโซนสำหรับคนโสดแล้ว
“สั่งเครื่องดื่มได้เลยนะครับ คืนนี้พี่เลี้ยง”
ก็ควรไหม? เป็นผู้ชายต้องสายเปย์สิ
“แล้วไหนคะเพื่อนพี่ภูผา”
รีบมองยัยเกวทันทีที่นางพูดถึงบุคคลที่สี่
“อย่ามองดุขนาดนั้น ฉันลืมบอกแกว่าเพื่อนพี่ภูผาก็จะมาร่วมวงด้วย”
“ผู้ชาย?” ฉันถามเสียงแข็ง
ยัยเกวรีบพยักหน้าหงึก ๆ ทำสีหน้าสำนึกผิดขึ้นมาทันที
พึ่บ!
หมับ!
“เฮ้แก ใจเย็น ๆ สิ ไว้หน้าเพื่อนบ้าง”
ฉันลุกขึ้นทันทีที่ยัยเกวบอกว่าจะมีผู้ชายคนอื่นมาร่วมวงด้วย
สาเหตุที่ฉันทำเหมือนรังเกียจน่ะเหรอ เพราะฉันรังเกียจจริง ๆ ฉันเกลียดผู้ชายทุกคน ผู้ชายที่เป็นคนแปลกหน้า ผู้ชายที่ไม่รู้จัก เพราะฉันมันเป็นพวกมีอคติกับเพศนี้ไง
“เพื่อนรัก ใจเย็น ๆ น้า เพื่อนพี่ภูผาไม่ใช่คน ๆ นั้นสักหน่อยถือว่าเพื่อนขอนะ”
ไม่ต้องมาลูบหลังลูบไหล่กล่อมฉันให้ยากเลย
“แกก็รู้ฉันไม่ชอบคบผู้ชายที่ไหน ยิ่งให้นั่งร่วมวงด้วยฉันยิ่งไม่เอาใหญ่”
“นี่ไงเหตุผลที่ฉันไม่บอกแกก่อนออกมาว่าจะมีผู้ชายคนอื่นมาร่วมวงด้วย!” เหมือนฉันจะทำให้ยัยเกวโกรธแล้วล่ะ
“มันผ่านมาสิบปีแล้วนะลิลลี่ แกควรจะปล่อยวางได้แล้ว และอย่าเอาผู้ชายเพียงคนเดียวมาตัดสินว่าผู้ชายทั้งโลกจะเหมือนกันหมดสิวะ!” ยัยเกวขึ้นเสียงใส่ฉัน
และนั่นทำให้ฉันได้สติ ค่อย ๆ มองหน้าแฟนนางที่ชื่อภูผา เขาก็เป็นผู้ชายคนหนึ่งแต่ฉันยังชื่นชมเขาในใจได้เลยหรือว่าฉันจะอคติกับผู้ชายเกินไปนะ
“แค่ครั้งนี้ครั้งเดียวนะ ถ้าเกิดมีอีกแกต้องบอกฉันก่อน” ยัยเกวรีบเข้ามากอดเอวแถมยังกระโดดหอมแก้มฉันอย่างไม่อายสายตาใคร
“รับทราบค่ะคุณเพื่อนรัก”
แล้วนางก็จูงฉันเดินกลับมานั่งโซฟาหลุยส์อย่างดีในโซนคนโสดที่มีแฟนนางนั่งมองทุกการกระทำของเรา
ผ่านมาสิบห้านาที ฉันกำลังจะอกแตกตาย!
นั่งมองยัยเพื่อนตัวดีแรงมากตอนนี้
“หยวน ๆ นะแก เรื่องนี้ฉันควบคุมไม่ได้จริง ๆ” นางแอบกระซิบเบา ๆ ด้วยน้ำเสียงที่ค่อนไปทางเกรงใจปนรู้สึกผิด
“...” ไร้ซึ่งคำตอบจากฉัน
ได้แต่นั่งกระดกแก้วเหล้าในมือลงคอซ้ำแล้วซ้ำอีกเพื่อทำใจ มองผู้ชายที่นั่งล้อมหน้าล้อมหลังฉันถึงสามคน
มันน่าโมโหไหมล่ะ?
ยัยเกวบอกฉันว่าแฟนนางจะพาเพื่อนมาอีกแค่คนเดียว ทว่าผ่านมาห้านาทีต่อจากนั้นเพื่อนผู้ชายเขาก็มากันเป็นฝูง
ฉันไม่ได้ใช้คำพูดแรงไปใช่ไหม?
“เพื่อนเกวสวย ไม่เชื่อว่าจะโสดได้”
และที่รำคาญที่สุดคือผู้ชายหน้าม่อที่นั่งถัดฉันไปเว้นระยะห่างเพียงกระเป๋ากุชชี่ฉันกั้นอยู่
“ผู้หญิงโสดแปลกตรงไหน?”
ตอนแรกว่าจะไม่อะไรแล้วนะ แต่ฉันเห็นหมอนี่พูดทำนองนี้เหมือนหนักส่วนไหนเขาแทนฉันมากเลยโต้ตอบกลับ