บทที่ 2
ยิ่งดึกไนต์คลับก็ยิ่งคึกครื้นเพราะโชว์เล็กๆ น้อยๆ จากทางคลับที่มีให้ชมในช่วงเวลาเที่ยงคืนถึงตีหนึ่ง นักท่องราตรีจึงทยอยเข้ามาดื่มด่ำกับบรรยากาศและดูโชว์จากคลับ
“กูพาเลิฟยูกลับก่อนนะ” ไออุ่นอุ้มตัวเลิฟยูเดินลงไปชั้นล่างทันที ตามด้วยโฮปที่พยุงตัวคู่หมั้นสาวเดินตามหลังไออุ่นไปติด ๆ เหลือเพียงวอร์ที่นั่งสูบบุหรี่ด้วยท่าทางสบาย ๆ อยู่บนโซฟา
เขาคาบบุหรี่ไว้แล้วกระดิกนิ้วเรียกพนักงานบริการมาหา
“ครับ”
“มีกระดาษกับปากกาไหม"
“มีครับ” พอพนักงานส่งของที่เขาถามหาให้แล้ววอร์ก็เขียนบางอย่างลงไปแล้วฉีกกระดาษแผ่นนั้นออก ยื่นให้พนักงานบริการหนุ่ม
“เอาไปให้ผู้หญิงคนนั้น” พนักงานหนุ่มชะเง้อมองตามปลายนิ้วชายหนุ่มที่ชี้ไปหาผู้หญิงชุดเดรสสีดำอยู่หน้าบาร์ พอรับกระดาษแผ่นนั้นมาแล้วก็ลงไปส่งสารให้วอร์
“คุณผู้หญิงครับ คุณผู้ชายคนนั้นฝากมาให้ครับ”
“…” ร่างบางมองกระดาษที่พนักงานยื่นให้ เธอไม่ได้รีบรับกระดาษมาซะทีเดียว เงยหน้ามองไปที่ชั้นสอง สบตากับวอร์พร้อมกับยื่นมือไปรับกระดาษแผ่นนั้นมาแล้วขยำทิ้ง
“หึ!” วอร์แค่นหัวเราะในลำคออย่างขำขันกับสิ่งที่หญิงสาวทำ ไม่เคยมีผู้หญิงคนไหนปฏิเสธเขาได้เย็นชาขนาดนี้ “น่าสนใจจริงๆ...” เรียวลิ้นหนาแตะลงที่ริมฝีปาก ดวงตาคมกริบจ้องร่างเล็กกระทั่งเธอลุกเดินออกไปที่อื่น
02:30
วัยรุ่นจับกลุ่มเสพยาในตรอกแคบแหล่งมั่วสุมข้างไนต์คลับ
“…” วีนัสหยุดชะงักที่จะเดินต่อเมื่อตกเป็นเป้าสายตาของวัยรุ่นที่กำลังเสพของมึนเมาและสิ่งผิดกฎหมาย
“อา…มีของเล่นใหม่แล้วพวกเรา” ผู้ชายร่างผอมบางอายุราว ๆ ยี่สิบปีพูดขึ้นด้วยท่าทางหวานปากที่เห็นผู้หญิงเดินเข้ามาในตรอกแคบนี้คนเดียว น้อยนักที่จะมีคนดีๆ หลงเข้ามาในนี้
“มาแจมกับเราไหมคนสวย”
“…” วีนัสมองสิ่งที่ชายหนุ่มยื่นมาให้ในระยะหนึ่งช่วงแขน เธอตวัดสายตามองใบหน้าอีกฝ่ายด้วยสีหน้าเรียบนิ่ง ในแววตาไม่แสดงออกถึงความตื่นกลัวมีแต่ความเย็นชา
“เฮ้ย! เป็นสายตำรวจหรือเปล่าวะ!” ผู้ชายในกลุ่มเดียวกันตะโกนถามวีนัส สิ้นเสียงเขาทุกคนในกลุ่มราว ๆ สิบกว่าคนก็ลุกขึ้นเดินเข้ามาหาวีนัส ล้อมตัวเธอไว้
พรึบ!
ปลายกระบอกปืนสีดำทมิฬเล็งไปที่ศีรษะเด็กวัยรุ่นคนหนึ่งในกลุ่ม ก่อนเจ้าของปืนกระบอกนั้นจะปรากฏตัว
“ปืนกระบอกนี้มันไม่รู้หรอกนะว่าใครเป็นเจ้าของ ไม่รู้ด้วยว่าควรลั่นไกคร่าชีวิตใคร” คำพูดข่มขวัญทำเอาอีกฝ่ายถอยห่างคนละก้าว “เศษสวะอย่างพวกแกฉันสามารถทำให้หายไปโดยไร้ร่องรอยได้นะ อยากลองไหม” น้ำเสียงทุ้มนิ่งกับปลายกระบอกปืนที่ไล่เล็งศีรษะวัยรุ่นกลุ่มนี้จนครบคนทำเอาพวกเขารู้สึกหวาดหวั่นเป็นอย่างมาก
“ไปโว๊ย!” ทุกคนต่างวิ่งหนีเอาตัวรอด บ้างก็ล้มลุกคลุกคลานหนีด้วยความกลัวว่าจะถูกยิงตาย
“หึ…ก็แค่ปืนไฟแช็กไว้จุดบุหรี่” ประโยคแรกที่เขาเอ่ยหลังจากสถานการณ์กลับมาปกติ วีนัสละสายตาจากมุมมืดที่กลุ่มวัยรุ่นวิ่งหนีหายไปแล้วดึงสายตากลับมาจ้องปืนในมือชายหนุ่มก่อนที่เธอจะแย่งมันมาแล้วกดลั่นไกปืน
ปัง!
