EPISODE - 01 / 1
สุดท้ายฉันก็ต้องเปลี่ยนลุคจากเสื้อกาวน์สีขาวมาแต่งตัวเรียบร้อยด้วยเชิ้ตแขนยาวสีกรมท่าและกระโปรงทรงเอยาวพอดีเข่า
อ้อ! ส่วนผมสีทองที่ยัยเกวให้ไปย้อมฉันไม่ทำหรอกนะ แต่เลือกสวมวิคผมสีทองแบบหน้าม้ามาแทน
“มาสัมภาษณ์งานค่ะ”
พอเข้ามาในอาคารสูงมากกว่าห้าชั้นกะเอาทางสายตาละนะ ฉันก็ตรงดิ่งมาที่จุดประชาสัมพันธ์ทันที
นี่คิดว่าแต่งตัวเรียบร้อยแล้วนะแต่ทำไมทุกคนถึงได้จ้องฉันตาไม่กะพริบขนาดนั้น
เฮ้อ... ไม่อยากหลงตัวเองสักเท่าไร
คนมันสวยอะนะ ใส่ชุดอะไรออร่าความสวยก็เอาไม่อยู่
“สัมภาษณ์งาน?”
เธอทำหน้างง ๆ กับคำถามฉันนิดหน่อย ฉันเลยอธิบายอีกที
“วันนี้ฉันมีนัดมาสัมภาษณ์งานที่นี่ค่ะ”
“วันนี้มีสัมภาษณ์งานด้วยเหรอคะ”
เอ้า! อะไรของหล่อนเนี่ย
เป็นพนักงานใหม่หรือเปล่าทำไมไม่รู้ว่าวันนี้ที่บริษัทต้องมีการสัมภาษณ์พนักงานใหม่ มายืนเป็นแผนกประชาสัมพันธ์ได้ยังไงเนี่ยใครจ้าง!?
“ที่นี่บริษัท RPK จิวเวลรี่หรือเปล่าคะ”
ฉันก็ว่าเข้าถูกบริษัทอยู่นะ ก่อนเดินเข้ามาก็ดูป้ายชื่ออันใหญ่โตตั้งหลายรอบ
“ใช่ค่ะ อ้อ! นึกออกแล้ว สัมภาษณ์งานเลขาของท่านประธานใช่ไหมคะ”
สงสัยจะอึ้งความสวยฉันเมื่อกี้จนลืมงานลืมการไปหมด
“ใช่ค่ะ”
“งั้นเชิญติดต่อที่ชั้นห้านะคะ ขึ้นลิฟต์ทางขวามือได้เลยค่ะ”
“ขอบคุณค่ะ”
เกือบโดนลิลณาคนนี้เหวี่ยงไปแล้วไหม?
ถ้าฉันเป็นหัวหน้าแผนกของหล่อนจะพิจารณาผู้หญิงคนนี้ให้หางานใหม่สำรองไว้ตั้งแต่ตอนนี้เลย
“ชั้นห้า ๆ”
ปากทวนชั้นที่ต้องไป มือเรียวสวยที่วันนี้ทำเล็บสีมุกอมชมพูอ่อน ๆ เพื่อไม่ให้โดดเด่นน่าเกลียดยกขึ้นกดปุ่มเลขห้าแล้วยืนสวย ๆ รอลิฟต์ตัวนี้พาไปยังจุดหมาย
ติ๊ง!
เสียงลิฟต์ดังขึ้นที่ชั้นสาม มีคนกลุ่มหนึ่งเดินเข้ามาและหนึ่งในนั้นดันเดินมาชนฉัน!
“โอ๊ย!”
ชนยังไงให้คนสวยไม่ล้ม?
ก็ชนฉันจนชิดผนังลิฟต์น่ะสิ แถมยังเอามือมาถือวิสาสะกอดเอวฉันไว้อีก
พลั่ก!
