บทที่ 4 ความลับไม่มีในโลก
“อะ...อึก” พราวตะวันกลืนน้ำลายลงคอยามที่มือใหญ่สัมผัสกับเรือนร่าง จนเกิดเป็นอาการร้อนวูบวาบทั่วตัว
จำได้ว่าตั้งแต่ครั้งแรกที่เคยมีอะไรกัน ร่างกายของเธอก็ไม่เคยต่อต้านเลยสักครั้ง แม้จะเป็นความอบอุ่นที่เคลือบไปด้วยความเจ็บปวด แต่เธอก็ชอบมัน อย่างน้อยสัมผัสของเขาก็ทำให้เธอมีความสุขขึ้นมาบ้าง แม้จะเพียงชั่วครู่ก็ตาม
“อื้อ! คุณดานิเอล”
พราวตะวันรับรู้ได้ถึงความแข็งใหญ่ที่พยายามสอดใส่เข้ามาในช่องทางรักอันแสนคับแคบ จนใบหน้าเนียนสวยเห่ยเกด้วยความเจ็บปวด อาจเป็นเพราะเขามีรูปร่างใหญ่กว่าเธอมาก ทำให้การร่วมรักทุกครั้งเต็มไปด้วยความเจ็บปวด แต่มันก็แค่ชั่วพริบตาเท่านั้น เมื่อไฟสวาทลุกโหมเต็มที่เธอก็ลืมความเจ็บปวดนั้นไปเลย
“บ้าเอ้ย! ทำไมเข้ายากจังวะ” ชายหนุ่มสบถด้วยถ้อยคำหยาบคาย พยายามยัดท่อนเอ็นเข้าไปแต่ก็ยัดไม่เข้า ด้วยความที่มีขนาดใหญ่โตเกินมาตรฐานของชายไทย ก็ทำให้พราวตะวันรู้สึกคับแน่นทุกครั้งที่สอดใส่
ชายหนุ่มจับร่างตัวเล็กไว้แน่นเพื่อไม่ให้หญิงสาวขยับ ก่อนจะดันแก่นกายเข้าไปสุดแรงจนท่อนเอ็นฝ่าความคับแน่นเข้าไปได้
ปึดดด!!
“อ้ะ!!”
ร่างเล็กผวาเฮือกคว้าท่อนแขนใหญ่ไว้แน่น ทันทีที่ท่อนเอ็นร้อนเข้าไปอยู่ข้างใน โพรงอันนุ่มหยุ่นก็ตอดรัดไม่หยุดจนดานิเอลเบ้หน้าด้วยความเสียวซ่าน
“อืม~ ตอดดีเป็นบ้าเลยพราวตะวัน” ชายหนุ่มเอื้อยเอ่ยออกมาด้วยความพึงพอใจ ไม่เคยเจอหญิงใดคับแน่นและฟิตเท่าพราวตะวันมาก่อน
ด้วยเหตุนี้เขาจึงอยากเก็บเธอไว้เป็นที่ระบายความใคร่แบบลับๆ
ปึก!ปึก!
“อ้าา~ พราวตะวัน ฉันชอบตรงนี้ของเธอที่สุดเลย” ร่องคับแน่นนั้นทำให้เขาแทบคุ้มคลั่ง กระแทกสะโพกสอบไม่ยั้งแรง
“อื้อ...คะ...คุณดานิเอลข๋า”
“อ้าาา”
คนตัวเล็กที่ถูกชายหนุ่มเคลื่อนไว้อยู่บนร่างร้องครางออกมาไม่เป็นส่ำ ทั้งเสียวซ่าน ทั้งจุกในเวลาเดียวกัน แม้ว่าจะเคยผ่านการร่วมรักกันมานับครั้งไม่ถ้วน แต่ร่างกายของเธอก็ยังไม่ชินกับขนาดแก่นกายที่ใหญ่เกินมาตรฐานสักที ทำให้เธอผวาเฮือกอยู่ตลอดเวลา
แต่เธอก็ชอบนะ เพราะมันเป็นความเจ็บปวดที่แฝงไปด้วยความสุข
ปึก!ปึก!ปึก!
