Bad doctor ขอโทษที่รักคุณ

155.0K · จบแล้ว
ณัฐลภัส
89
บท
8.0K
ยอดวิว
9.0
การให้คะแนน

บทย่อ

...เพราะรักมากเลยไร้ค่า... ให้ได้ทุกอย่าง...แม้กระทั่งชีวิต แม้กระทั่งวันที่เธอเกือบเอาชีวิตไม่รอดเพราะช่วยเขา แต่เขากลับตีค่าให้เธอเป็นได้แค่...เด็กกำพร้าอยู่วันยังค่ำ เหตุการณ์เลวร้ายขึ้นเรื่อยๆเพราะเธอดันไปรู้ความลับของ ม่านมัสลิน...แฟนสาวของดานิเอล ทำให้ชีวิตของเธอตกอยู่ในอันตราย เพราะลึกๆแล้วม่านมัสลินไม่ได้หวังดีกับครอบครัวคลินตัน แต่สุดท้าย...เธอก็กลายเป็นคนผิดที่บังอาจไปใส่ร้ายแฟนสาวของเขา และเมื่อหมดผลประโยชน์...เขาก็พาเธอกลับมาส่งที่บ้านเด็กกำพร้าและทอดทิ้งเธอไว้ตรงนั้น  ...จากไปอย่างไม่ใยดี... ตัวอย่างบางช่วง  “ลงไปพราวตะวัน เธอมาจากไหนก็กลับไปในที่ที่เธอมาซะ บ้านเด็กกำพร้า...คงเหมาะสำหรับเธอที่สุดแล้ว”   เมื่อมาถึงหน้าบ้าน 'ไออุ่นรัก' ชายหนุ่มก็บังคับให้หญิงสาวลงจากรถ แต่เธอปฏิเสธเพราะอยากกลับไปอธิบายให้ประมุขของบ้านเข้าใจว่าเรื่องทั้งหมดไม่ได้เป็นอย่างที่คิด เธอไม่ได้เป็นคนทำ ม่านมัสลินต่างหากที่เป็นคนทำ!  “ลงไป!!”  “ไม่....คุณดานิเอลคะ พาพราวกลับไปที่บ้านที พราวขอร้อง ฮื้อๆๆ”  “ฉันไม่ให้เธอกลับ!” เขาตะคอกใส่เหมือนกำลังหงุดหงิดเต็มที “ลงไปซะ! อย่าให้ฉันต้องหมดความอดทนพราวตะวัน”  “ฮึก~ พราวขอถามอะไรสักอย่างได้ไหมคะ” เธอสะอื้นหนักขึ้นเรื่อยๆ ก่อนจะเงยหน้ามองชายที่รักหมดหัวใจแล้วเอ่ยถามคำนั้นออกมา “ที่ผ่านมาเคยมีสักครั้งไหมที่เห็นพราวอยู่ในสายตา หรือสำหรับคุณ...พราวมันก็เป็นได้แค่เด็กกำพร้าที่คุณท่านเก็บมาเลี้ยง”  จบประโยคนั้นชายหนุ่มก็นิ่งไปทันทีเหมือนครุ่นคิดอะไรบางอย่าง  ใช่! เขารู้สึกดีที่มีพราวตะวันอยู่ข้างๆ แค่รู้สึกดีเฉยๆเพราะเขามีม่านมัสลินอยู่แล้ว แต่พอมารู้อะไรแบบนี้ก็ไม่ลังเลเลยที่จะตัดพราวตะวันออกไปจากชีวิต  ในเมื่อเธอไม่ได้หวังดีกับครอบครัวของเขา มันคงถึงเวลาที่พราวตะวันต้องออกไปจากครอบครัวคลินตันสักที  “ใช่! สำหรับฉัน...เธอมันก็เป็นได้แค่เด็กกำพร้า พวกหอกข้างแคร่จ้องจะแทงข้างหลังอยู่ตลอดเวลา ฉันไม่เก็บไว้ให้รกหูรกตาหรอก เพราะหลังจากนี้ฉันจะแต่งงานกับม่านมัสลินแล้วย้ายไปสร้างครอบครัวที่อังกฤษด้วยกัน ส่วนเธอก็กลับไปอยู่บ้านเด็กกำพร้ากระจอกๆนั่นซะ เราสองคนจะไม่มีวันได้เจอกันอีก เพราะเมื่อไหร่ที่ฉันเจอเธอ...ฉันฆ่าเธอแน่!”

