บทที่ 4
“หึ! เธอนี่ก็แปลก” กลับกลายเป็นเรื่องตลกขำขันของวอร์ซะงั้น “เธอยังมีสติอยู่ไหมเนี่ย แน่ใจเหรอจะให้ฉันเปิดซิง”
“ครั้งแรก จำเป็นต้องเป็นแฟนกันด้วยเหรอ” เธอเข้าใจว่าเขาต้องการจะสื่ออะไร และเธอก็เข้าใจว่าการมีเซ็กซ์กันไม่จำเป็นต้องเป็นแฟนกันก็มีได้ อย่างพี่ชายเธอก็ไม่เห็นจะมีแฟนแต่ก็มีผู้หญิงเข้าหาไม่ขาด
“มีพ่อมีแม่ไหม”
คำถามของวอร์ทำวีนัสนิ่งไปพักหนึ่ง
“ทำไมคะ”
“เปล่าหรอก แล้วเธออายุเท่าไหร่ บอกไว้ก่อนว่าฉันไม่เอาเด็กหรอกนะ ถึงจะเงี่ยนยังไงก็ไม่เอา”
“เหรอคะ” วีนัสละสายตาจากเขามองไปยังแก้วไวน์ที่ตั้งอยู่บนโต๊ะ “งั้นสอนจูบหน่อยได้ไหม อยากรู้ว่าตอนที่เขาจูบกันมันรู้สึกยังไง”
“อ้าว แสดงว่าเธอยังไม่บรรลุนิติภาวะเหรอวะ” วอร์เค้นเสียงถามลอดไล่ฟัน
“เปล่าค่ะ” เธอกำลังโกหกคำโต “ตกลงจะสอนวีจูบไหม”
“อะไรของเธอ วันนี้เกิดอยากรู้อยากลองไปทุกอย่างเลยหรือไง หรือเพิ่งได้ออกจากจากกะลามาเผชิญโลกใบนี้” วีนัสไม่ตอบ เพราะสิ่งที่เขาพูดมันคือเรื่องจริง นี่เป็นครั้งแรกที่เธอออกมาเที่ยวสถานบันเทิงและเป็นครั้งแรกที่มาห้องผู้ชายและตอนนี้เธอกำลังขอ ให้เขาสอนเรื่องการจูบ
วอร์หรี่ตามองคนหน้านิ่งแล้ววางแก้วไวน์
“ก่อนอื่นต้องถามเธอก่อนว่าเคยจูบกับใครมาบ้าง”
“…” วีนัสส่ายหน้าช้า ๆ
“ไม่เคยสักคนเลย?”
“ค่ะ”
“จูบมันก็ไม่ได้ยากอะไร แต่จะจูบยังไงให้รู้สึกฟิน รู้สึกมีความสุขระคนหลงใหลมันยาก”
“แล้วเขาทำยังไงเหรอคะ” วีนัสเอียงคอถามอย่างใสซื่อ
“อยากให้ฉันสอนจริงๆ เหรอ” เพราะถ้ากูเกิดมีอารมณ์ขึ้นมาใครจะรับผิดชอบวะ! วอร์แอบจิ๊ปากกับความคิดตัวเอง “คือฉันต้องบอกเธอก่อนนะ ว่าการจูบเป็นการเล้าโลมอย่างหนึ่งที่อีกฝ่ายอาจจะเกิดอารมณ์ร่วม แบบจูบไปแล้วมันฟิน บวกกับบรรยากาศพาไปอะไรแบบนี้” วีนัสพยักหน้าหงึกตามเขาราวกับรู้เรื่อง
“วอร์จะบอกว่าถ้าจูบกันแล้ว ไม่วีนัสก็วอร์จะเกิดอารมณ์ใช่ไหม” วอร์นิ่งไปครู่หนึ่งเพราะหญิงสาวเปลี่ยนสรรพนามใช้เรียกเขาและแทนตัวเอง
“อืม แบบนั้นแหละ”