“ดีเป็นบ้าเลย ฉันอยากเอาเธออีกสักสองรอบ” ท่อนเอ็นยาวใหญ่กระแทกเข้าไปสุดลำอย่างหนักหน่วง
“มะ...ไม่ได้นะคะ อื้อ! คะ...คุณมีงานต่อไม่ใช่หรอคะ”
“ใช่ งานต้องสำคัญกว่าเธออยู่แล้ว อ้าาา...พราวตะวัน ตอนเย็นเดี๋ยวฉันกลับมาซ้ำอีกนะ แต่ต้องเป็นหลังจากที่ฉันพาม่านไปทานข้าวเสร็จ”
จบประโยคนั้นความสุขที่เคยมีก็มลายหายไปทันที เธอหลอกตัวเองว่ากำลังมีความสุข แต่เปล่าเลย...เธอกำลังเป็นตัวแทนของใครบางคนต่างหาก
คนที่มีค่า คนที่ดานิเอลรักมากที่สุด คนที่คู่ควรกับเขา ม่านมัสลิน...คือผู้หญิงที่คบหากับเขาตั้งแต่สมัยเรียนที่เยอรมัน
“จะไปไหน ฉันยังเอาเธอไม่เสร็จเลยนะ” เขาคว้าร่างบางที่ทำเหมือนจะลุกหนีทั้งๆที่ยังกระแทกไม่เสร็จ
“พะ...พราวว่าเราพอเถอะค่ะ เดี๋ยวใครมาเห็นเข้าแล้วคุณจะซวยเอานะคะ”
“รอก่อน ใกล้จะแตกแล้ว อ้าาา~”
ปึก!ปึก!...
“อื้อ...พะ...พอเถอะค่ะ พราวแสบ”
“ใกล้แล้ว...อย่าพึ่ง”
เขาไม่ได้สนใจสีหน้าไม่สู้ดีของคนตัวเล็กสักนิด และยังกระแทกอยู่อย่างนั้นจนเสียงเนื้อกระทบเนื้อดังลั่นห้อง
หญิงสาวค่อยๆปิดเปลือกตาลง กลั้นใจยอมให้เขากระแทกต่อจนเสร็จทั้งๆที่ความรู้สึกย่อยยับไม่มีชิ้นดี ต่อให้เธอขัดขืนหรือต่อต้าน ยังไงก็สู้แรงมหาศาลไม่ได้อยู่ดี เพราะถ้าเขาจะเอา ก็ต้องเอาให้ได้ เธอไม่อยากเจ็บตัว เพราะขัดขืนมาหลายครั้งแล้ว แต่สุดท้ายก็พ่ายแพ้ให้กับปีศาจร้ายอยู่ดี
“โอ้ววว...พร้าวตะวัน ฉันจะแตกแล้ว อึก...อ้าาา!!”
ร่างสูงกระตุกเกร็งสองสามครั้งก่อนจะปล่อยเสียงครามรามลั่นออกมา สายน้ำอุ่นค่อยๆไหลผ่านเข้ามาในช่องทางรักอันแสนบวมเป่ง พราวตะวันหลับตาลง เบือนหน้าหนีไปทางอื่นเหมือนรับความจริงไม่ได้ที่เธอกำลังทำอะไรลับหลังม่านมัสลิน
เมื่อปล่อยน้ำรักเสร็จชายหนุ่มก็ดึงแก่นกายออกจากกลีบกุหลาบบวมเป่งที่ถูกใช้งานเกือบทุกวัน และก็ไม่ลืมกำชับเรื่องสำคัญ
“อย่าลืมทานยาคุมที่ฉันจัดให้ล่ะ ถ้าเกิดพลาดขึ้นมาฉันจับเธอทำแท้งแน่!”
“พราวไม่ลืมหรอกค่ะ คุณดานิเอลสบายใจได้เลย” พราวตะวันค่อยๆหยัดกายลุกขึ้นนั่งในสภาพบอบช้ำ เจ็บส่วนล่างจนไม่สามารถยืนขึ้นได้ ส่วนดานิเอลก็รีบคว้าเสื้อผ้าขึ้นมาสวมใส่ หันหลังให้เหมือนไม่ได้มีอะไรเกิดขึ้น
พราวตะวันมองภาพนั้นด้วยความเจ็บปวดหัวใจ พอเขาปลดปล่อยความต้องการเสร็จก็หันหลังแล้วเดินจากไป ไม่พูดไม่จาอะไรสักคำ เป็นภาพที่เกิดขึ้นแทบทุกครั้ง
“คุณดานิเอลคะ”
“อะไร!” เขาหันหน้ากลับมาด้วยความหงุดหงิด พร้อมกับรูดซิบกางเกงแล้วหยิบเสื้อคลุมขึ้นมาสวมใส่ด้วยท่าทางเร่งรีบ
“...” หญิงสาวเม้มริมฝีปากเข้าหากันแน่น บังคับร่างไม่ให้สั่น เพราะเธอเจ็บปวดจนไม่อยากทำแบบนี้อีกแล้ว “พราวขออะไรสักอย่างได้ไหมคะ”