พลิกชีวิตคนธรรมดาสัญญาทางรักโรแมนติกดราม่าเศรษฐีนิยายรัก18+หมอ

บทที่ 1 คนไร้ค่า

‘พี่เอกอย่าเอาเงินฉันไป สงสารฉันกับลูกเถอะนะ แค่นี้เราสองคนก็แทบจะไม่มีกินอยู่แล้ว’

‘อย่าพูดมากอีเดือน รู้ไหมตอนนี้กูกำลังจะลงแดงเพราะไม่ได้แดกเหล้า ถ้ามึงไม่เอาเงินมาให้กู วันนี้กูฆ่าลูกมึงแน่!!’

‘ไม่นะพี่เอก ถือว่าฉันขอร้องล่ะ ยังไงยัยพราวก็คือหลานของพี่นะ ฮื้อๆๆ’

‘เป็นแค่หลานแต่ไม่ใช่ลูกกูโว้ย! มึงอย่าพูดมาก เอาเงินมาให้กูเดี๋ยวนี้อีเดือน!!’

‘ไม่!! ฉันรู้ว่าพี่จะเอาเงินไปซื้อยามาเสพ ฉันไม่ให้พี่หรอก’

‘ไม่ให้ใช่ไหม...ได้!!’

‘กรี๊ดดด!!! พี่เอกจะทำอะไร อย่าเอาลูกของฉันไปนะ!!’

‘ก็ถ้ามึงไม่ให้เงินกู กูก็จะเอาลูกมึงไปขายไง!!”

‘ฉันฝากลูกหน่อยนะครูกรองแก้ว เด็กคนนี้ชื่อว่า'พราวตะวัน'เป็นลูกของแม่เดือน ฉันคงไม่สามารถเลี้ยงเด็กคนนี้ได้อีกแล้ว ฮื้อๆๆ’

‘ฉันป่วยเป็นโรคเรื้อรัง และไม่รู้ว่าจะมีชีวิตอยู่ได้นานเท่าไหร่ ถ้าพราวยังอยู่กับพี่เอก ลูกของฉันต้องแย่แน่ๆ’

‘ฝากเลี้ยงลูกแทนฉันด้วยนะ เพราะฉันคงไม่มีโอกาสได้ดูเขาเติบโตเป็นผู้ใหญ่ แม่ขอโทษนะลูก....ฮึก....หลังจากนี้ขอให้ลูกโชคดีนะ แม่รักหนูที่สุดเลย"

 

พรึ้บบ!!

“แม่!!!”

ร่างเล็กที่กำลังนอนหลับใหลสะดุ้งตื่นเพราะฝันร้าย พอโตขึ้นเธอมักจะฝันถึงเรื่องนี้เป็นประจำ อาจเป็นเพราะมันคือความทรงจำครั้งสุดท้ายเกี่ยวกับมารดาที่ยังพอจำได้ ตอนนั้นเธอยังเด็กมาก ยังจำอะไรไม่ค่อยได้ รู้แค่ว่ามารดานำเธอมาฝากมาไว้กับ ‘ครูกรองแก้ว’ ที่บ้านเด็กกำพร้า แล้วหลังจากนั้นเธอก็ไม่เคยเจอแม่แท้ๆอีกเลย

แต่เสียงร้องของเธอดันไปปลุกปีศาจที่กำลังนอนหลับใหลเข้า เขาสะดุ้งตื่นเพราะเสียงอันน่ารำคาญดังขึ้นในยามวิกาล ใบหน้าหล่อสลักตวัดมองอย่างเอาเรื่อง เห็นร่างเล็กกำลังลุกขึ้นนั่งในสภาพหอบเหนื่อย

“ทำบ้าอะไรของเธอพราวตะวัน!!”

