บท
ตั้งค่า

พนักงานใหม่ ที่รู้จักดี(1)

พนักงานใหม่ ที่รู้จักดี

บริษัท บูรณิมา

ตึก ตึก ตึก

เสียงรองเท้าส้นสูงกระทบกับพื้นดังขึ้นถี่ๆ บ่งบอกว่าเจ้าของรองเท้านี้กำลังเร่งรีบ

“สายแล้วๆๆ แย่แล้วๆๆ ตายแน่ๆ ไอวินซ์เอ้ยย ดันมาตื่นสายเอาวันทำงานวันแรกได้ไงเนี่ย แล้วแบบนี้เจ้านายจะไม่หมายหัวเอาเหรอ” วินเซ่วิ่งไปบ่นไป วันนี้เป็นวันที่เธอต้องมาทำงานที่บริษัทของคนที่พ่อเธอรู้จักเป็นวันแรก แต่วันแรกก็ดันตื่นสายซะได้

“สวัสดีค่ะ ชื่อวรริทธิ์ฐา มาทำงานวันแรกค่ะ” ร่างบางเอ่ยบอกกับพนักงานต้อนรับที่ยืนอยู่หน้าประตูลิฟท์พนักงาน เพื่อจะขึ้นไปชั้นที่เป็นชั้นออฟฟิต

“ขึ้นลิฟท์ตัวนี้ไปที่ชั้น 15 นะคะ ออกจากลิฟท์ เดินตรงไปผ่านห้องรวมพนักงานแล้วเลี้ยวซ้าย จะเจอห้องคุณกันตา ไปพบคุณกันตาที่นั่นก่อนนะคะคุณพนักงานใหม่” พนักงานต้อนรับอธิบายบอกชัดเจนให้เธอไปพบใคร ที่ไหน

“ได้ค่ะ ขอบคุณค่ะ” วินเซ่เข้าไปในลิฟท์ พนักงานต้อนรับจึงกดที่ชั้น 15 ให้โดยที่เธอมีหน้าที่ยืนรอขึ้นไปชั้นบนอย่างเดียว

วินเซ่ก้าวออกจากลิฟท์แล้วเดินไปตามทางที่พนักงานต้อนรับบอกไว้ ผ่านห้องพนักงานรวมไป เลี้ยวซ้ายเพียงนิด เธอก็พบกับห้องโถงขนาดใหญ่ ห้องทางซ้ายมือมีประตูห้องที่ติดป้ายชื่อไว้ว่า กันตา อัครวงศ์ เลขานุการ

วินเซ่ต้องมาพบเลขานุการ เธอนึกว่าคนที่เธอจะต้องมาพบเป็นเจ้านายซะอีก ก่อนจะเข้าไปเธอเคาะประตู เพื่อเป็นมารยาทของผู้ดีก่อน ถ้าไม่ทำเดี๋ยวจะไม่ได้งานเพราะเสียมารยาท

ก็อก ก็อก ก็อก

‘เข้ามาค่ะ’ เสียงหวานดังอนุญาตมาจากด้านในห้อง วินเซ่จึงบิดลูกบิดประตูเบาๆ

เมื่อเปิดประตูเข้าไป พบหญิงสาวสวย ในชุดสูทรัดรูปสีแดง เสื้อเชิ้ตด้านในสีขาวแหวกจนเห็นเนินอกตู้มเซ็กซี่หน้าตาถูกแต่งแต้มแบบสาวสวยเปรี้ยวจี๊ด ปากแดงสวยนั่งอยู่ที่โต๊ะทำงานขนาดใหญ่ บนโต๊ะมีกองเอกสารมากมาย บ่งบอกว่าเธอมีงานเยอะไปหมด

“สวัสดีค่ะ วรริทธิ์ฐา อีแวนสัน มารายงานตัวทำงานวันแรกค่ะ” ร่างบางสวัสดียกมือไหว้แบบฉบับสาวไทย อย่างเคอะเขิน ทั้งๆ ที่ไม่เคยทำ เพราะปกติอยู่ต่างประเทศทักทายกันไม่กอดเอาแก้มชนกันก็จับมือ แต่เธอก็เป็นคนไทย เพราะฉะนั้นเรื่องแค่นี้เธอศึกษามาแล้วจากพวกลุงของเธอ

