ตอนที่ 4 สิ้นฤทธิ์ (2)
เวลาผ่านไปได้ครู่หนึ่ง ภาคินก็หลับพริ้มลงโดยสมบูรณ์ เด็กหนุ่มมองชะเง้อมองร่างสูงที่นอนหายใจเข้าออกด้วยจังหวะสม่ำเสมออยู่บนเตียง
ครั้นเห็นว่าภาคินหลับแล้วเขาจึงผุดลุกขึ้นยืน แล้วเดินไปยังเตียงนอน พร้อมกับจดจ้องไปที่ใบหน้าหล่อเหลา นิ้วมือเรียวเล็กเอื้อมไปหารอยสักบนใบหน้าของร่างสูงหมายแตะสัมผัส ขณะสมองคาดเดาว่ารูปดาบที่ไขว้กากบาทอยู่ตรงบริเวณใต้หางตาของเขาเป็นเพียงแค่หมึกดำที่อีกฝ่ายเอามาขีดเขียนเล่นบนใบหน้า
พรึบ!
ยังไม่ทันที่ยูฟ่าจะได้แตะต้อง มือใหญ่พลันคว้าหมับเข้าที่ข้อมือของเด็กหนุ่ม ก่อนที่ภาคินจะพลิกตัวขึ้นคร่อมเพื่อกักกันคนตัวเล็กกว่าไว้ใต้ร่าง
“มึงคิดจะทำอะไร” ภาคินถามออกมาเสียงเข้ม
ถึงแม้ว่าเขาจะหลับไปแล้ว ทว่าประสาทสัมผัสกลับไวยิ่งกว่าคนปกติทั่วไป อาชีพของเขาจำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องมีสิ่งนี้
“ปะ...เปล่า ผมแค่สงสัยว่าที่อยู่บนหน้าของพี่มันคือหมึกดำหรือเปล่า” ยูฟ่าปฏิเสธด้วยน้ำเสียงติดขัด เขาเองก็รู้สึกตกใจไม่น้อยกับการกระทำที่ว่องไวของภาคิน
“ลองเลียดูมั้ยล่ะ จะได้รู้ว่าเป็นหมึกดำหรือเปล่า”
“ไม่ พี่ไม่ต้องมาหลอกผมให้ยาก พี่อาจจะป้ายยาพิษไว้ตรงนั้นก็ได้ เกิดผมเลียไปแล้วตายขึ้นมาจะทำยังไงล่ะ” ยูฟ่าปฏิเสธเสียงแข็ง จินตนาการของเขามันช่างล้ำเลิศยิ่งกว่าอะไร
ภาคินแค่นหัวเราะในลำคอ อยากกลั้วหัวเราะให้กับความคิดเพ้อเจ้อนั้น ทว่าก็จำต้องพยายามข่มกลั้นมันเอาไว้
“งั้นลองตรงนี้มั้ย” นิ้วเรียวยาวยกขึ้นแตะชิดริมฝีปากของตนเอง เพื่อชี้ให้เด็กหนุ่มดู
“...” ยูฟ่ามองปากหยักลึก ก่อนจ้องลึกเข้าไปในดวงตาของคนตรงหน้า ที่กำลังสบประสานลงมา
“อร่อยนะลองกินดูมั้ย” ภาคินแลบลิ้นเลียริมฝีปากตนเองเล็กน้อย ท่าทีที่แสดงออกไปคล้ายต้องการยั่วเย้า
เขาไม่คิดเลยว่าในชีวิตต้องมาทำอะไรแบบนี้ และที่ทำไปก็เพราะต้องการแกล้งเด็กหนุ่มเท่านั้น ยูฟ่ามองตามลิ้นหนาที่กำลังกวาดเลียลิ้มฝีปากอย่างอ้อยอิ่ง
“ปากผมก็มีทำไมผมต้องไปเลียปากพี่ด้วยล่ะ”
“ของตัวเองมันจะไปอร่อยเท่าของคนอื่นได้ไง”
เด็กหนุ่มขมวดคิ้ว ทำไมเขาไม่เห็นรับรู้เรื่องพวกนี้มาก่อนเลย...
ภาคินโน้มใบหน้าเข้าไปหายูฟ่าที่กำลังทำหน้างงงวย ครั้นจดจ้องนานเข้า ริมฝีปากเล็กสีแดงระเรื่อที่ปรากฏอยู่ตรงหน้าก็ดึงดูดให้เขาเข้าหาโดยอัตโนมัติ คล้ายกับมีมนต์สะกดอะไรบางอย่างที่กำลังชักนำให้เขาหลงใหล
ก๊อก...ก๊อก...ก๊อก
ภาคินหลุดออกจากภวังค์ที่กำลังนึกคิด เขาผละถอยห่างจากเด็กหนุ่มแล้วลงไปยืนที่ข้างเตียงอย่างรวดเร็ว
ประตูห้องนอนของยูฟ่าเปิดอ้าออกอย่างเฉียดฉิว ถ้าเขาช้ากว่านี้อีกนิดทุกอย่างคงจบเห่
“คุณเคนให้ฉันเอาของมาให้นาย” บุคคลที่มาใหม่หันมาพูดกับภาคิน พร้อมยื่นถุงขนาดใหญ่หลายใบให้แก่เขา คาดว่าคงเป็นเสื้อผ้าและของใช้ ภาคินยื่นมือไปรับเอาไว้ ก่อนจะวางลงที่พื้นข้างลำตัว
“ส่วนนี่คือหมอนกับผ้าห่ม” ชายอีกคนหนึ่งเดินเข้ามาพร้อมกับยื่นสิ่งของเหล่านั้นให้กับภาคิน เขามองจ้องไปที่มันแล้วเงยหน้าขึ้นสบตากับคนที่ถือมาให้
“แล้วที่นอนล่ะ”
“นายก็นอนพื้นไปสิ” ชายคนนั้นตอบกลับอย่างรวดเร็ว
ภาคินจึงจ้องเขม็งไปยังผู้ชายคนนั้นด้วยแววตาดุดัน คนพวกนี้ท่าจะบ้า นอกจากผ้าห่มผืนนิดเดียวแล้วยังให้เขานอนพื้นอีก
คาดเดาได้ล่วงหน้าเลยว่าอาจจะตายเพราะป่วยนี่แหละ...
ภายในห้องเปิดแอร์ซะเย็นเฉียบ อย่าให้พูดเลยว่าพื้นจะเย็นมากแค่ไหน เดิน ๆ ไปก็นึกว่าตนเองอยู่ขั้วโลกเหนือ นี่ขนาดใส่รองเท้ายังเย็นทะลุขึ้นมาได้เลย
“ไปหาที่นอนมาให้ฉัน” ภาคินพูดสั่งออกมาเสียงเรียบนิ่ง
ชายร่างใหญ่ทั้งสองต่างพากันอึกอักกับสายตาของภาคิน พวกเขารู้สึกเหมือนมีมีดคม ๆ ที่พร้อมจะกรีดลงบนดวงตาในยามที่ภาคินสบมอง
“ดะ...เดี๋ยวไปหามาให้” ชายทั้งสองพูดออกมาโดยพร้อมเพรียงกันด้วยน้ำเสียงตะกุกตะกัก
ก่อนจะรีบเดินผลุบหายออกไปจากห้องอย่างรวดเร็ว ภาคินเดินไปปิดประตูแล้วล็อกเอาไว้เพื่อป้องกันไม่ให้ใครเข้ามาขัดจังหวะของเขาอีก ร่างสูงเดินย้อนกลับไปหาเด็กหนุ่มที่เตียงนอน เขาชะโงกหน้าไปดูเมื่อรู้สึกว่ายูฟ่านิ่งเงียบผิดปกติ
ซึ่งสิ่งที่เห็นในยามนี้ก็คือคนตัวเล็กกำลังหลับตาพริ้ม ขณะวงแขนกอดตุ๊กตาหมีเน่า ๆ ของตนเองแน่น ราวกับกลัวว่าจะถูกพรากออกจากกัน
“โตจนจะมีเมียได้อยู่แล้วยังนอนกอดตุ๊กตาอยู่อีก” ภาคินบ่นพึมพำเสียงเรียบนิ่ง
สายตาหลุบมองสำรวจใบหน้าหวานยามหลับใหล ผิวของยูฟ่าช่างนวลเนียนเกลี้ยงเกลา และขาวผ่อง มิหนำซ้ำยังขึ้นริ้วชมพูระเรื่อ
คาดว่าคงเป็นเพราะโวยวายมากเกินไป จึงสิ้นฤทธิ์อย่างที่เห็น...
“แต่หน้าอย่างมึงเป็นผัวใครไม่ได้หรอก”
ไม่รู้อะไรดลใจให้ภาคินคิดเยี่ยงนั้น และปากมันก็โพล่งว่องไวเท่าความคิด เขาถึงได้เอ่ยพูดมันออกไป นัยน์ตาคมมองเด็กหนุ่มที่กำลังหลับใหลอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะละสายตาและขยับขึ้นไปบนเตียง ร่างสูงกำยำล้มตัวลงนอนเคียงข้างคนตัวเล็ก
เวลาภาคินสนทนากับยูฟ่าทีไรเหมือนเขาจะใช้พลังงานเยอะพอ ๆ กัน เขาจึงอยากจะนอนพักเอาแรงเสียหน่อย เพราะกว่าเด็กหนุ่มจะตื่นเขาคงชาร์จแบตตนเองเต็มพอดี ครั้นมาอยู่ใกล้กันในระยะห่างเพียงน้อยนิด ภาคินจึงมองเห็นองค์ประกอบของใบหน้ายูฟ่าได้อย่างชัดเจน
ปากนิดจมูกหน่อย ทุกอย่างจิ้มลิ้มแลดูเป็นคนนุ่มนิ่มน่าทะนุถนอม…
เมื่อความคิดนั้นแวบเข้ามาในหัว ภาคินจึงรีบสะบัดทิ้งออกไปให้พ้นจากสมอง ก่อนพลิกตัวนอนหันหลังให้ยูฟ่า แล้วหลับตาลงช้า ๆ ผ่านไปครู่หนึ่งพลันรับรู้ได้ถึงแรงไหวยวบ
ทั้งสองต่างฝ่ายต่างนอนหันหลังให้แก่กัน เพียงไม่นานนักภาคินก็เข้าสู่ห้วงนิทราตามไปติด ๆ…