“พะ...พราวขอโทษนะคะที่ทำให้คุณตื่น พอดี...เอ่อ...พราวฝันร้ายค่ะ” หญิงสาวก้มหน้างุดเหมือนกำลังหนีความผิด เธอไม่ได้ตั้งใจปลุกให้เขาตื่นเพราะรู้ว่าช่วงนี้ชายหนุ่มค่อนข้างพักผ่อนน้อย เนื่องจากมีเคสหนักที่โรงพยาบาลแทบทุกวัน

“…” ร่างสูงสลัดผ้าห่มออก ลุกขึ้นนั่งอย่างไม่พอใจเมื่อโดนปลุก หางตาดุจัดตวัดมองไปที่นาฬิกาที่แขวนอยู่บนฝาผนังห้อง บอกเวลาตีสี่นิดๆ เพียงเท่านั้นสันกรามหนาก็ขบแน่นทันที “ฉันบอกแล้วไม่ใช่หรอว่าอย่าอยู่ในห้องนี้จนถึงเช้า หรือเธออยากให้คนในบ้านรู้ว่าฉันลดตัวลงมาเอาเธอ!”

มือแข็งปานคีบเหล็กนั้นคว้าหมับเข้าที่ต้นแขนเรียวเล็ก แล้วกระชากร่างบางเข้าหาตัว เพียงเท่านั้นหยาดน้ำตาก็รื้อขึ้นเต็มดวงตากลมโตทันที แต่เขาก็ไม่ได้มีทีท่าว่าจะปล่อย

“พราวขอโทษค่ะ พะ...พราวไม่ได้ตั้งใจ พราวแค่ฝันร้าย”

“จะฝันร้ายหรืออะไรมันก็เรื่องของเธอ แต่กฎของฉันก็คือ...อย่าอยู่ในห้องนี้จนถึงเช้า เพราะเดี๋ยวใครมาเห็นเข้าแล้วฉันจะซวยเอา เธออยากให้คนอื่นรู้ขนาดนั้นเลยหรอว่าเราสองคนมีอะไรกัน"

“เปล่านะคะ เมื่อคืนพราวแค่เหนื่อย ก็คุณ...เอ่อ...ทำพราวจนเกือบถึงตีสาม พราวได้นอนแค่ชั่วโมงเดียวเอง”

“จะนอนหรือไม่ได้นอนมันก็เรื่องของเธอ เพราะหน้าที่หลักของเธอมันก็คือเรื่องบนเตียงอยู่แล้วนี่ เวลาที่ฉันเครียดก็ต้องให้ฉันเอา และพึงสำนึกไว้ด้วยว่านามสกุลที่เธอใช้อยู่คือนามสกุลของใคร!”

“พราวรู้ค่ะ” หญิงสาวก้มหน้าลงอย่างกล้ำกลืน ยอมรับในโชคชะตาของตัวเอง เธอมันก็เป็นแค่เด็กกำพร้าที่ครอบครัวของเขารับอุปการะ ไม่มีสิทธิ์ออกความคิดเห็น ไม่มีสิทธิ์โต้แย้ง แม้กระทั่งเรื่องบนเตียง...เธอก็ไม่สามารถขัดใจเขาได้

“ถ้ารู้แล้วก็ออกไปสิ หอบเอาร่างกายเน่าๆของเธอออกไปจากห้องฉันได้แล้ว ก่อนที่ฉันจะโมโหไปมากกว่านี้”

“ค่ะ พะ...พราวขอโทษอีกครั้งนะคะที่ทำให้คุณตื่น”