“นั่งลงเลยจ๊ะ ยินดีต้อนรับนะ พี่ชื่อกันตา เรียกพี่ตาสั้นๆ ก็ได้ พี่เป็นเลขาของคุณแบล็ค ช่วงนี้งานพี่เยอะไปหน่อยคุณแบล็คน่าจะเป็นห่วงพี่ เลยรับผู้ช่วยเลขามาแบ่งเบา” หญิงสาวตรงหน้าพูดเข้าข้างตัวเองเหมือนจะบอกเป็นนัยๆ ว่า เธอพิเศษสำหรับเจ้านาย แต่วินเซ่ไม่ได้คิดอะไรมาก เพราะเธอเคยอ่านนิยายไทยมา ถึงจะอ่านไม่ค่อยออกก็เถอะแต่ก็ชอบอ่าน ที่เลขาจะมีความรักกับเจ้านายก็มีอยู่ถมไป

“ค่ะ หนูชื่อวรริทธิ์ฐาค่ะ ชื่อเล่นว่า วินเซ่” วินเซ่แนะนำตัวออกไป แทนตัวเองว่า หนู เพราะปกติเธอจะแทนตัวเองด้วยชื่อเล่นแบบสั้น ชื่อเล่นแบบเต็มๆ ของเธอเอาไว้ให้คนที่ไม่สนิทเรียก ส่วน ‘วินซ์’ สำหรับคนสนิทเท่านั้น

“โอเคจ๊ะน้องวินเซ่ ชื่อเล่นยาวจังเลยนะคะ มีแบบเรียกสั้นๆ ไหม” คุณเลขาเอ่ยถาม

“เรียกวินเซ่เฉยๆ ก็ได้ค่ะ ไม่ต้องมีน้อง หนูไม่ถือ อีกอย่างหนูไม่เคยมีพี่ด้วยค่ะ ไม่ค่อยชินเท่าไร” ร่างบางต้องรีบอธิบายว่าไม่ชิน ถ้าเธอไม่อธิบายคำพูดของเธอจะกลายเป็นคำพูดที่ดูกวนประสาทไปซะก่อน

“แล้วพี่ตามีอะไรให้หนูช่วยเหรอคะตอนนี้”

“เดี๋ยวเราต้องเข้าไปพบกับคุณแบล็คก่อน ไปรายงานตัว แล้วเดี๋ยวพี่จะถามคุณแบล็คให้ว่าจะได้อยู่โต๊ะไหน อาจจะได้อยู่ห้องรวมพนักงานไปก่อน เพราะตรงนี้ไม่มีโต๊ะว่างแล้ว จะมีอีกที่ก็ตรงหน้าห้องคุณแบล็ค แต่คงไม่ได้อยู่ตรงนั้นหรอก” หญิงสาวลุกขึ้นแล้วเดินนำเธอออกไปยังห้องเจ้านาย วินเซ่รีบเดินเร็วๆ แล้วตามกันตาออกไป

กันตาเดินผ่านเลยห้องของตัวเองเข้าไปด้านในอีกสักพักก็ถึงหน้าประตูห้องหนึ่ง บริเวณหน้าห้องนั้นมีลักษณะเป็นที่โล่ง โปร่ง ด้านข้างของหน้าห้องเป็นกำแพงที่ทำจากกระจกใสทั้งแผงทำให้แดดอ่อนๆ ส่องเข้ามาได้ ห้องจึงดูโปร่งสบายตา

กันตาหยุดยืนหน้าประตูห้อง ก่อนเคาะประตูเพื่อขออนุญาตคนในห้องก่อนเข้าไป

ก็อก ก็อก ก็อก

“คุณแบล็คคะ กันตาเองค่ะ ขอเข้าไปนะคะ” พูดจบกันตาก็บิดลูกบิดประตูเข้าไปทันทีโดยไม่รอให้เจ้าของอนุญาต วินเซ่ได้แต่มองการกระทำอันไม่มีมารยาทของคนที่ขึ้นชื่อว่าเป็นเลขา แต่กลับไม่มีมารยาทเสียเอง แต่เธอคิดว่า เขาคงสนิทกับเจ้าของห้องมากเลยสินะ

วินเซ่เดินตามหลังกันตาเข้ามาในห้อง

“ทำไมไม่รอให้อนุญาตก่อน” เสียงทุ้มเอ่ยดังขึ้นหลังจากที่เห็นคนเปิดประตูเข้ามาโดยไม่รอให้เขาอนุญาตก่อน

‘อุ้ยยย เจ็บไปเลยดิ สวยๆ อยู่ดีๆ กลายเป็นคนไม่มีมารยาทเฉย’ วินเซ่คิดในใจ

“เอ่อ พอดีตาไม่ทันได้ยินเสียงของคุณแบล็คค่ะ รีบเปิดเข้ามาก่อน ขอโทษนะคะ” กันตาแก้ตัว

“มีอะไร มีงานให้เซ็นต์หรือมีประชุม”