“ว่า”
“ขอให้ครั้งนี้เป็นครั้งสุดท้ายได้ไหมคะ พราวไม่อยากทำแบบนี้แล้วจริงๆ พราวไม่อยากทำร้ายคุณม่าน ฮึก! ได้โปรด เห็นใจพราวด้วยนะคะ”
“คนอย่างเธอมีสิทธิ์เรียกร้องด้วยหรอ” ดวงตาคมกริบมองคนตัวเล็กอย่างเอาเรื่อง ก่อนที่นิ้วใหญ่จะจิ้มเข้าไปที่หน้าผากของเธอ “สำนึกเอาไว้ด้วยว่าเธออยู่ที่นี่ในฐานะอะไร ในเมื่อเธอเลือกที่จะก้าวเข้ามาตั้งแต่แรก ก็เตรียมตัวเตรียมใจเอาไว้ซะ เพราะเมื่อไหร่ที่ฉันหิว เธอก็ต้องอ้าขาให้ฉัน”
“แต่พราวไม่อยากทำร้ายคุณม่าน ฮื้อๆๆ พราวไม่อยากทำร้ายลูกผู้หญิงด้วยกัน” ร่างเล็กยกมือปิดหน้า ร่ำไห้ด้วยความอดสู ไม่เห็นใจเธอ อย่างน้อยก็น่าจะเห็นใจแฟนสาวของเขาบ้าง ถ้าม่านมัสลินรู้จะเสียใจแค่ไหน
“หยุดร้องสักที ฉันรำคาญ!” ดานิเอลจิ๊ปากอย่างอารมณ์เสีย “แล้วก็เลิกเอาตัวต่ำๆของเธอไปเปรียบเทียบกับม่านได้แล้ว เป็นแค่อีตัวแก้ขัด ไม่มีวันสู้ตัวจริงของฉันได้หรอก ไว้เบื่อเมื่อไหร่ฉันจะเป็นคนเฉดหัวทิ้งเอง!”
“ฮึก....”
“เธอมันน่ารำคาญที่สุดเลยพราวตะวัน!”
จบประโยคนั้นชายหนุ่มก็หันหลังเดินจากไปทันที ทิ้งให้หญิงสาวนั่งจมอยู่กับคราบน้ำตาพร้อมกับกองเสื้อผ้าขาดหวิ่น มือเรียวค่อยๆควานหาเสื้อผ้ามาสวมใส่ แต่มันก็แทบใส่ได้เลยด้วยซ้ำ
หากเธอมีเงินมากพอที่จะตั้งตัวใหม่ได้ คงไม่อยู่ให้เขาทำร้ายจิตใจทุกวี่ทุกวันหรอก อีกอย่างถ้าออกไปตอนนี้ คุณเอดินสันต้องรู้แน่ๆว่าเธอกับเขาแอบมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งต่อกัน
เธอไม่อยากให้เขาเดือดร้อน เลยเลือกที่จะปกป้องปีศาจร้ายทั้งๆที่ตัวเองกำลังเจ็บปวด
พราวตะวันค่อยๆก้าวเท้าออกมาจากห้องเก็บของอย่างระมัดระวัง ซึ่งดานิเอลเดินออกไปได้สักพักแล้วถึงออกมา หญิงสาวชำลองมองซ้ายมองขวา พอดูจนเป็นที่แน่ใจแล้วว่าไม่มีใครเห็นก็รีบวิ่งเข้าห้องตัวเองทันที เพราะห้องของเธออยู่ใกล้ๆกับห้องเก็บของ
และบังเอิญเป็นจังหวะเดียวกับที่เดียร์น่าลืมเอกสารสำคัญเลยวนรถกลับมาที่บ้าน ทำให้หล่อนเจอแจ็กพ็อตเข้าอย่างจัง
ดานิเอลเดินออกมาจากห้องเก็บของ จากนั้นไม่นานก็เห็นพราวตะวันเดินออกมาด้วยท่าทางลับๆล่อๆ แสดงว่าสองคนนี้ต้องแอบเข้าไปทำอะไรกันในห้องเก็บของแน่ๆ
กร๊อด!!
“นังพราว กินบนเรือนขี้รดบนหลังคา!”
หล่อนกำหมัดแน่น!
เรื่องที่พราวตะวันอ่อยพ่อของหล่อนก็ยังไม่เคลียร์ ยังแอบมาทำเรื่องคาวๆกับพี่ชายของหล่อนอีก
แม่นี่ไว้ใจไม่ได้ ถ้าขืนยังปล่อยไว้ สักวันทั้งพ่อและพี่ชายของหล่อนต้องไปอยู่ข้างมันแน่ๆ
“แกแย่งความรักจากพ่อของฉันไปไม่พอ ยังจะมาแย่งความรักจากพี่ชายของฉันไปอีกหรอ ฉันไม่ยอมหรอก นังผู้หญิงชั้นต่ำ!”
---------------