ตอนที่ 3 สิ้นฤทธิ์ (1)
“ห้องของนายน้อยอยู่ริมสุด นายเคาะประตูแล้วเดินเข้าไปได้เลย ฉันคงส่งแค่ตรงนี้เพราะต้องไปทำงานให้นายใหญ่ต่อ”
เคนพูดบอก หลังจากที่พวกเขาเดินมาหยุดอยู่ที่หน้าห้องห้องหนึ่ง ราวกับเป็นเพียงแค่ประโยคบอกเล่า เพราะไม่รอคำตอบรับใด ๆ เขาก็เดินเฉียดผ่านไหล่ภาคิน เพื่อย้อนกลับไปทางเดิม
นัยน์ตาคู่คมมองจดจ้องไปยังประตูไม้บานใหญ่ลวดลายวิจิตรงดงาม ก่อนยกมือขึ้นเคาะสองครั้งเป็นเชิงขออนุญาต และไม่รอให้บุคคลที่อยู่ด้านในตอบกลับ มือใหญ่ผลักดันเปิดประตูแล้วย่างก้าวเข้าไปภายในห้องตามที่เคนบอก
อาจจะเป็นเพราะต้องอาศัยอยู่ในห้องนี้อยู่แล้ว ดังนั้นต่อให้อนุญาตหรือไม่ยังไงเขาก็ต้องเข้าไปอยู่ดี
“พี่สาวมาแล้วเหรอครับ”
น้ำเสียงสดใสบ่งบอกถึงบุคลิกของเจ้าตัวที่เป็นคนร่าเริงโพล่งดังขึ้นเมื่อบานประตูเปิดแง้ม ก่อนหนุ่มน้อยจะหันหลังกลับไปมองยังจุดนั้นด้วยแววตาพราวระยับ
ครั้นสายตาของยูฟ่าปะทะเข้ากับดวงตาคมดุ และใบหน้าที่มีรอยสักเล็ก ๆ อันเป็นเอกลักษณ์โดดเด่น เด็กหนุ่มพลันขมวดคิ้วมุ่นพร้อมด้วยแววตาที่ฉายชัดถึงความไม่พอใจอย่างแรงกล้า เนื่องจากจำได้ดีว่าบุคคลตรงหน้าคือพี่ชายวัยทอง ที่เคยพบเจอกันมาแล้วหนหนึ่ง
“พี่อีกแล้วเหรอ พี่มาทำอะไรที่นี่” ยูฟ่าถามออกมาทันควันด้วยความฉงน
ภาคินใช้เท้าปิดประตูเอาไว้ตามเดิม ก่อนจะเดินตรงเข้าหาคนตัวเล็กกว่าที่กำลังนั่งกอดตุ๊กตาหมีตัวใหญ่อยู่บนเตียงกว้าง
“ก็มาเป็นบอดี้การ์ดให้มึงไง” สุ้มเสียงทุ้มต่ำตอบกลับ มาดนอบน้อมที่เคยมีก่อนหน้ามลายหายไปจนหมดสิ้นเมื่อได้อยู่กันตามลำพัง
“แต่ผมอยากได้บอดี้การ์ดสวย ๆ ไม่ได้อยากได้บอดี้การ์ดหน้าเหมือนโจรแหกคุกมาแบบพี่” ยูฟ่าพูดตอกกลับในทันที
ถึงแม้น้ำเสียงของเขามันจะยังคงอยู่ในโทนปกติ ทว่าคำพูดคำจาและคำเปรียบเปรยของเด็กหนุ่มที่เอื้อนเอ่ยออกมานั้นกลับทำให้ภาคินรู้สึกกรุ่นโกรธ เด็กนี่เอาอะไรมาพูดว่าเขาหน้าตาเหมือนโจร หนังสือเล่มไหนบัญญัติไว้เหรอว่าโจรต้องมีลักษณะอย่างไร
พูดเพ้อเจ้อ มันน่าเอาลูกปืนกรอกปากเสียจริง...
“มึงว่าใครเป็นโจรไอ้เด็กแก่แดด” ภาคินถามออกมาเสียงห้วน พลางเดินเข้าไปใกล้ยูฟ่ามากยิ่งขึ้น
คนอายุน้อยกว่ารีบกระถดถอยหลังลงจากเตียง แล้วเคลื่อนย้ายตนเองไปอยู่อีกฟากหนึ่ง เหมือนเด็กน้อยที่ทำผิดแล้วต้องเข้ามุมเพื่อสำนึก ทว่าสิ่งที่ยูฟ่าทำเป็นเพียงเพราะต้องการหลีกหนีจากชายร่างสูงตรงหน้าต่างหาก
แม้จะรู้สึกหวาดหวั่น กระนั้นวงแขนกลับกอดกระชับตุ๊กตาเอาไว้แน่นไม่ยอมปล่อย...
ภาคินขยับเข้าไปหาเด็กหนุ่มไม่ได้ เนื่องจากมีเตียงใหญ่คอยขวางกั้น หากเขาเดินอ้อมไปอีกทางเดี๋ยวเด็กนั่นก็กระโดดข้ามเตียงไปมาไม่จบไม่สิ้น
ส่วนตัวเขาไม่อยากมาวิ่งไล่จับอะไรไร้สาระ ที่ทั้งเสียเวลาและเปลืองแรง จึงทรุดกายนั่งลงปลายเตียงพลางเหยียดแข้งเหยียดขาด้วยท่วงท่าสบาย
“จะเอาบอดี้การ์ดสวย ๆ ถามจริงชักว่าวเป็นหรือยัง”
ภาคินโพล่งถามออกมาตรง ๆ อย่างไม่อ้อมค้อม ด้วยความที่เป็นผู้ชายเหมือนกันย่อมรู้และเข้าใจดีว่าเด็กคนนี้ต้องการอะไร
ดั่งคำที่ว่าผีเห็นผี...
กระนั้นยูฟ่ากลับแสดงสีหน้าบึ้งตึง หลังได้ยินคำถามนั้นหลุดลอดออกมาจากริมฝีปากหยักลึก
“ผมเก่งกว่าพี่อีก!” ยูฟ่าโวยวายอย่างไม่ยอมแพ้ หลังถูกสบประมาท
ซึ่งล้วนสวนทางกับความเป็นจริง เขาไม่ถึงขั้นเก่งกาจอะไรมากนัก แค่งู ๆ ปลา ๆ เท่านั้น ประโยคเมื่อครู่ที่พูดออกไปก็เพราะกลัวจะเสียฟอร์ม
อันที่จริงมันเป็นเรื่องปกติที่ทุกคนอยากจะปลดปล่อยเมื่อมีอารมณ์ การช่วยตัวเองไม่ใช่เรื่องผิด ต่อให้เป็นผู้หญิงหรือผู้ชายต่างก็มีสิทธิ์หาความสุขทางกายให้แก่ตนเองทั้งนั้น
ยิ่งเป็นเด็กที่กำลังก้าวเข้าสู่วัยรุ่นมักจะมีการเปลี่ยนแปลงทางร่างกายหลาย ๆ ด้าน บางคนก็เกิดความอยากรู้อยากลองขึ้นมา ดังนั้นสิ่งที่ผู้ใหญ่ควรทำคือต้องสอนเรื่องเพศศึกษาในทางที่ถูกต้อง ไม่ใช่เอาแต่ห้าม เพราะกลัวผิดขนบธรรมเนียมประเพณีอันดีงาม ทั้งที่ความเป็นจริงล้วนสวนทาง ข่าวข่มขืนมักมีให้เห็นจนเกลื่อนกลาด นี่น่ะเหรอเมืองพุทธ
หาก Sex Toy และ Sex Worker ถูกกฎหมายคงช่วยลดปัญหาที่ก่อเกิดได้บ้าง ไม่ใช่อ้างแต่ความคิดโบราณ ๆ สุดท้ายก็มีอาชญากรรมเกิดขึ้นไม่หยุดหย่อน
“เหรอ? อยากรู้จริง ๆ ว่าเก่งแค่ไหน” มุมปากหยักกระตุกยิ้มร้ายกาจ
ภาคินขยับตัวเคลื่อนย้ายไปกึ่งกลางเตียง การกระทำเช่นนี้ยิ่งส่งผลให้ยูฟ่ารีบเดินหลบไปอีกด้านจนแทบจะสิงติดฝาผนังห้อง
ความคิดหวาดกลัวว่าร่างสูงจะทำร้ายตนเองแวบเข้ามาในหัว ทว่าสิ่งที่ภาคินทำกลับกลายเป็นเพียงแค่ล้มตัวลงนอนแผ่หลาเสียอย่างนั้น
“นั่นเตียงของผมนะ พี่มีสิทธิ์อะไรไปนอนบนนั้น!” ยูฟ่าโวยวายเสียงดัง พลางขึงตาใส่อย่างห้าวหาญ
เด็กหนุ่มไม่ชอบเลยจริง ๆ เวลาที่ใครมายุ่มย่ามกับของของเขา...
“ก็กูจะนอน มึงมีปัญหาอะไรงั้นเหรอ” คิ้วเข้มเลิกขึ้นข้างหนึ่ง พลางปรายมองเด็กหนุ่มด้วยหางตาอย่างไม่ยี่หระ
ตัวสูงยังไม่ถึงอกเขาด้วยซ้ำ ก็ได้แค่ส่งเสียงโหวกเหวกโวยวายเท่านั้น หากคิดจะทำอะไรมากกว่านี้ถ้าถูกเขาจับทุ่มลงกับเตียงแล้วอย่าร้อง
“ใช่ผมมีปัญหา ถ้าพี่ยังไม่ลุกออกไปผมจะจัดการพี่แน่” ยูฟ่าขู่ฟ่อ พร้อมกับขึงตาใส่ไม่หยุดหย่อน
เขาหวังสักนิดว่าร่างสูงจะเกรงกลัว ทว่าสำหรับภาคินแล้วหลังได้เห็นท่าทีที่เด็กหนุ่มแสดงออกมาเขากลับคิดว่ามันตลกเสียมากกว่า
“ไปวางตุ๊กตาที่มึงกอดลงก่อนไปแล้วค่อยมาขู่กู” น้ำเสียงทุ้มเข้มเอื้อนเอ่ย
ยูฟ่าจึงหลุบมองตุ๊กตาหมีที่อยู่ในอ้อมแขน แต่ก็ไม่วางมันลงอยู่ดี เด็กหนุ่มถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่คล้ายเอือมระอา ก่อนจะเดินไปนั่งบนโซฟาหนังชั้นดีที่ตั้งอยู่ตรงมุมห้อง
ยูฟ่าไม่อยากจะยุ่งกับภาคินแล้ว เขากลัวว่าหมีน้อยในอ้อมกอดจะได้รับอันตราย...
เมื่อเห็นว่าเด็กหนุ่มสงบศึกลง ภาคินจึงหลับตาลงอย่างเชื่องช้า เขารู้สึกผ่อนคลายอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน กลิ่นหอมของแป้งเด็กที่อบอวลอยู่ภายในห้องลอยเข้ามาปะทะจมูกโด่งสัน ภาคินรู้สึกเคลิบเคลิ้มและใกล้คืบคลานเข้าสู่ห้วงนิทราเต็มที
อันที่จริงภาคินควรระวังตัวให้มากกว่านี้ แต่อีกใจก็คิดว่าเด็กนี่คงไม่กล้าทำอะไรเขาแน่นอน