“เปล่าค่ะ พอดีตาพาน้องผู้ช่วยเลขาที่คุณแบล็คหามาช่วยตา มารายงานตัวค่ะ” เธอพูดแบบคนหลงตัวเอง วินเซ่ได้แต่มองตาปริบๆ

สายตาคมเข้มมองมาที่กันตาเหมือนจะพูดอะไรสักอย่าง แต่ก็เลือกจะไม่พูด แล้วเบนสายตามายังคนตัวเล็กที่อยู่ด้านหลังของกันตา

“รายงานตัวยังไง หลบอยู่หลังคนอื่น ไม่ออกมาแนะนำตัวจะรู้ไหมว่าชื่ออะไร” เขาพูดเสียงเรียบบอกคนตัวเล็กที่ค่อยๆ เอียงตัวออกมาจากหลังของกันตา

“น้องชื่อวรริทธิ์ฐา ชื่อเล่นว่า วินเซ่ ค่ะคุณแบล็ค” เป็นเสียงของกันตาเสียเองที่แนะนำตัวแทนเธอ

“ไม่ได้ถาม ไม่ใช่พนักงานใหม่ไม่ต้องแนะนำตัวแทนเขา”

‘อีกดอกแล้วครับท่าน กว่าเราจะรายงานตัวเสร็จสงสัยพี่ตาโดนอีกหลายดอกแน่ๆ’ วินเซ่แอบขำอยู่ในใจ

“เอ่อออ หนูชื่อ วรริทธิ์ฐา อีแวนสัน ชื่อเล่นว่าวินเซ่ค่ะ เพิ่งกลับมาอยู่ที่ไหนได้ไม่นาน พูดและอ่านภาษาไทยไม่ค่อยแข็งแรง ถ้าหนูทำงานผิดพลาดอะไรขออภัยด้วยนะคะ” ร่างบางออกมายืนด้านข้างกับเลขากันตา ก่อนจะแนะนำตัวเองให้คนตรงหน้ารู้จัก

เมื่อเธอได้สบเข้ากับสายตาคมแบบชัดๆ เธอต้องหลบสายตาทันที เพราะสายตานั้นฆ่าเธอได้เลยทีเดียว

‘คนอะไรหล่อชะมัด’ วินเซ่ได้แต่แอบคิดอยู่ในใจ

ชายหนุ่มร่างสูงโปร่งใส่สูทสีดำสนิท ยืนกอดอกพิงโต๊ะทำงานด้วยใบหน้านิ่งขรึม แม้ว่าใบหน้านั้นจะหล่อเหลาเทียบได้กับไอดอลเกาหลี ผิวขาวตัดกับผมสีดำที่เซ็ตแบบลวกๆ จมูกโด่งเป็นสัน คิ้วหนาสีดำตัดกับสีผิว อายุราวๆ 35 ปีเห็นจะได้แต่หน้าตาอ่อนเหมือนคนอายุ 20กลางๆ เท่าเธอได้เลย

สายตาคมยังจ้องมองมาที่เธอไม่วางตา ก่อนจะเลื่อนสายตาลงไปยังมือของเธอที่มีแหวนเงินขาวเงาวาวมีพลอยสีดำ สวมอยู่ที่นิ้วนางข้างขวา

“แหวนสวยดีนะ สวมแหวนที่นิ้วนางข้างขวาแสดงว่ามีแฟนแล้วเหรอ” เขาเอ่ยถามขึ้น

“เปล่าค่ะ หนูยังไม่มีแฟน ที่นี่ห้ามคนมีแฟนเข้าทำงานเหรอคะ” คนตัวเล็กเอ่ยถามด้วยความสงสัย ห้ามคนมีแฟนทำงานหรืออย่างไร ทำไมเขาถึงไม่ถามอย่างอื่น เช่น ประวัติส่วนตัว การเรียน การทำงาน แต่นี่กลับถามถึงแฟน

“ไม่ห้าม แต่เธอมาทำงานเป็นเลขา ถ้ามีแฟนกลัวจะมีปัญหากับแฟนเวลาที่ทำงานกับฉันดึกๆ ดื่นๆ หรือเวลาต้องไปดูงานที่ไกลๆ” เขาอธิบายให้เธอเข้าใจ ร่างบางพยักหน้าเป็นอันเข้าใจในสิ่งที่เขาถาม

“ไม่เห็นจะเป็นไรเลยนี่คะ ให้น้องมีแฟนไปเถอะค่ะ เดี๋ยวเวลาที่ต้องไปดูงานต่างจังหวัด ต่างประเทศ เดี๋ยวตาไปเองค่ะ” กันตารีบเสนอ ในใจลึกๆ อยากให้พนักงานใหม่คนนี้มีแฟนไปเลยจะได้ไม่ต้องมามีใจให้กับเจ้านายของเธอ

