EPISODE - 02 / 1
“อะไรของแกเนี่ย!”
ฉันโวยวายใส่ยัยเกวที่จับฉันถอดเสื้อผ้าที่ใส่มาจนโป๊คาห้องนาง
“แกต้องเปลี่ยนชุดไง” ปากนางว่าส่วนมือก็ควานหาเสื้อผ้าในตู้เสื้อผ้าของนางอย่างจริงจัง
“ชุดฉันมีปัญหาตรงไหนยะ!” วีนใส่นางแล้วมองชุดตัวเองที่กองอยู่บนเตียงนอน
เดรสเกาะอกแบรนด์ดังจากปารีสถูกเพื่อนฉันลอกคราบออกอย่างไม่ให้เกียรติใด ๆ กับราคาห้าหลักเลย
“คืนนี้วันศุกร์ กฎของคลับที่นี่คือต้องสวมชุดสีแดง”
“เอ้า! แล้วไม่บอกฉันตั้งแต่แรกจะได้ใส่มาถูก”
“ฉันลืม” ได้แต่มองบนถอนหายใจแรง ๆ ใส่
“ไม่ใส่ชุดแซนตี้ไปเลยยะ สีแดงแปร๊ดตั้งแต่หัวจรดเท้าเลย” ประชดนางเพราะโมโห แล้วดูสิ ให้ฉันรออยู่ในชุดชั้นในกับกางเกงในยืนโชว์หุ่นแซ่บตากแอร์อีก
ยัยเพื่อนเลว ไม่สงสารฉันหรือไงว่าจะหนาวตายก่อนไปเที่ยวสนุกกับนาง
“นี่ไงเจอแล้ว!”
ยัยเกวตะโกนเสียงดังเหมือนเจอขุมทรัพย์ล้ำค่าก่อนที่จะโชว์ของที่ว่าชูให้ฉันดู
“นี่แกเอาจริงดิ!?” ถึงกับตะลึงตาค้างที่เห็นชุดในมือนาง
“ชุดนี่ของแก ส่วนชุดนี้ของฉัน”
นางยื่นชุดที่อยู่ในมือขวามาให้ฉัน ส่วนอีกชุดก็เอาไปทาบกับตัวเองหมุนรอบกระจกบานใหญ่ตรงหน้าอย่างมีความสุข
ที่ฉันตกใจไม่ใช่อะไรนะ แต่เพราะชุดที่นางยื่นให้ฉันคือชุดที่ฉันเพิ่งประชดไป
“แกจะให้ฉันไปแมร์รีคริสต์มาสใครยะ!”
ไม่เอาอะ ให้ฉันใส่ชุดแซนตี้ไปเที่ยวคลับคนคงหัวเราะเยาะตาย
“ก็แกร้องขอเองนี่!” ยังจะมาเล่นลิ้นกวนประสาทฉันอีก
“แกเอาชุดนั้นมา ส่วนชุดนี้เชิญใส่เอง” รีบโยนชุดในมือตัวเองให้เพื่อนรักพร้อมกับแย่งอีกชุดในมือนางมาถือแล้วเดินเข้าห้องน้ำอย่างไม่สนใจยัยเพื่อนตัวดีที่โวยวายอยู่ด้านนอก
RomRan-Club
ตอนนี้ยัยเกวพาฉันขับรถมาที่สถานบันเทิงใจกลางเมืองกรุงที่ค่อนข้างจะมีผับบาร์เยอะแยะ หากแต่ว่าร้านที่เพื่อนฉันเลือกคนหนาตากว่าร้านอื่น ๆ ในระแวกนี้
“แกรู้จักที่นี่ได้ยังไง” ขนาดฉันว่าตัวเองออกเที่ยวกลางคืนบ่อยยังหาที่นี่ไม่เจอเลย
“ความลับ” รอยยิ้มแบบนี้ไม่ค่อยน่าไว้ใจจริง ๆ เพื่อนฉัน
“ค่ะ ถึงแล้ว ตอนนี้เกวกำลังหาที่จอดรถอยู่ค่ะ ใช่ค่ะ คันเดิม”
ฉันนั่งมองบรรยากาศรอบนอกด้วยความตื่นตาราวกับสาวแรกแย้มที่เพิ่งหนีเที่ยวกลางคืนเป็นครั้งแรก พลันในหัวก็นึกถึงเหตุการณ์หนึ่งขึ้นมา เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อสิบปีก่อน คิดทีไรก็รู้สึกโมโหและเสียหน้าทุกทีสิ ให้ตาย!
“ไปเถอะแก”
เสียงเพื่อนเรียกทำให้ฉันหลุดออกจากอดีตที่แสนน่าโมโหนั้น
“ทำหน้าแบบนี้นึกถึงเรื่องนั้นอีกล่ะสิ”
เพื่อนสนิทก็คือเพื่อนสนิท แค่เห็นหน้าฉันนางก็เดาได้แล้วว่ากำลังคิดอะไรอยู่
“ใช่”
“แกนี่แค้นฝังใจหรือไงเรื่องมันก็ผ่านมาตั้งสิบปีแล้ว”
ถ้าลืมง่าย ๆ คงไม่ใช่นิสัยยัยลิลณาคนนี้หรอก
“ต่อให้หมอนั่นเข้าโลงฉันก็จะลากคอปลุกขึ้นมาถามว่าเขาปฏิเสธฉันทำไม!” พูดแล้วของขึ้น หน้าสวย ๆ ของฉันตอนนี้คงเป็นนางยักษ์ขมูขีไปแล้วแน่ ๆ
“ดูพูดเข้า ถ้าเกิดหมอนั่นยังไม่ตายแกก็เหมือนแช่งเขาไหม?”
ชิ! ทำมาเป็นเข้าข้างคนที่หักอกเพื่อนแกนะ
“แล้วไงต่อ?” เห็นวางสายไปนานแล้วแต่ไม่ลงจากรถสักที
“เดี๋ยวมีคนมารับ นั่นไงมาแล้ว” เสียงเพื่อนฉันแหลมากตอนนี้ แถมยังกระโดดลงจากรถอย่างไม่เรียกฉันสักคำ
อา... นั่นผู้ชายนี่
หรือว่าจะเป็นคนที่ยัยเกวนัดเดตเมื่อวาน?
ส่วนสูงใช้ได้ น่าจะราว ๆ ร้อยแปดสิบได้ หุ่นก็แมนสมชาย ส่วนเบ้าหน้าขนาดมองผ่านกระจกฟิล์มในรถยัยเกวยังดูออกเลยว่ามีออร่าความหล่ออยู่มากทีเดียว
เข้าใจเลือกนี่ แต่ก็นะ เพื่อนฉันสวยย่อมต้องมีคนหล่อ ๆ เข้ามาติดพันอยู่แล้ว
ฉันเลิกสนใจผู้ชายของเพื่อนล้วงมือหยิบตลับแป้งขึ้นมาส่องหน้าส่องตาว่าต้องเพิ่มเตินส่วนไหนหรือเปล่า ก่อนจะเห็นทางสายตาว่ายัยเกว กวักมือเรียกจากด้านนอกรถจึงจัดแจงเสื้อผ้าหน้าผมให้เรียบร้อยแล้วลงรถไป
เชื่อไหม?
เพียงแค่ขายาว ๆ ที่ไร้ซึ่งอาภรณ์ปกปิดเพราะเป็นส่วนที่เดรสฉันแหวกยาวจนเกือบถึงโคนขาอ่อนจรดพื้นด้วยส้นสูงสี่นิ้ว ผู้คนที่กำลังเดินผ่านแถวนั้นต่างมองมาที่ฉันราวถูกสะกดจิต