คิดว่าเล่นกับใครอยู่คะ รีบยกมือผลักอีกคนออกทันที เมื่อกี้ตั้งใจจะบิดมือไวของหมอนี่แต่ดูเหมือนเขาจะมีชั้นเชิงการต่อสู้อยู่พอควรเลยทำแบบนั้นไม่ได้
“เดินไม่ดูตาม้าตาเรือหรือยังไง!”
แว้ดเสียงออกไป พยายามจ้องหน้าคนที่ชนฉันทว่าเขาสวมทั้งแมสก์และหมวกแก็ปจนมองอะไรไม่เห็นนอกจากดวงตา
ติ๊ง!
เสียงลิฟต์ดังอีกครั้ง และนั่นเหมือนเป็นโอกาสดีให้คน ๆ นั้นหนีออก ไปได้
โธ่เว้ย! ซวยอะไรตั้งแต่ก้าวเข้ามาบริษัทนี้กันนะ
ดีนะคนที่จะมาทำงานที่นี่ไม่ใช่ฉันแต่เป็นยัยเกว ไม่งั้นฉันคงหาความสุขกับที่แบบนี้ไม่ได้แน่ ๆ
“นั่นใช่คนของที่นี่ไหมคะ”
เมื่อคนก่อเรื่องไม่อยู่ฉันจึงหันไปถามคนที่เข้ามาพร้อมกับผู้ชายคนนั้น
ทุกคนต่างส่ายหน้าไปมาเหมือนไม่รู้จักหากแต่ก็มีหลบสายตาฉันบ้างก่อนจะทยอยเดินออกจากลิฟต์ตามหมอนั่นไป
“ระบบรักษาความปลอดภัยไม่มีหรือไงนะ” บ่นอุบอิบคนเดียวก่อนจะจัดแจงเสื้อผ้าที่ยับเล็กน้อยให้เป็นระเบียบดูกระเป๋าสะพายว่ามีของหายหรือเปล่า
โอเค ทุกอย่างอยู่ครบ
ว่าแต่... เมื่อกี้กลิ่นน้ำหอมเขาดูแพงมากเลยนะ ไม่น่าจะเป็นคนส่งของหรือพนักงานระดับทั่วไป
แต่ช่างเถอะ! จะเป็นใครก็ช่างอย่าได้เจอกันอีกเชียว ไม่งั้นแม่จะจระเข้ฟาดหางให้ล้มกองพื้นไปเลย
ฟู่...
ในที่สุดฉันก็ขึ้นมาถึงชั้นห้าแล้ว ประตูลิฟต์เปิดอ้าออกกว้างทำให้เห็นว่าชั้นนี้แตกต่างจากชั้นอื่น ๆ ที่เคยเห็นแวบ ๆ
พื้นที่ตรงหน้าฉันตั้งแต่หน้าลิฟต์ไปจนถึงเกือบครึ่งของชั้นนี้จะเป็นที่โล่งคล้ายเป็นที่นั่งรับรองแขกที่มาติดต่องาน ตกแต่งได้เรียบแต่ดูหรูด้วยเฟอร์นิเจอร์ระดับพรีเมียม แถมยังมีตู้โชว์พวกเพชรต่าง ๆ ที่เดาได้ว่านั่นแค่ของเลียนแบบไว้โชว์ให้ลูกค้าดูเนื้องาน
ถัดจากโซนนี้ไปจะเห็นเป็นไม้เนื้อดีลายสวยกั้นเป็นห้องใหญ่ ๆ ซ้ายขวาด้านละห้อง และจะมีห้องที่อยู่ตรงกลางทางเดินเป็นประตูไม้สักสลักลวดลายสวยงามเขียนไว้ว่า ‘CEO’ และถ้ามองดี ๆ จะเห็นห้องกระจกใสอยู่ด้านหน้าซ้ายมือของฉันที่มีพนักงานคนหนึ่งนั่งประจำตำแหน่งอยู่