แบล็คหันมามองหน้าเลขาตัวเองเมื่อเธอพูดจบ

“ฉันรับเลขาคนใหม่มา เพื่อจะมาทำหน้าที่เลขาส่วนตัวของฉัน”

“อ้าว แล้วตาล่ะคะ ตาก็เป็นเลขาของคุณแบล็คอยู่แล้วนี่คะ” กันตาตกใจกับคำพูด คิดว่าเธอจะโดนไล่ออกหรือย้ายบริษัท

“เธอก็ทำหน้าที่ของเธอนั่นแหละ แต่ให้ทำในส่วนที่ต้องอยู่ที่บริษัท คอยดู คอยจัดการดูแลความเรียบร้อยของพนักงานในบริษัท หลังจากนี้สอนงานเด็กใหม่ให้เรียบร้อย”

“คะ? ค่ะ!!” กันตารับคำอย่างจำใจ ทั้งๆ ที่ไม่อยากทำหน้าที่นี้ เธออยากทำงานกับเขา อยากไปกับเขาทุกที่

“ไปทำงานได้” เขาเอ่ยอนุญาตคนทั้งสอง

“เอิ่ม แล้วจะให้น้องวินเซ่อยู่โต๊ะไหนคะ หรือว่าแทนที่โต๊ะของตา” กันตาเอ่ยเสียงสั่นๆ ปนน้อยใจที่เขาทำเหมือนเธอไม่สำคัญเท่าเด็กใหม่

“อยากให้ทำแบบนั้นเหรอ” เขาถามกลับพร้อมมองไปที่กันตา วินเซ่ได้แต่มองสองคนสลับไปมาตาปริบๆ

“มะ...ไม่ค่ะ แต่ตายังไม่เห็นจะมีห้องไหนมีโต๊ะว่างเลย”

“ไปสั่งให้ไอ้ไม้โทจัดการจัดโต๊ะหน้าห้องฉัน” เขาเอ่ยสั่งเลขาให้ไปสั่ง ‘ไม้โท’

ไม้โทคือลูกน้องคนสนิทของเขา หรือจะเรียกว่าบอดี้การ์ดนั่นแหละ เป็นมาเฟียก็ต้องมีลูกน้อง มีบอดี้การ์ดเป็นเรื่องปกติ แต่ที่ไม่ปกติคือ ลูกสาวมาเฟียคนนี้ ทำไมลุงวินเนอร์ถึงปล่อยมาทำงานโดยไม่มีบอดี้การ์ดมาด้วย

“หน้าห้องเลยเหรอคะ” กันตาแทบจะไม่เชื่อหูตัวเอง ไม่คิดว่าพนักงานใหม่คนนี้จะได้อยู่ใกล้ชิดชายหนุ่มมากกว่าเธอที่เป็นเลขา

“อืม ไปได้แล้ว วันนี้มีประชุมใช่ไหม” เขาถามงานกับเลขาของเขา ก่อนที่จะออกไปทำหน้าที่ของตัวเอง

“ค่ะ” กันตาพยักหน้าเล็กน้อยรับคำ

“อ้าว แล้วคุณไม่แนะนำตัวเหรอคะ” วินเซ่เอ่ยขัดขึ้น ก่อนที่เธอจะออกไปเรียนรู้งาน

“ฉัน?” แบล็คทำหน้าและเสียงแปลกใจ พร้อมกับชี้นิ้วมาที่หน้าอกตัวเอง

“ใช่ค่ะ คุณรู้จักหนูแล้ว แต่หนูยังไม่รู้จักคุณเลยนี่คะ” ใช่!! เขารู้จักเธอดี รู้จักมานานแล้วด้วย

“มาทำงานแต่ไม่ศึกษาเรื่องที่ทำงานตัวเอง”

“โอเคค่ะ งั้นเดี๋ยวหนูไปศึกษาเอง” ร่างบางพูดแล้วหันหลังเตรียมเดินกลับ อย่างคนอาการน้อยใจ

“แบล็ค!!” เสียงทุ้มเอ่ยออกมาอย่างห้วนๆ วินเซ่หันหน้ากลับมามองชายหนุ่ม ที่แนะนำตัวสั้นๆ เหมือนไม่เต็มใจแนะนำ

“แค่นี้? โอเคได้ค่ะ เดี๋ยวหนูไปหาข้อมูลเองก็ได้” พูดจบเธอก็เดินออกจากห้องไป ทิ้งให้คนที่ยืนเต๊ะท่า ทำหน้างุนงงต่อไป

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel