บท
ตั้งค่า

บทที่ 7 ภาพบาดตา

วันนั้นพราวตะวันแอบมาแสดงความยินดีกับดานิเอล เพราะเธอแอบไปได้ยินป้าหน่อยคุยกับคนขับรถว่าเขาสอบติดแพทย์ที่เยอรมัน ซึ่งเป็นสถาบันการแพทย์ที่สอบเข้ายากที่สุด น้อยคนนักที่จะสอบได้ แต่ดานิเอลคือหนึ่งในนั้น

‘พราวยินดีด้วยนะคะที่พี่แดนสอบติดแพทย์ คุณท่านทั้งสองคงดีใจมากที่มีลูกชายเก่งขนาดนี้’ ทันทีที่ได้ยินเสียงของเธอ เขาก็เดินหนีด้วยท่าทางเมินเฉย ทำเหมือนไม่ได้ยิน

แต่พราวตะวันก็ยังไม่หยุด เพราะเธอรู้ว่าอีกไม่นานก็จะไม่ได้เจอผู้ชายคนนี้อีกแล้ว

‘พี่แดนคะ...อ้ะ!!’

‘ตามมาทำไม ฉันรำคาญ!’

‘พราวแค่อยากมาแสดงความยินดีค่ะ’ หญิงสาวฉีกยิ้มหวานแล้วยื่นกล่องขนมคุกกี้ที่ตื่นมาทำตั้งแต่เช้ามืดให้ชายหนุ่ม ดานิเอลปรายตามมองด้วยสีหน้าเย็นชา แต่ก็ยังไม่รับไว้ “คุกกี้นี้พราวตื่นมาทำตั้งแต่ตีสี่เลยนะคะ พราวไม่มีอะไรจะให้พี่ ก็เลย...เอ่อ....ทำคุกกี้ให้เพื่อแสดงความยินดี”

‘ขอบใจนะพราวตะวัน’ ในที่สุดเขาก็ยอมรับคุกกี้ที่เธอทำด้วยใจ แต่ทันใดนั้นฝันก็ต้องสลายเมื่อเขาแกะกล่องคุกกี้แล้วปามันลงบนพื้น “แต่คุกกี้กระจอกๆแบบนี้ฉันกินไม่ลงหรอก โดยเฉพาะของที่มาจากเด็กกำพร้าอย่างเธอ!!”

‘พะ...พี่แดน’

‘แล้วก็เลิกเรียกฉันว่าพี่สักที เพราะน้องสาวของฉันมีแค่เดียร์น่าคนเดียวเท่านั้น!’

 

ปึก!!

“อ้ะ!! เดินไม่ดูตาม้าตาเรือนะนังนี่!”

เสียงหวีดร้องดังขึ้นดึงให้พราวตะวันหลุดออกมาจากภวังค์ เพราะมัวแต่เดินคิดอะไรเรื่อยเปื่อยจนเผลอไปชนกับเดียร์น่าเข้า

“ขะ...ขอโทษนะคะคุณเดียร์น่า เมื่อกี้พราวเดินคิดอะไรเรื่อยเปื่อยจนไม่ทันระวัง”

“หวังว่าสิ่งที่เธอคิด...คงไม่ใช่พ่อฉันกับพี่ชายของฉันนะ”

“คะ?” พราวตะวันย่นคิ้วเข้าหากัน

“ทำอะไรไว้อย่าคิดว่าฉันจะไม่รู้นะ เธอเข้าไปทำอะไรในห้องเก็บของกับพี่ชายของฉัน”

“พะ...พราวเปล่านะคะ” หน้าตาเธอตื่นตกใจขึ้นมาทันที หัวใจหล่นลงไปอยู่ที่ตาตุ่ม และเมื่อนึกถึงคำพูดของดานิเอลที่เคยขู่เอาไว้ว่าห้ามไม่ให้ใครรู้ หน้าของเธอก็ซีดเผือดลงเรื่อยๆ สุดท้ายเธอก็ต้องโกหกเพื่อปกป้องผู้ชายคนนั้น “พราวเข้าไปหา...เอ่อ...หาของช่วยคุณดานิเอลค่ะ”

