EPISODE - 02 / 3
“อย่ามองดุพี่แบบนั้นสิ พี่แค่แปลกใจ น้องสวย สวยมากจนไม่คิดว่าจะโสด” คิดจะชมฉันเพราะความสวยย่อมได้ แต่ไม่ควรกล้ำกรายเรื่องสถานะฉันให้มันมากแบบนี้
“เพราะผู้ชายสมัยนี้ค่อนข้างห่วยมั้ง...คะ”
ตอนแรกว่าจะไม่มีหางเสียงแต่เห็นสีหน้ากลืนไม่เข้าคายไม่ออกของยัยเกวแล้วสงสารนาง ไว้หน้าเพื่อนสักนิดก็แล้วกัน
“ผู้ชายห่วย ๆ เข้าใจเปรียบนี่” ส่วนนี่คือเพื่อนของแฟนนางอีกคน ท่าทางสุขุม เยือกเย็น ดูมีอายุกว่าคนอื่น ๆ
“เฮียทิวกำลังจะสื่ออะไร อย่ามองผมแบบนั้นสิ”
“ก็จะสื่อว่ามึงมันห่วยไงไอ้เอ็กซ์!”
เสียงสุดท้ายคือเสียงนายภูผาแฟนยัยเกว และฉันก็ได้รู้จักชื่อคนที่สร้างความรำคาญให้ฉันว่าหมอนี่ชื่อเอ็กซ์
“อย่าไปฟังไอ้ภูภามันนะน้องลิลลี่ พี่น่ะเป็นคนดี ไม่เคยมีเรื่องไม่ดีในชื่อเสียงเลย”
ฉันว่าเขาอยู่นิ่ง ๆ ไม่ต้องพูดให้ตัวเองดูดียังจะดูดีเสียกว่า หน้าตาผ่าน หล่อใช้ได้ แต่นิสัยฉันให้ศูนย์คะแนน
ทำมาเรียกชื่อฉันเสียสนิทสนมเชียวนะ
“ขอตัวไปเข้าห้องน้ำก่อนนะ”
เบื่อพวกหน้าม่อ อีกอย่าง อยากออกไปสูดอากาศบริสุทธิ์แบบส่วนตัวสักหน่อย
“ฉันไปเป็นเพื่อนไหม”
รีบส่ายหน้าปฏิเสธเพื่อนทันที ยัยเกวเลยเคารพการตัดสินใจฉันด้วยการส่งสายตาบอกว่าห้ามชิ่งหนีนางนะ
“ตรงไปในสุดเลี้ยวขวา เดินไปอีกสามเมตรห้องน้ำหญิงอยู่ซ้ายมือ” คนที่ฉันบอกว่าเขาดูสุขุมเป็นผู้ใหญ่สุดเอ่ยบอก ทำเพียงแค่ยิ้มบาง ๆ ก่อนจะหยิบกระเป๋าเดินออกมา
“คนเยอะฉิบ!”
จะเดินมาเข้าห้องน้ำแต่เห็นคนต่อแถวยาวเหยียดออกมานอกประตูเลยเปลี่ยนใจ
ด้านหน้าทางเดินที่สามารถทะลุออกไปด้านหลังได้ คงจะเป็นสถานที่สักทีที่สามารถให้อากาศหายใจฉันได้บ้างเลยตัดสินใจเดินตามทางออกมา
คลับที่นี่ใหญ่มาก คนเยอะหนาตา แถมด้านหลังนี้ก็เป็นลานกว้างที่ใช้ทำสนามบาสและสวนหย่อมเล็ก ๆ อา... มีชิงช้าอยู่ด้วย พอเห็นแล้วก็อยากไปนั่งเลย ท้องฟ้าวันนี้พระจันทร์ส่องสว่างด้วยสิ
“ส่งข้อความบอกยัยเกวดีกว่า”
เดี๋ยวหาตัวมานานเพื่อนฉันจะเป็นบ้าเอาเลยหยิบมือถือขึ้นมากดส่งข้อความบอกนางว่าฉันนั่งสูดอากาศด้านนอกสักพักเดี๋ยวเข้าไป
ไม่ถึงห้านาทีเพื่อนรักก็รีบตอบกลับมาให้ฉันระวังตัว
เฮอ! สงสัยนางจะลืมว่าฉันน่ะเทควันโดสายดำเชียวนะ
“ลมเย็นจัง”
พอได้แกว่งชิงช้าแบบนี้แล้วนึกถึงสมัยเป็นเด็กเลย ตอนนั้นฉันน่าจะสักเจ็ดขวบได้ ป๊าเป็นคนไกวชิงช้าให้ฉันนั่งส่วนเฮียเพลิงก็เอาแต่ล้อว่าชิงช้าแบบนี้ไม่เหมาะกับม้าดีดกะโหลกอย่างฉัน
วืด~
ฉึก!
“อ๊ะ! ใครน่ะ?”
จู่ ๆ ก็เหมือนมีอะไรสักอย่างลอยผ่านไป พอมองดูด้านหลังถึงได้เห็นว่าตรงต้นไม้ที่อยู่ห่างฉันแค่วาเดียวมีงูตัวหนึ่งถูกมีดเล็กปักกลางลำตัวห้อยอยู่กลางลำต้น
เห็นแล้วสยอง ดูท่าเหมือนงูตัวนั้นจ้องจะเล่นงานฉันเลยนะ
“ขะ...”
“ถ้าไม่ได้นัดใครไว้ในที่เปลี่ยว ๆ แบบนี้ก็คงมาหาเหยื่อ ขอเตือนอย่างหวังดีสวนนี้สัตว์มีพิษเยอะ ทางที่ดีลองมองหาที่อื่นเพื่อหาเหยื่อดีกว่านะ”
นั่นปากเขาเหรอ?
เมื่อกี้กำลังจะขอบคุณที่ช่วยฆ่างูตัวนั้นให้ แต่พอหมอนั่นพ่นคำพูดออกมากขอเปลี่ยนเป็นขอบคุณด้วยหมัดสักหมัดแทนได้ไหมอะ!?
“นี่! หลอกด่าเสร็จคิดจะชิ่งหรือไง?”
คิดว่าคนอย่างลิลณาจะยอมให้ใครที่ไหนก็ไม่รู้มายื่นด่าปาว ๆ อย่างไม่ให้เกียรติแบบนี้แล้วเดินหนีง่าย ๆ งั้นเหรอ
“นี่! ฉันบอกให้หยุด!” หากแต่พอฉันคุยด้วยอีกคนกลับเดินหนีไปอีกทาง แถมยังเป็นทางที่ค่อนข้างมืดอีกด้วย แต่งตัวก็ดูมีพิรุธแล้ว สวมเสื้อฮู้ดสีดำมายืนมืด ๆ แบบนี้คงไม่ใช่พวกโจรหรอกใช่ไหม?
“เรียกฉัน?”
คนถูกเรียกหยุดฝีเท้าแล้ว แต่เขาไม่ได้หันหน้ากลับมามองฉันสักเสี้ยวเดียว
“ตรงนี้มีแค่ฉันกับนาย จะให้เรียกใครได้อีก!”
โมโหก็โมโห รีบสาวเท้าเข้าไปใกล้ ๆ หวังจะเห็นหน้าคนที่ปากดีมาว่าร้ายดูถูกคนอื่นอย่างเสียมารยาท ทว่าพอก้าวมาได้ไม่กี่ก้าว รองเท้าส้นสูงที่สวมมากลับสะดุดท่อนไม้ที่มองไม่เห็นเพราะมันมืด