EP.17 ขอโทษเรื่องเมื่อคืน
"แล้วถ้าเธอเอาเรื่องนี้ไปบอกใคร...เราขาดกัน !" เฟรนด์ชิปพูดใส่ใบหน้าของเด็กสาวอย่างเรียบเฉย
"ไม่ค่ะ...โซลจะไม่บอกใครเลย"
"โซลสัญญา"
เฟรนด์ชิปข่มตาลงราวกับต้องการสะกดอารมณ์ของเขาให้นิ่งเฉยมากขึ้น เขาพ่นลมหายใจออกมาเฮือกใหญ่ ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความวิตกและเครียดอย่างเห็นได้ชัดเจน
อื้อ..อื้อ... เสียงโทรศัพท์ของโซลเมทสั่นอยู่ในฝ่ามือหนาของเขา และคนที่โทรกลับมาก็คือ
ฟาเรนไฮต์จอมสอดรู้สอดเห็นคนเดิม
ฟุ่บ ! เฟรนด์ชิปยื่นโทรศัพท์ส่งคืนให้กับเธอไปด้วยใบหน้าที่เรียบเฉย แม้แต่หน้าของเธอเขาก็ไม่อยากจะหันมองด้วยซ้ำไป
"…." โซลเมทฝืนยิ้มออกมา และรับโทรศัพท์ของเธอมาก่อนจะกดรับสายในทันที
(สรุปว่าไง) ปลายสายถามขึ้นอีกครั้งด้วยน้ำเสียงที่จริงจังกว่าเดิม
"เราไม่ได้มีอะไรกัน" โซลเมทเงยหน้าขึ้นสบสายตาที่เย็นชาของคนตรงหน้าอีกครั้ง
ร่างสูงยืนฟังจนจบประโยค ก่อนที่เขาจะเดินกลับไปยังห้องอาบน้ำ เพื่อแช่อ่างอาบน้ำและล้างคราบฟองสบู่สีขาว ๆ ที่เกาะอยู่บนร่างกายของเขาเต็มไปหมด
(ฮะ ? แล้วตอนยาออกฤทธิ์มันทำยังไงอะ) ฟาเรนยังคงถามซักไซ้ต่อไม่หยุดสักที
(ถ้ามึงไม่..X... มีโอกาสหัวใจวายได้เลยนะเว้ย)
"นี่ไอ้ฟา กูเป็นผู้หญิงนะทำไมกูต้องมานั่งตอบเรื่อง... อย่างว่าของกูให้กับมึงด้วยล่ะ !" โซลเมทแกล้งทำเหมือนโมโหและตอบกลับไปแม้ว่าเสียงจะสั่นไปบ้างก็ตาม
(โอเค สรุปว่าพี่ชายผู้ตายด้านของกูไม่ได้ทำอะไรมึงเลย ถูกไหม) ฟาเรนยังคงทวนคำถามเดิมซ้ำอีกครั้ง
"เออ" โซลเมทกระแทกเสียงตอบกลับไป
(เออ ๆ ก็แค่นั้นแหละ)
(เออ พวกกูอยู่บ้านไอ้ไทม์กันนะ... มาหาได้ตลอด) ฟาเรนพูดทิ้งท้ายไว้เพียงเท่านั้นก่อนจะกดตัดสายไปทันที โดยไม่รอให้โซลเมทเอ่ยตอบกลับใด ๆ
ห้องอาบน้ำ
หญิงสาวลุกจากเตียงเดินกุมหน้าท้องของเธอเพื่อตามไปเคลียร์กับเฟรนด์ชิปต่อ ถึงในห้องอาบน้ำโดยไม่ทันได้คิดว่า...