“…งั้นหรอ” เดียร์น่ายกมือกอดอก หรี่ตามองอีกฝ่ายอย่างจับผิด หล่อนไม่ใช่คนโง่ที่พอจะดูไม่ออกว่ามันเกิดอะไรขึ้น เพียงแค่ยังจับไม่ได้คาหนังคาเขาก็เท่านั้น “ถ้าเธอบอกว่าบริสุทธิ์ใจ ฉันยอมเชื่อก็ได้ แต่จำเอาไว้ในสมองเลยนะว่าเธอไม่คู่ควรกับพี่ชายของฉัน และพี่แดนเองก็มีคนที่เหมาะสมอยู่แล้ว ผู้หญิงกระจอกๆอย่างเธอ...อย่าแม้แต่จะคิด”

“พราวทราบค่ะ” หญิงสาวก้มหน้างุด เก็บซ่อนความรู้สึกบางอย่างเอาไว้ เธอเลือกที่จะปกป้องเขาจนกลายเป็นคนไร้ค่าไปแล้ว

“แต่เจอเธอก็ดีเหมือนกัน พอดีฉันมีธุระที่โรงพยาบาล ไปเป็นเพื่อนหน่อยสิ”

“แต่พราวยังไม่ได้ซักพรมในห้องโถงเลยนะคะ”

“ไว้ค่อยกลับมาซักทีหลังก็ได้ แต่เธอต้องไปกับฉัน” เดียร์น่ากระตุกยิ้มมุมปาก

ก็แค่อยากจะทำให้ใครบางคนรู้ว่าหมาเห่าเครื่องบินมันเป็นยังไง ทำไมจะดูไม่ออกว่าพราวตะวันชอบพี่ชายของหล่อน แต่ก็คงทำได้แค่ชอบนั่นแหละ

เพราะตัวจริงของดานิเอลรออยู่ที่โรงพยาบาล

 

@โรงพยาบาลแผนกกระดูกและข้อ

ในที่สุดการผ่าตัดอันแสนยาวนานก็เสร็จสิ้น ดานิเอลเดินออกมาขณะที่ยังสวมชุดผ่าตัด ก่อนจะเข้าไปเปลี่ยนชุดเป็นชุดกาวน์แพทย์ที่ห้องแต่งตัว แล้วตรงไปยังห้องพักซึ่งอยู่ชั้นสุดท้ายของตึก

โรงพยาบาลแห่งนี้เป็นโรงพยาบาลเอกชลชื่อดังของครอบครัวนายแพทย์ทีปกรเพื่อนสนิทของเขา เดิมทีเขากับทีปกรเคยเป็นเพื่อนร่วมชั้นกันและสอบติดแพทย์ที่เยอรมันเหมือนกัน แต่เขาเลือกเรียนด้านออโธปิดิกส์ ส่วนทีปกรเรียนด้านประสาทศัลยศาสตร์

ซึ่งไม่ต้องบอกก็รู้ว่าใครงานเยอะกว่ากัน เขาเลือกรับแค่เคสหนักๆเพราะต้องดูแลธุรกิจช่วยครอบครัว ซึ่งบางวันก็แทบไม่มีผู้ป่วยเลย ส่วนทีปกรนั้นเจอเคสหนักทุกวัน

ทันทีที่เปิดประตูเข้าไปในห้องพักแพทย์ก็เจอใครบางคนนั่งรออยู่

“ม่าน...”

“ผ่าตัดเสร็จแล้วหรอคะ”

“ครับ” ร่างสูงที่ยังอยู่ในชุดกาวน์แพทย์เดินเข้าไปหาแฟนสาวด้วยท่าทางออดอ้อน เพราะมีเคสผ่าตัดติดต่อกันถึงสามเคส “เหนื่อยจังเลย”

“เจอเคสหนักหรอคะ”

“…ครับ” ดานิเอลทิ้งตัวลงนอนหนุนตักแฟนสาว ม่านมัสลินก้มหน้าลงมองใบหน้าหล่อเหลาของแฟนหนุ่ม “แค่เจอหน้าม่าน ผมก็หายเหนื่อยแล้วล่ะครับ”

“ปากหวานจังเลยนะคะคุณหมอ”

“ไม่ใช่แค่ปากที่หวาน อย่างอื่นก็หวานเหมือนกัน ม่านเคยกินบ่อยแล้วไม่ใช่หรอ” ดานิเอลเอ่ยด้วยน้ำเสียงแพรวพราว เวลาที่เขาอยู่กับม่านมัสลินจะกลายเป็นคนขี้อ้อนขึ้นมาทันที เขากับหล่อนคบกันมานานแล้วก็จริง แต่ก็ยังเติมความหวานให้กันอยู่เรื่อยๆ

มือใหญ่ค่อยๆรั้งศีรษะของม่านมัสลินลงมาแล้วประกบปาก จูบดูดดื่มทันที ทางด้านหญิงสาวก็จูบตอบอย่างรู้งาน ถ้าไม่ติดว่าเป็นห้องพักแพทย์ เขากับหล่อนไม่ได้ทำแค่จูบแน่นอน

แต่ในขณะที่สองหนุ่มสาวกำลังจูบดูดดื่มอยู่บนโซฟา จู่ๆประตูห้องก็ถูกเปิดออกตามด้วยหญิงสาวสองคนที่เดินเข้ามา

กึก!

เมื่อเห็นภาพตรงหน้าทำให้คนที่เดินเข้ามาเป็นคนสุดท้ายถึงกับสะอึก ก้าวขาไม่ออก

พราวตะวันนิ่งอึ้งไปหลายวินาที เธอเห็นดานิเอลกับม่านมัสลินกำลังจูบดูดดื่มอยู่บนโซฟา ซึ่งเป็นภาพที่ไม่ควรเห็นด้วยซ้ำ จู่ๆก็รู้สึกเจ็บแปล๊บกลางหัวใจจนอยากหันหลังกลับแล้วเดินหนีไปให้พ้นๆ

ทำไมเธอต้องเข้ามาเห็นภาพนี้ด้วยนะ ทำไม...

“เดียร์น่า....ทำไมมาไม่ให้ซุ่มให้เสียง”

นายแพทย์หนุ่มรีบผละออกจากร่างของม่านมัสลินทันที ก่อนจะเหลือบตามองไปยังคนที่ยืนอยู่หลังประตู เธอเอาแต่ก้มหน้างุด ไม่กล้าสู้หน้า

“เดียร์น่าก็แค่อยากมาเยี่ยมพี่ชายเฉยๆ ไม่คิดว่าจะเห็น...เอ่อ....ภาพสิบแปดบวก” หล่อนพูดอย่างยิ้มๆ ก่อนจะเหลือบตามองไปด้านหลัง พอเห็นพราวตะวันทำหน้าเหมือนคนจะร้องไห้แล้วยิ่งสะใจ

ทีนี้จะได้เลิกหวังลมๆแล้งๆสักที

“สิบแปดบวกอะไร พี่กับม่านก็แค่จูบกันเฉยๆ” สายตาของเขายังคงจับจ้องที่คนตัวเล็ก “เข้ามาข้างในก่อนสิ พี่มีธุระจะคุยกับเดียร์น่าพอดี”

พราวตะวันเงยหน้าขึ้น เดินตามหลังเดียร์น่าเข้าไป พยายามไม่มองดานิเอลเพราะเธอไม่อยากเจ็บปวดไปมากกว่านี้อีกแล้ว แต่เธอรู้ว่าเขากำลังมอง เพราะสายตาคู่นั้นแผ่รังสีอำมหิตออกมาจนสัมผัสได้

เธอไม่ควรอยู่ที่นี่ ไม่ควรอยู่ให้เจ็บปวดหัวใจ

“ใครใช้ให้เธอนั่งเก้าอี้ ตรงนั้นคือที่ไอ้หมอพีท นู้นคือที่ของเธอ...” ดานิเอลชี้ไปที่มุมห้อง ซึ่งตรงนั้นไม่มีเก้าอี้เลยสักตัว “ไปนั่งพื้นนู้นไป!”

------------

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel