EPISODE - 02 / 1
"อีกครึ่งชั่วโมง! ซวยแล้วนาบีงานนี้ต้องโดนซ่อมแน่ๆ" ฉันรนรานเกือบจะร้องไห้เมื่อเห็นเวลาที่เหลือที่จะตัดสินชะตาฉันในวันนี้
"มีอะไรเหรอครับคุณนาบี" ลุงเข้มที่กำลังเปิดประตูหลังให้ถามขึ้น
"ลุงคะ เหยียบให้มิดเลยนะคะ บีจะไม่ทันแล้วจริงๆ" ฉันเร่งลุงเข้มก่อนจะกระโจนเข้าไปนั่งเบาะหลังแบบอยู่ไม่เป็นสุข
เอี้ยดดด!!
จังหวะที่รถจะออกจากรั้วประตูบ้าน ลุงเข้มก็เหยียบเบรคจนรถหยุดกะทันหัน ทำเอาหน้าผากฉันทิ่มเข้ากับเบาะด้านหน้าอย่างจัง
"คุณนาบีเป็นไรไหมครับ ขอโทษทีเมื่อกี้รถคุณเอฟวันขับปาดหน้ามา" ฉันมองตามคำบอกเล่าของลุงเข้มก่อนจะเห็นเฟอรารี่สีดำขลับจอดขวางอยู่ และเพียงไม่นานเจ้าของรถก็ลงจากรถเดินมาทางรถที่ฉันนั่งอยู่
ก๊อก ก๊อก เขาใช้ข้อนิ้วหลังมือเคาะกระจก ลุงเข้มเลยลดกระจกลงก่อนจะเอ่ยถาม "มีอะไรครับคุณเอฟวัน"
"เธอ!" เอฟวันไม่ได้สนใจคำถามลุงเข้มเขาหันมาถามฉันแทน
"คะ?" งงมากนาทีนี้ แต่อีกใจกำลังสาปไสไล่ส่งเขาอยู่ที่บังอาจมาขัดจังหวะเวลาอันมีค่าของฉัน
"ดูรีบ? เดี๋ยวไปส่งให้ ลุงเข้มเอารถไปเก็บเถอะครับ" รอยยิ้มกว้างที่มองแล้วมีเสน่ห์ปรากฎขึ้นบนใบหน้าเจ้าของคำพูด
"จะไม่รบกวนคุณเอฟวันเปล่าๆ เหรอครับ"
นั่นสิ! จู่ๆ จะมาอยากไปส่งฉันเพื่ออะไร?
"ไม่เป็นไรครับ อย่างน้อยผมน่าจะเร็วกว่าลุง" รอยยิ้มปรากฎขึ้นอีกครั้งที่มุมปากหล่อเหลานั้น
"เอางั้นก็ได้ครับ คุณนาบีคงไม่ว่าอะไรใช่ไหมครับ" หลังจากตกลงกับเอฟวันเสร็จลุงเข้มก็หันมาถามความเห็นฉัน ฉันเหลือบมองนาฬิกา เหลืออีกยี่สิบสี่นาที
เอาวะ! ตอนนี้คงต้องพึ่งสกิลการขับรถของเอฟวันดูแล้วล่ะ อย่างน้อยหนุ่มๆ แน่นๆ แบบเขาคงจะตีนผีกว่าลุงเข้มล่ะมั้ง
ตอนนี้ฉันเปลี่ยนรถมานั่งอยู่กับเอฟวันเรียบร้อยแล้ว ไม่อยากบอกเลยสกิล การขับรถของเขาราวกับนักซิ่ง ใช้เวลาแค่สิบกว่านาทีเขาก็พาฉันมาส่งถึงหน้าตึกที่ต้องสอบสำเร็จ
"ขอบคุณนะคะ" ฉันยกมือไหว้อย่างมีมารยาทและกำลังจะเปิดประตูรถลงไปแต่คนด้านหลังกลับรั้งฉันไว้ก่อน "เธอจำฉันไม่ได้?" คำถามเขาทำฉันขมวดคิ้วมุ่น
"คะ?" กำลังมึนงงน่ะตอนนี้
"ยัยเด็กน้อยเธอจำฉันไม่ได้จริงดิ" ครั้งนี้เขาแทนตัวฉันว่า 'ยัยเด็กน้อย'
เป็นสรรพนามที่ไม่ค่อยรื่นหูเลยสักนิด
"ถ้าจำไม่ผิดคุณคือ คุณเอฟวันที่อยู่ในงานเลี้ยงวันเกิดเฮียธันเตอร์เมื่อคืน"
ฉันตอบตามที่เข้าใจ
"หึ" เสียงหัวเราะดังขึ้นเบาๆ พร้อมรอยยิ้มมุมปากที่ยกขึ้นเล็กน้อย
"แล้วถ้าไม่ใช่เมื่อคืนล่ะ" คิ้วฉันขมวดอีกครั้ง นึกไม่ออกจริงๆ ถ้าไม่ใช่เราเจอกันในงานเมื่อคืนแล้วพวกเราไปเจอกันตอนไหน
"ขอโทษทีนะคะ บีคิดไม่ออก"
"เหรอ?" น้ำเสียงยียวนถูกส่งออกมา สายตาที่เขามองมาทำฉันเสียวสันหลังแปลกๆ "บีขอตัวนะคะ" ตอนนี้เหลือเวลาวิ่งสี่คูณร้อยเข้าห้องสอบแค่เจ็ดนาที
"ขอคำยืนยันอีกครั้ง"
อะไรของเขาเนี่ย! คนยิ่งรีบๆ อยู่
บอกว่าจำไม่ได้ยังจะมาคาดคั้นเอาคำตอบอยู่นั่นแหละ!