"ไม่เห็นเหรอว่า... พี่ใช้ห้องน้ำอยู่" แววตาที่ดุดันจ้องมองไปที่โซลเมทและตำหนิเธออีกครั้ง
"เธอจะรุกล้ำพื้นที่ส่วนตัวของพี่มากเกินไปหน่อยไหม"
"คะ...คือโซลแค่อยากจะขอโทษพี่เฟรนด์สำหรับเรื่องเมื่อคืน" โซลเมทพูดออกไปด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือ
"ขอโทษ ?" เฟรนด์ชิปขมวดคิ้วถามกลับอย่างสะดุดกับประโยคของเด็กสาวเอามาก ๆ
"เธอไม่ต้องมาขอโทษพี่" ยังไม่ทันที่โซลเมทจะพูดจบ เฟรนด์ชิปก็พูดแทรกขึ้นและลุกขึ้นจากอ่างอาบน้ำและเดินไปหยิบผ้าเช็ดตัวมาซับร่างกายกำยำของเขา ก่อนจะเดินมาหยุดอยู่ตรงหน้าเธออีกครั้ง
"เพราะพี่ไม่ได้เสียอะไรเลย นอกจาก... น้ำ (กาม) " เฟรนด์ชิปตอบเธอไปด้วยใบหน้าที่เรียบเฉย พร้อมก้มมองไปที่แท่งรักร้อนของเขา ที่ชูชันขึ้นมาชี้ไปข้างหน้าอย่างเด่นสะดุดตาอยู่ในตอนนี้
"….." โซลเมทเม้มปากแน่นอย่างไม่รู้ว่าควรจะพูดอะไรต่ออีกเลย
"รีบอาบน้ำซะ พี่จะพาไปส่งที่บ้าน" เขาพูดทิ้งท้ายเอาไว้เพียงแค่นั้น ก่อนที่เขาจะเดินผ่านคนตัวเล็กออกไปจากห้องอาบน้ำในทันที
ปัง ! และเมื่อเสียงกระชากปิดประตูห้องน้ำดังขึ้น
โซลเมทก็ทรุดตัวลงกองกับพื้นในทันที เธอร้องไห้ออกมาอย่างสับสนกับเรื่องราวที่เกิดขึ้น เธอก็แค่อยากอยู่ใกล้ ๆ เขา อยากเอาใจเขา อยากทำเหมือนที่ผู้หญิงคนอื่นทำให้เขาได้ก็เท่านั้นเอง
"โซลก็แค่อยากมีตัวตนในสายตาของพี่เฟรนด์บ้าง..."
"ก็เท่านั้นเองนะคะ" โซลเมทพูดออกมาทั้งน้ำตา เธอยกมือปิดปากตัวเองแน่น เพื่อไม่ให้เสียงสะอื้นมันดังก้องออกไป
ร่างบางเดินตรงไปเปิดน้ำฝักบัวก่อนจะยืนร้องไห้ต่ออยู่คนเดียวสักพักใหญ่ หลังจากนั้นเธอถึงเริ่มอาบน้ำ ชำระล้างคราบสกปรกบนร่างกาย ที่ไม่ว่าจะถูสบู่ไปตรงไหนก็รู้สึกแสบและระบมไปหมดทั้งตัว โดยเฉพาะบริเวณหน้าอก หัวนม และช่องทางรักที่บวมแดงช้ำเป็นจ้ำ ๆ อย่างเห็นได้ชัดเจน
หลังจากอาบน้ำเสร็จ เธอก็จำต้องนุ่งผ้าเช็ดตัวเดินออกมาจากห้องอาบน้ำอยู่ดี เพราะไม่มีเสื้อผ้าใหม่จะสวมใส่ และชุดที่เธอใส่เมื่อคืนก็ทั้งเปียกอับชื้นจากงานสงกรานต์และชุดชั้นในต่าง ๆ ก็ฉีกขาดจนไม่สามารถเอากลับมาใส่ได้อีก
โซลเมทค่อย ๆ ก้าวเท้าเดินออกมาจากห้องน้ำ เธอพยายามทำทุกอย่างให้เบามากที่สุด เพราะกลัวจะไปทำอะไรให้พี่เฟรนด์ไม่ถูกใจเข้าอีก
ร่างสูงนั่งที่โซฟาใจกลางห้องรับแขกพร้อมกับเปิดหนังสือเล่มหนาอ่าน สายตาของเขามองจ้องไปที่หนังสือในมือ ขณะที่มืออีกข้างก็ยกแก้วกาแฟดำร้อนโยกวนอย่างช้า ๆ เพื่อรอให้กาแฟมันอุ่นขึ้น
"...." โซลเมทแอบยืนมองเขาอยู่แบบนั้นอย่างเงียบ ๆ ไม่ว่าตอนนี้หรือตอนที่เป็นเด็ก เธอก็ยังคงชอบแอบมองพี่เฟรนด์ชิปอยู่ห่าง ๆ แบบนี้เสมอเลย
"เสื้อผ้าอยู่บนเตียง" เฟรนด์ชิปพูดขึ้นโดยไม่เงยหน้าขึ้นจากหนังสือเลยสักนิด
"อ๋อ" โซลเมทสะดุ้งเล็กน้อย ไม่คิดว่าเขาจะรู้ตัว
เธอเดินกลับเข้าห้องนอนไปหยิบเสื้อผ้าที่พี่เฟรนด์เตรียมเอาไว้ให้มาสวมใส่แก้ขัดไปก่อน
บนรถของเฟรนด์ชิป
"...อือ" ร่างบางเม้มปากแน่นและนั่งกุมท้องน้อยของเธอมาตลอดทาง เฟรนด์ชิปเหลือบมองไปทางเธอเล็กน้อย แต่ก็ไม่ได้คิดจะถามไถ่อะไรเลยสักนิด
ทันทีที่รถจอดสนิทที่หน้าบ้านของโซลเมท เฟรนด์ชิปก็ถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ ก่อนจะหันกลับมามองหน้าโซลเมทอีกครั้ง
"ไม่ต้องบอกพ่อนะ ว่าพี่มาส่ง" เฟรนด์ชิปพูดขึ้นก่อนจะปลดล็อกประตูรถ
"พ่อกับแม่ไปเยี่ยมคุณยายที่ต่างจังหวัดค่ะ" โซลเมทตอบกลับไปเบา ๆ
"ก็ดี"
"ลงไปสิ" เขาบอกย้ำกับเธอไปอีกครั้ง
"ค่ะ" คนตัวเล็กพยักหน้ารับก่อนจะเดินลงจากรถของเขาไปด้วยใบหน้าหงอย ๆ
-หลายวันต่อมา-
ณ มหาวิทยาลัยอธีน่า
มหาวิทยาลัยนานาชาติ ที่มีสาขาทั่วโลก
หลังจากเรียนจบมัธยมปลายได้ไม่นาน เรื่องเครียดต่อไปสำหรับเด็กสาววัย 18 ปี ก็คงหนีไม่พ้นการเลือกมหาวิทยาลัยในการศึกษาต่อ ปัญหาที่ทำให้เธอหนักใจในตอนนี้เลยก็คือ เธอไม่รู้เลยว่าตัวเองชอบเรียนอะไร หรือชอบวิชาไหนเป็นพิเศษ โซลเมทไม่รู้แม้กระทั่งว่าถ้าเรียนจบแล้วเธออยากจะประกอบอาชีพอะไร หรือทำอะไรต่อดี
จนท้ายที่สุดเธอก็ตัดสินใจที่จะเลือกเรียนตาม... พี่ชายสุดเย็นชาคนนั้น
โซลเมทเข้ามาเลือกคณะเข้าเรียนที่มหาวิทยาลัยและกรอกใบสมัครจนเสร็จ แต่ด้วยเกรดเฉลี่ยมัธยมปลายของเธอที่ต่ำกว่าเกณฑ์ที่ทางคณะบริหารธุรกิจ (ระหว่างประเทศ) จะรับเข้าเรียน ทำให้เธอต้องเข้าสอบวัดระดับความรู้เพิ่ม เพื่อที่จะใช้คะแนนยื่นให้พิจารณาว่าเธอสามารถเข้าเรียนคณะบริหารได้หรือไม่
คณะที่เธอเลือกเป็นหนึ่งในคณะที่ยากที่สุดของมหาวิทยาลัยแห่งนี้ เพราะเธอจะได้รับปริญญาจากทั้ง 2 ที่ด้วยกัน คือปริญญาบัตรจากประเทศไทย 1 ฉบับ และประเทศอังกฤษอีก 1 ฉบับ เหมือนกับที่พี่
เฟรนด์ชิปกำลังเรียนอยู่ในตอนนี้
"Mathematics, business finance, Basic accounting ต้องได้คะแนนมากกว่า 45 คะแนน เต็ม 100 คะแนน" โซลเมทรับใบระเบียบการสมัครเข้าเรียนมาอ่านแบบละเอียด ก่อนจะสะดุดตาตรงจุดที่ทางอาจารย์ ขีดไฮไลต์เอาไว้
"ฉันต้องตายแน่ ๆ เลย ต้องตายแน่" โซลเมทแทบอยากจะร้องไห้ออกมา เพราะวิชาทั้งหมดที่อาจารย์ขีดเน้นมาให้ คือวิชาที่เธอเกลียดมากถึงมากที่สุด
ฟุ่บ ! จู่ ๆ กระดาษในมือของเธอก็ถูกดึงออกไปจากมือ ด้วยฝีมือของผู้ชายไร้มารยาทอย่าง
ฟาเรนไฮต์
"นี่ไอ้ฟา" ในตอนที่กำลังจะหันกลับไปว่าฟาเรนไฮต์ เธอก็ชะงักไปเล็กน้อย เพราะคนที่ยืนข้าง
ฟาเรนไฮต์ก็คือพี่เฟรนด์ชิป คนที่เงียบหายไปเลยตั้งแต่วันที่ไปส่งเธอวันนั้น
พี่เฟรนด์ชิปก้มหน้าอยู่แต่กับโทรศัพท์ของเขา เหมือนกำลังพิมพ์แชตตอบข้อความหาใครบางคนอยู่และเขาก็ไม่ได้เงยหน้าขึ้นมามองเธอเลยแม้แต่นิดเดียว
(คนที่เคยจูบกัน กอดกัน มีอะไรกัน... เวลาเจอหน้ากันเขาสามารถที่จะเย็นชากับเราได้มากขนาดนี้เลยจริง ๆ นะเหรอ) โซลเมทมองทางเฟรนด์ชิปแล้วอดที่จะนึกน้อยใจเขาไม่ได้เลยจริง ๆ