“วีไม่มีอารมณ์หรอก” เพราะความรู้สึกมันด้านชาหมดแล้ว
“งั้นฉันจะเริ่มสอนเธอ บทเรียนที่หนึ่งคือการจูบ”
“ค่ะ” วีนัสก้มมองตัวเองพร้อมกับหยิบหมอนอิงมาวางบนหน้าตัก
ฝ่ามือหนายกขึ้นมาเชยใบหน้าเธอให้เอียงมาหาเขาตรงๆ นิ้วโป้งข้างซ้ายแตะลงที่ริมฝีปากวีนัส เกลี่ยเบา ๆ จนความมันของลิปสติกติดปลายนิ้วเขา
“จะเริ่มแล้วนะ” น่าแปลกที่เขารู้สึกประหม่าในขณะที่วีนัสนั่งนิ่ง เธอจ้องหน้าเขาโดยไม่มีอาการใดๆ แม้แต่ความเขินอายเธอก็ไม่แสดงออกมาให้เห็น
วอร์ค่อย ๆ โน้มใบหน้าไปใกล้กับใบหน้าวีนัส เธอรับรู้ถึงลมหายใจเจือด้วยกลิ่นแอลกอฮอล์จาง ๆ เป่ารดปลายจมูกก่อนที่สัมผัสนุ่มหยุ่นของริมฝีปากหยักประกบลงที่กลีบปากเธอ ไออุ่นไปทางร้อนค่อยๆ ซาบซ่านไปทั่วริมฝีปากเมื่อเขากดแนบลงกว่าเดิม
“…” วีนัสสะอึกเล็กน้อยเพราะจับจังหวะการหายใจไม่ทัน “อึก…หายใจไม่ออกค่ะ” ฝ่ามือเรียวผลักใบหน้าวอร์ออกห่าง เธอสูดหายใจเข้าปอดเฮือกหนึ่งและยกมือขึ้นมาแตะริมฝีปากตัวเอง สัมผัสนุ่มอุ่นยังติดอยู่ที่ปลายปากแม้วอร์ผละตัวออกไปนานแล้ว
“มันไม่ได้จะตายจริงๆ สักหน่อย” เขาดูหงุดหงิดใจไม่น้อย “ลองใหม่ไหม”
“ค่ะ” คราวนี้วีนัสเขยิบมาใกล้ชายหนุ่มมากขึ้นจนเขาได้กลิ่นหอมอ่อน ๆ จากตัวเธอ “จูบ…” วีนัสเป็นฝ่ายโน้มตัวไปหาเขาเองและประกบปากจูบอย่างอ้อยอิ่ง
สัมผัสนุ่มหยุ่นแนบลงกับริมฝีปากเขาอีกครั้งหนึ่ง คราวนี้เธอเริ่มเอียงใบหน้าไปมาและเผยอปากจูบที่เดิมซ้ำๆ
“อ๊ะ!” วีนัสหลุดเสียงร้องด้วยความตกใจที่จู่ ๆ อีกฝ่ายก็เผยอปาก สอดใส่เรียวลิ้นเข้ามาในโพรงปากเธอ
“ตกใจอะไร ก็เป็นเรื่องธรรมดาที่ต้องจูบแลกลิ้น”
“จูบแลกลิ้นเหรอคะ” หญิงสาวละสายตาจากดวงตาคมมองที่ริมฝีปากหนา ทว่าจู่ ๆ หัวใจเธอก็กระตุกวูบแต่ก็ไม่ได้สั่นไหวกับสิ่งที่เขากระทำเมื่อครู่ซะทีเดียว เธอแค่แปลกใจว่าคนเราจะกล้าเอาลิ้นตัวเองเข้าไปในปากคนอื่นได้แบบนี้เลยเหรอ
“ใช่” วอร์ตอบ
“ต้องเอาลิ้นวีเข้าไปในปากคุณเหรอ” เธอยังจ้องริมฝีปากหยักได้รูปนั้นตาไม่กะพริบ
“อืม หรือว่าเธอรังเกียจ?”