"บังเอิญว่าสมองจดจำแต่คนที่สำคัญๆ น่ะค่ะ แค่นี้คุณน่าจะเข้าใจนะคะ"
น้ำเสียงออกแนวแข็งกระด้างและแดกดัน แต่แทนที่เอฟวันจะไม่พอใจเขากลับยิ้มน้อยๆ ก่อนจะพูดอะไรบางอย่างที่ฉันไม่สนใจจะอยู่ฟังเพราะต้องรีบเข้าห้องสอบแล้วตอนนี้
"หึ! ปากดีแบบนี้สงสัยต้องจับเบิร์นไขมันบนเตียงอีกสักยกสองยก"
"โอ๊ยแก!! ฉันล่ะลุ้นกับแกแทบตาย"
"นั่นสิมึง แบบเส้นใยแดงผ่าแปดผ่าเก้าเลย" เสียงสองสาวที่กำลังคุยกันออกรสออกชาติถึงเวลาที่ฉันเข้าห้องควิซเมื่อเช้าดังขึ้น
"อย่าว่าแต่พวกแกที่ลุ้นเลย" ฉันเป่าลมออกจากปากเมื่อคิดย้อนไปถึงเหตุการณ์ลุ้นระทึกเมื่อชั่วโมงที่แล้ว ตอนที่รีบชิ่งไม่อยากอยู่ให้เอฟวันถามคำถามไร้สาระพวกนั้นอีกฉันต้องรีบวิ่งบนรองเท้าส้นสูงสามนิ้วขึ้นมายังชั้นสามด้วยเวลาเพียงหกนาที
และพอขาซ้ายก้าวเข้าเขตประตูห้องเสียงกริ่งบ่งบอกว่าหลังจากนี้ห้ามนักศึกษาคนใดเข้าหรือออกห้องนี้จนกว่าจะสอบเสร็จก็ดังขึ้น
แล้วไอ้ฉันที่เข้าไปเพียงแค่ครึ่งตัวก็ยืนแข็งทื่ออยู่ตรงนั้นจนอาจารย์คุมสอบจ้องจิกและยอมปล่อยเข้าไปในที่สุด
"ยังดีที่แต้มบุญแกเหลือเยอะ" ซีซีแกล้งเย้า
"เออ นึกว่าเพื่อนรักจะหน้าแหกแล้ว" ซันนี่แซวตาม
'ซีซี' กับ 'ซันนี่' เป็นเพื่อนสนิทฉันน่ะ ทั้งสองคนเป็นฝาแฝดกัน
"ต้องโทษหมอนั่น" คิดแล้วก็น่าโมโห
ตอนแรกก็ต้องขอบคุณแหละที่เอฟวันมาส่งทันเวลา แต่ถ้าเขาไม่มัวชวนฉันคุยเรื่องไร้สาระพวกนั้นฉันคงไม่เกือบตกสอบครั้งนี้
"หมอนั่น หมอไหนวะ นี่นอกจากพี่สนิมคนแมนแห่งคณะวิศวะแล้วยังมีหนุ่มใหม่มาหลีแกอีกเหรอ" ยัยซันนี่ทำหน้าตาอยากกินเผือกสุดๆ ถาม
"มาหลงมาหลีอะไรยะ ก็แค่คนรู้จักของคนรู้จักอีกที"
"โว้ย! อะไรจะซับซ้อนขนาดนี้" ซีซีโวยวาย ยัยนี่เป็นคนอารมณ์ร้อน เวลาไม่ได้ดั่งใจก็จะใช้เสียงข่มเป็นลำดับแรก
"ช่างเถอะอย่าไปใส่ใจเลย" ฉันโบกมือห้ามทัพคู่แฝดไม่ให้ซักไซ้ต่อ
"เก้านาฬิกา เตรียมตัวเลยมึง" ซันนี่แกพูดแบบนี้อย่าบอกนะว่า...?
