ขันอาสา
ขณะกำลังจะหย่อนก้นลงบนเก้าอี้ ก็มีเสียงเอะอะก่อนคนคนนั้นจะเดินเข้ามาในห้อง
“ บ่นอะไรยะ นังนก ” ป้าสมรเอ่ยถามหลานสาวผู้ปฏิบัติงานอยู่ในแผนกอาหารและเครื่องดื่ม
“ ก็เด็กในกะน่ะสิ รวมหัวกันลาหรือเปล่าไม่รู้ แล้ววันนี้แขกก็เยอะเหลือเกิน หนูยืนจนมดลูกจะยานถึงหัวเข่าอยู่แล้ว ออกกะก็ว่าจะได้กลับบ้าน กะบ่ายก็ดันยังไม่มาอีก หนูเหนื่อยจะบ้าแล้วเนี่ยอาหมอน เป็นเมนส์ด้วย ปวดท้องก็ปวด นี่ขอออกมาเดินสงบสติอารมณ์สักหน่อย ก่อนจะกินหัวแขก ”
“ เออ ใจเย็น ๆ มันก็มีวันเหนื่อยมากเหนื่อยน้อย งานอะไรจะไม่เหนื่อยวะ ”
“ แต่หนูไม่ไหวอา เหนื่อยฉิบหาย ” อีกฝ่ายว่าก่อนจะนั่งลงบนเก้าอี้แล้วฟุบลงกับโต๊ะ
“ เดี๋ยวต้องเข้าไปเสิร์ฟเครื่องดื่มกับของว่างในห้องประชุมเล็กอีก หนูจะยกขาไม่ขึ้นอยู่แล้ว หนูปวดท้องเมนส์ กินยาแล้วก็ไม่ได้ดีขึ้นเลย ”
คำพูดนั้นทำให้คนดีมีน้ำใจอย่างอริสายากจะนิ่งเฉย หล่อนขันอาสาทันที
“ พี่คะ พอจะมีอะไรที่อายสามารถช่วยได้ไหมคะ ”
สาวใหญ่วัยสามสิบปลายที่ฟุบอยู่ดีดผึงขึ้นมาทันที ก่อนจะพบว่าในห้องพักแม่บ้านไม่ได้มีแต่อาของตัวเองคือแม่บ้านสมรอย่างที่คิด ยังมีสาวน้อยหน้าสวยขาวอวบแปลกหน้าอยู่ด้วย
“ พนักงานใหม่เหรอน้อง ไม่เห็นอาหมอนบอก ” ท้ายประโยคหล่อนหันไปถามผู้เป็นอา
“ น้องเขาพึ่งมาได้สองวัน มาทำเป็นแม่บ้านพาร์ทไทม์ ”
“ สวยขนาดนี้มาทำตำแหน่งแม่บ้าน เสียดายแย่ ทำไมไม่ไปสมัครฟร้อนท์ ”
“ คืออายมีงานประจำอยู่แล้วน่ะค่ะ แต่อยากจะมีรายได้เสริม ”
“ พี่ชื่อนกนะ เป็นหลานของอาสมร ขอโทษที่เมื่อกี้ไม่ได้ทัก พี่มัวแต่เหนื่อยอยู่ เออ ว่าแต่ว่าที่จะช่วยน่ะพูดจริงหรือเปล่า ”
“ นังนก อย่ามาทำมักง่าย จะไปใช้น้องเขาได้ยังไง ” ป้าสมรติงหลาน แต่อริสาออกรับแทน
“ ไม่เป็นไรหรอกค่ะป้าสมร อายยังไม่เหนื่อย อายยินดีช่วยพี่นกค่ะ ”
“ ดีเลยน้อง ขอบคุณจริง ๆ ไม่ต้องทำอะไรเลย แค่ไปเปลี่ยนชุดเป็นชุดเสิร์ฟแล้วเอาเครื่องดื่มและขนมเข้าไปให้ผู้บริหารในห้องประชุมเล็ก เท่านั้นเลยจ้ะ ”
“ ได้เลยค่ะพี่นก เดี๋ยวอายมานะคะป้าสมร ”
ท้ายประโยคอริสาหันไปบอกหญิงกลางคนที่พยักหน้าหงึกหงักด้วยรอยยิ้มเอ็นดูอีกฝ่าย ที่มีน้ำใจเหลือเกิน
“ ไปเถอะจ้ะ ”
อริสาเดินตามนกไปติด ๆ หล่อนยินดีที่มีโอกาสได้ทำงานในตำแหน่งอื่น ๆ เผื่อวันข้างหน้าอาจจะได้ขยับขยายทำรายได้ได้มากขึ้น
พี่นกเอาชุดเสิร์ฟมาให้อริสาเปลี่ยน มันคือเสื้อเชิ้ตแขนยาวสีกรมท่า กระโปรงสีดำยาวเลยเข่า ส่วนผมนั้นอริสารวบเก็บและใช้เน็ตคลุมมวยไว้ด้านหลังเรียบร้อยอยู่แล้ว
“ เฮ้ย สวมชุดนี้ยิ่งดูมีออร่าเลยนะเนี่ย น้องอายเนี่ย น่ารักน่าหยิกจริง ๆ เอา ถือถาดนี่ไปที่ห้องประชุมเล็กนะ ผู้บริหารท่านประชุมกันง่าย ๆ แค่สี่ท่าน ท่านอยากได้ชาเคียวกุโระกับเซ็ทขนมไทย ”
“ ประชุมเล็กยังไงเหรอคะ ”
“ ก็ประชุมอย่างไม่เป็นทางการแหละ แต่คนที่เข้าประชุมน่ะ ระดับบิ๊กทั้งนั้น คนสำคัญสุดก็คือบอสใหญ่รูปหล่อของเรานั่นแหละ คุณพยัคฆิน เคยเห็นไหมล่ะ ตามหน้าข่าวหนังสือพิมพ์น่ะ ” อริสาส่ายศีรษะ
“ อายไม่ค่อยรู้ข่าวคราวไฮโซสักเท่าไรหรอกค่ะพี่ ”
“ รับรองนะ ว่าน้องได้เห็นแล้วจะเข่าอ่อน ระทดระทวยไปหมด ก็คุณพยัคฆินน่ะ หล่อวัวตายควายล้มเลยแหละ ”
“ ขนาดนั้นเลยเหรอคะ ”
อริสาว่ายิ้ม ๆ นึกวาดภาพคุณพยัคฆินอะไรนั่นในอากาศ เขาก็คงจะมีอายุไม่ต่ำกว่าสี่สิบ สวมสูทเนี้ยบ ผมเผ้าเรียบกริบตามประสาผู้ดีมีเงิน
หล่อนคิดไปก็ยื่นมือไปรับถาดขนมมาจากอีกฝ่ายส่วนนกนั้นถือถาดชา
“ ขนาดนั้นเลยล่ะ ว่าแต่ทำได้แน่นะ ” นกถามย้ำ อีกฝ่ายพยักหน้าหงึกหงัก
“ ได้สิคะ อายเคยไปทำงานพิเศษเสิร์ฟอาหารกับโต๊ะจีนด้วยนะ ” คำนั้นทำให้นกหัวเราะร่วน
“ เออ มันไม่ได้วุ่นวายเท่าโต๊ะจีนหรอก จะมีทางเดินเชื่อมไปส่วนของตึกออฟฟิศห้องประชุมเล็กจะอยู่ด้านล่าง เราแค่เข้าไปวางชาและขนมแต่ละเซ็ทแล้วก็ออกมา เท่านั้นเลย มันเป็นประชุมแบบเหมือนคุยกันไปชิล ๆ มากกว่า ท่านไม่ซีเรียส ”
“ โอเคค่ะ พี่นกไม่ต้องห่วงนะคะ รับรองว่าอายจะ ไม่ทำอะไรผิดพลาด ” อริสารับคำอย่างมั่นใจให้อีกฝ่ายหายห่วง
“ ดี งั้นก็ถือถาดตามพี่”