“รังเกียจค่ะ”
“…”! คำตอบตรงไปตรงมาทำเอาวอร์หน้าเหวอไปชั่วขณะหนึ่ง “หึหึ จูบกันยังจูบแล้ว แลกลิ้นกันมันก็คงไม่น่ารังเกียจมั้ง”
“มั้งคะ” เธอเสสายตามองไปทางอื่นจนกระทั่งถูกฝ่ายตรงข้ามจับประคองใบหน้าไว้ด้วยสองฝ่ามือ สายตาเขาจดจ้องมาที่ดวงตาเธอภายใต้ความเงียบที่เพิ่งก่อตัว จากนั้นวอร์ก็โน้มใบหน้าลงมาจูบริมฝีปากวีนัสอย่างละเมียดละไมจนเธอหลับตาพริ้มทั้งยังเปล่งเสียงครางหวาน เผลอเปิดปากให้อีกฝ่ายสอดเรียวลิ้นเข้ามาเกี่ยวกวัดหยอกล้ออย่างลืมตัว “อื้อ~” วีนัสครางหวาน
“อืม…เธอทำมันได้ดีสาวน้อย”
“อื้อ~ แล้วถ้าเราอยากกัด”
“อ๊ะ! โอ๊ย!!!” พูดไม่ทันจบประโยควีนัสก็กัดริมฝีปากวอร์จนเลือดออก แต่เธอกลับยกยิ้มที่มุมปากมองเลือดสีแดงบนริมฝีปากชายหนุ่มอย่างสนใจ
“แบบนี้ก็เรียกว่าจูบด้วยความรู้สึกต้องการมากใช่ไหม”
“ใครสอนเธอมาวะ แบบนี้เรียกซาดิสม์โว๊ย!” วอร์โวยวายทั้งรีบหยิบกระดาษทิชชูมาซับเลือดออก วีนัสยื่นหน้าไปใกล้ก่อนจะเขยิบตัวตามมานั่งใกล้วอร์มากกว่าเดิมชนิดที่ลมหายใจเธอเป่ารดหน้าอกแกร่งถี่ ๆ
“เอามือออกได้ไหม” เธอสั่งเสียงพร่าให้วอร์เอามือออกจากริมฝีปาก พอเขายอมทำตามเธอก็จ้องบาดแผลที่ยังมีเลือดออกเล็กน้อย การกระทำต่อจากนั้นทำเอาวอร์ชะงักไปชั่วขณะเมื่อจู่ ๆ วีนัสก็โน้มตัวมาจูบซับเลือดและตวัดลิ้นเลียริมฝีปากเขา กลิ่นคาวเลือดคละคลุ้งในโพรงปากวอร์และเธอ
“ขอโทษค่ะ ไม่คิดว่าเลือดจะออก” เขาไม่ติดใจกับการกระทำเธอเลยหากเมื่อครู่เธอไม่ทำอะไรแปลก ๆ เหมือนพวกโรคจิต “เลือดของวอร์…หวานดีนะ”
“โว๊ย!” ชายหนุ่มดันใบหน้าหญิงสาวออกห่างแล้วผลุนผลันลุกขึ้นยืนเต็มความสูง คนตัวเล็กนั่งเรียบร้อยแหงนมองหน้าตาปริบ ๆ
“บทเรียนที่หนึ่ง…ผ่านแล้วใช่ไหม”
“ยัง”
“แล้วต้องทำยังไง”
“จูบไม่ประสาแบบนี้ใครมันจะไปมีอารมณ์วะ”
“แล้วต้องจูบยังไง” เธอดันตัวลุกขึ้นยืนบนโซฟาทำเอาวอร์เลิ่กลั่กมองเธอ
“อะไรวะ” สองฝ่ามือเรียวทาบที่แก้มสาก ด้วยตอนนี้เธออยู่สูงกว่าเขาเพราะยืนบนโซฟา “อื้อ!!” วอร์เปล่งเสียงครางอื้อในลำคอเมื่อถูกจูบริมฝีปาก ปิดผนึกไว้แน่น สองมือเรียววางลงบนบ่าแกร่งทั้งสองข้าง ในนาทีแรกรสจูบรุนแรงเอาแต่ใจแต่ทว่าในก็อ่อนโยนในเวลาต่อมาจนเขาจูบตอบอย่างไม่คิดลังเล
“อืม~”
“…แบบนี้ผ่านแล้วใช่ไหม”
“…” วอร์ไม่ตอบกลับทันทีแต่มองอีกฝ่ายเป็นการหยั่งเชิง “อืม”
“งั้นเรามาเริ่มบทเรียนที่สองเลยไหมคะ”
“หึ! ได้…”