"สวัสดีค่ะคนสวย" เฮ้อ! ซื้อหวยเล่นหุ้นไม่เห็นจะรุ่งแบบนี้เลยวะ
"สวัสดีค่ะ วันนี้มาเร็วเนอะ" ยัยซีซีแซวสนิม แต่ไม่ควรเรียกแซวน่าจะเรียกประชดมากกว่าเพราะสีหน้าและน้ำเสียงมันบ่งบอกแบบนั้น
"วันนี้พี่ไม่มีเรียนค่ะ" สนิมตอบก่อนจะถือวิสาสะนั่งลงม้าหินตัวเดียวกับฉัน
"แหม... สนิทชิดใกล้ด้วย" ซีซีเหน็บสนิมเบาๆ จนได้รับค้อนวงใหญ่จากซันนี่คู่แฝดเธอ ซีซีเป็นพวกตรงๆ เวลาไม่ชอบใจใครเธอมักจะเก็บอาการไว้ไม่ค่อยมิด ปากไวเป็นบางครั้งอย่างที่เห็นนั่นแหละ
"แล้วนี่สาวๆ ทานอะไรกันยังคะ" สนิมถามเหมารวมแต่สายตาเขาไม่ได้ละจากฉันเลยสักนิด
"อ้าวสนิม วันนี้ไม่มีเรียนไม่ใช่เหรอ" และตอนที่ฉันกำลังจะคิดหาคำตอบเสียงใสๆ ก็ดังขัดขึ้นมาแทน
"เรามีธุระนิดหน่อยน่ะ แล้วตูนล่ะ มาไง" คนที่มาใหม่เธอชื่อ 'การ์ตูน' เป็นรุ่นพี่ปีเดียวกับสนิม รู้สึกจะอยู่คนละสาขามั้ง ฉันไม่ได้ใส่ใจรายละเอียดเท่าไหร่
"วันนี้มีเรียนเช้าน่ะ แต่เดี๋ยวกลับแล้วเรียนแค่คาบเดียว"
"อื้อ" สนิมตอบในลำคอก่อนจะหันกลับมาสนใจพวกฉันต่อ
ฉันมองสายตาเวลาพี่การ์ตูนมองสนิมออก ผู้หญิงด้วยกันทำไมจะไม่รู้ว่าเขาคิดไม่ซื่อกับเพื่อนคนนี้แค่ไหน และนี่คืออีกเหตุผลที่ฉันไม่รับรักสนิมเพราะไม่อยากมีเรื่องให้เป็นขี้ปากคนทีหลังว่าไปแย่งของของคนอื่น
"ระ..เราไปก่อนนะ ไว้เจอกัน" ท่าทางสนิมที่แสดงออกเย็นชามากจนพี่การ์ตูนหน้าซีด "อื้อ" สนิมตอบไม่แม้แต่จะมองพี่การ์ตูนสักเสี้ยวหางตา
"พี่สนิมไม่ไปส่งพี่การ์ตูนหน่อยเหรอคะ" ฉันลองตะล่อมๆ ถามดู
"เขามาเรียนเองได้ก็กลับได้ค่ะ"
ใจดำชะมัด! สอบตกเลยค่ะคนแบบนี้ นาบีไม่เอาแน่ๆ "อ้อ ค่ะ" ฉันจำใจตอบ
"อีกสี่สิบนาทีจะขึ้นเรียนแล้ว ไปหาไรทานกัน" ซันนี่ที่เงียบมานานเอ่ยขึ้นบ้าง
"ดีเลยค่ะ พี่กำลังหิวอยู่พอดี"
"ฉิบหาย"
"นี่แหน่ะ!"
"เจ็บ!"
แล้วซีซีก็ถูกคู่แฝดเธอหยิกทำโทษที่เสียมารยาทไปโดยปริยาย