“หึ” มุมปากเธอกดยิ้มลึกอย่างผิวเผินแล้วส่งปืนให้ชายหนุ่ม “ระวังมันลั่นใส่ตัวเองนะ” น้ำเสียงทุ้มต่ำของหญิงสาวเอ่ยบอกคนที่ยังทำหน้านิ่ง มีวูบหนึ่งที่นัยน์ตาเขาแสดงออกว่าตกใจกับการกระทำเธอเมื่อสักครู่นี้
“หึ ฉันเป็นเจ้าของมัน ไม่โง่ทำลั่นใส่ตัวเองหรอก”
“เหมือนคุณเพิ่งบอกไปว่าปืนมันไม่รู้จักเจ้าของ” พูดจบประโยคนั้นก็เดินออกมาจากแหล่งมั่วสุม วีนัสกลับเข้าไปในไนต์คลับอีกครั้งพร้อมกับสั่งคอกเทลรสเชอรีสีแดงมาจิบ กลิ่นดินปืนติดเสื้อเธอมาได้กลิ่นของมันจาง ๆ เมื่อยามขยับตัว
“วิสกี้แก้วหนึ่ง”
“ขอบคุณที่ช่วย”
“ไม่เป็นไร” วอร์ปฏิเสธ
“ไม่ต้องคิดเงินกับเขานะคะ เดี๋ยวฉันจ่ายทั้งหมดเอง” เธอบอกบาร์เทนเดอร์หนุ่มที่กำลังลังเลใจว่าจะเก็บเงินที่คนไหนดี พอได้ฟังหญิงสาวย้ำชัดแล้วจึงรีบรินเหล้าให้วอร์
“เธอเป็นผู้หญิงคนแรกเลยนะ ที่เลี้ยงเหล้าฉัน”
“…”
“มองแบบนี้แสดงว่าไม่เชื่อ”
“เปล่า แค่กำลังคิดว่าผู้ชายแบบคุณใช้วิธีนี้เข้าหาผู้หญิงทุกคนเลยหรือเปล่า”
“หึ” วอร์แค่นหัวเราะในลำคอ ขณะที่นั่งหันหลังพิงบาร์อยู่ “ผู้หญิงแต่ละคนนิสัยไม่เหมือนกัน ต้องดูว่าน่าเข้าหาเฉย ๆ หรือน่าพาไปเปิดห้อง” ความปรารถนาฉายชัดในดวงตาคมกริบที่ไล้มองเธอจรดปลายเท้า
“ฉันคงเป็นผู้หญิงที่คุณเข้าหาเพื่อพาไปเปิดห้องสินะ”
“ทำไมคุ้นหน้าจัง” วอร์พึมพำพลางนึกว่าเคยเจอเธอที่ไหนหรือเปล่า แต่ถึงอย่างนั้นก็นึกไม่ออก “การเปิดห้องไม่ได้แปลว่าต้องมีเซ็กซ์กันเสมอไป”
วีนัสยอมมุนเก้าอี้มามองสบตากับเจ้าของรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ซึ่งหน้า
“ไปดื่มที่ห้องด้วยกันไหม จะได้รู้ว่ามีอะไรน่าดูมากกว่าการเปิดห้องเอากัน” คำพูดตรงไปตรงมาเรียกความสนใจจากวีนัส เธอยกมุมปากคล้ายว่าจะยิ้มขณะที่แววตาเรียบนิ่ง
“...ไปก็ได้ค่ะ” นัยน์ตาสีน้ำตาลเข้มจดจ้องใบหน้าวอร์
วอร์ค่อนข้างแปลกใจนิดหน่อยที่เธอยอมไปง่าย ๆ โดยไม่มีข้อกังขา เพราะก่อนหน้านี้เธอดูแข็งกร้าวและเย็นชาจนเขาเลิกสนใจไปแล้ว
“ก่อนอื่นเราควรรู้จักชื่อกันก่อน"
“วีนัสค่ะ” หญิงสาวเอ่ยบอกทันที
“ฉัน...วอร์"
“วอร์...ที่แปลว่าสงครามน่ะเหรอ”
“หึหึ...ใช่ แปลว่าสงคราม”
“…”