เมื่อมือใหญ่คลายต้นแขนออก หญิงสาวก็รีบลนลานลงจากเตียงขนาดคิงไซส์ทันที เธอกระวีกระวาดหยิบเศษเสื้อผ้าที่ขาดกระจัดกระจายเนื่องจากฝีมือของชายหนุ่มขึ้นมาใส่ และใส่ให้รวดเร็วที่สุดเพราะกลัวคนในห้องจะรำคาญ

ก่อนออกไปก็ไม่ลืมชำเลืองมองซ้ายมองขวาด้วยความระมัดระวัง เพราะกลัวจะมีใครมาเห็นเข้า

ภายหลังที่หญิงสาวออกไป ชายหนุ่มก็ถอนหายใจพรืดใหญ่ด้วยความหงุดหงิดก่อนจะล้มหัวลงนอนต่อ เพราะวันนี้มีเคสผ่าตัดใหญ่ การนอนให้เต็มอิ่มจึงเป็นเรื่องสำคัญมาก

 

หลังจากที่หญิงสาวพาร่างกายอันบอบช้ำมาถึงห้องนอนขนาดเล็กที่อยู่ชั้นล่างของบ้าน เธอก็ทิ้งตัวลงบนเตียงทันทีพร้อมกับเสียงร้องไห้ระงมดังทั่วห้องแต่ก็ไม่มีใครได้ยิน เพราะมีเสียงของสายฝนดังกลบ

ร่างบอบนอนบางห่อตัวเข้าหากัน กอดตัวเองให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะกอดได้ ท่ามกลางความอุ่นอบจากบ้านคลินตันแต่เธอรู้สึกกลับโดดเดี่ยวเหลือเกิน เด็กที่ถูกรับอุปการะจากบ้านเด็กกำพร้า เหมือนได้ชีวิตใหม่อีกครั้ง แต่สุดท้ายมันก็เป็นแค่เพียงความสุขชั่วคราว เพราะทันทีที่เธอก้าวเข้ามาเหยียบในบ้านหลังนี้ ก็เห็นถึงสายตาแห่งความเกลียดชังจากลูกชายและลูกสาวของบ้าน พวกเขาดูถูก เหยียดหยามทั้งสายตาและคำพูด หาว่าเธอเป็นเด็กไม่มีหัวนอนปลายเท้า ซ้ำร้าย...พอบรรลุนิติภาวะได้ไม่นาน เธอก็ตกเป็นของลูกชายเจ้าของบ้านอย่างสมบูรณ์

เด็กกำพร้าอย่างเธอก็แค่ต้องการชีวิตใหม่ มีครอบครัวที่แสนอบอุ่น มีที่พักพิงที่ทำให้เธอรู้สึกปลอดภัย ไม่ได้ขออะไรไปมากกว่านี้เลย

“ฮึก~ คุณใจร้าย คุณดานิเอลใจร้ายเหลือเกิน ฮื้อๆๆ”

เธอตกอยู่ในสภาพนี้มาเกือบหนึ่งปีแล้ว ผู้ชายคนนั้นพรากความบริสุทธิ์ไป หนำซ้ำเขายังตีราคาให้เธอเป็นแค่เพียงที่ระบายความใคร่ ห้ามไม่ให้ใครรู้เด็ดขาด

แต่สิ่งที่อยู่ในใจกลับเริ่มชัดเจนขึ้นเรื่อยๆจนห้ามความรู้สึกไม่ได้

ใช่...เธอหลงรักลูกชายของเจ้าของบ้าน รักมานานแล้ว แต่ก็ทำได้แค่เก็บงำความรู้สึกนี้เอาไว้ เพราะคนต่ำต้อยอย่างเธอไม่มีสิทธิ์รักเขาเลยด้วยซ้ำ และความเจ็บปวด ความทรมานที่เจออยู่ถูกกดด้วยความว่า‘บุญคุณ’มาตลอด แม้เจ็บปวดเจียนตายก็ต้องยอม

“สักวันพราวจะเลิกรักคุณ ฮึก! สักวันพราวจะเลิกรักคุณให้ได้ ฮื้อ...”