EP.6 ตัดสินใจ
(มีภาพประกอบ)
"....." ฉันทำได้แค่อ้าปากค้างตัวแข็งเกร็งทำอะไรไม่ถูกเลย หลังจากที่รถของเราชนปะทะร่างของเธอ ตัวรถก็ยังคงเสียหลักพุ่งไถลลงข้างทาง และเกือบจะพุ่งชนเข้ากับเสาไฟตรงนั้น
แต่ยังโชคดีที่เท้าของพี่เวย์เหยียบเบรกเอาไว้ไม่ใช่คันเร่ง ทำให้รถของเราตกไหล่ทางและค้างอยู่แบบนั้น ไม่อย่างนั้นเราสองคนก็คงจะ...
"พี่เวย์! ฮือ ๆ พี่เวย์ ๆ " และเมื่อฉันหันไปมองข้าง ๆ ฉันก็ถึงกับร้องออกมาลั่นเลยเพราะว่าพี่ชายตัวเองก็บาดเจ็บไม่แพ้กันเลย
"อ่า...อื้อ...พี่ไม่เป็นไรแค่จุก..." พี่เวย์ที่เห็นว่าฉันกำลังตกใจสุดขีด ก็หันกลับมาบอกด้วยน้ำเสียงที่แหบแห้งแผ่วเบา ใบหน้าของพี่เวย์เต็มไปด้วยเลือดจากกระจกที่กระเด็นเข้ามา อกของเขากระแทกเข้ากับพวงมาลัยเต็มแรง แต่มือของคนเป็นพี่ยังคงกางแขนออกมากันไม่ให้ตัวของฉันได้รับบาดเจ็บอะไรมากมาย
"พี่เวย์...อื้อ..." ตัวของฉันสั่นไปหมดและทำอะไรไม่ถูกเลย
"ฟ่าง...ตั้งสตินะ...โทรเรียกรถพยาบาล โทร...เลย" พี่เวย์หายใจติด ๆ ขัด ๆ และแทบจะเปล่งเสียงพูดอะไรไม่ออก แล้วก็ทำได้แค่พยายามบอกให้ฉันมีสติ เพราะตอนนี้ฉันไม่มีสติเหลือแล้ว
"บอกให้เขารีบมาช่วยคนเจ็บ" พี่เวย์น้ำตาไหลออกมาพลางเงยหน้าขึ้นมองไปทางผู้หญิงคนนั้น ที่กระเด็นออกไปไกลมาก ๆ และตัวของเธอได้รับการกระแทกแรงมาก ๆ
แล้วคนเจ็บที่เขาพูดถึงก็ไม่ใช่ตัวเองแต่เป็นผู้หญิงคนนั้น
"ได้ ๆ แต่พี่เวย์อย่าหลับนะ...อย่าหลับนะ" ฉันร้องไห้ไปก็พยายามตั้งสติและทำตามที่พี่ชายบอก
ฉันสูดลมหายใจเข้าลึก ๆ ก่อนจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดเบอร์ 191 ก่อนเลย เมื่อเริ่มตั้งสติได้มากขึ้น ฉันรีบเปลี่ยนเกียร์รถให้กลับมาอยู่ที่ P ก่อนจะกดดับเครื่องยนต์ทันที
แต่ฉันก็ไม่ลืมที่จะเปิดประตูเดินลงจากรถไปดูคู่กรณีด้วยเช่นกัน
ขาของฉันมันเริ่มสั่น ๆ ในทุกย่างก้าวที่เดินตรงไปหาเธอ คราบเลือดลากเป็นทางยาวและใช่...ฉันเป็นคนหนึ่งที่กลัวเลือดมาก ๆ แต่นาทีนี้การช่วยเหลือเธอคือเรื่องที่สำคัญที่สุด
"คุณคะ คุณคะ" ฉันเอ่ยเรียกหญิงสาวคนนั้น พร้อมกับเดินอ้อมไปด้านหน้าของเธออย่างช้า ๆ ก่อนจะค่อย ๆ ย่อตัวลงและสัมผัสร่างกายของเธออย่างแผ่วเบา
"คุณคะ" ฉันยังคงเรียกเธอด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือและน้ำตาอาบสองข้างแก้ม
ดวงตาของเธอมองตรงมาที่ฉันแต่ไร้ซึ่งแววตา ร่างกายเย็นเฉียบและนิ่งไม่มีการเคลื่อนไหว
"ไม่นะ...ไม่" ฉันยกมือขึ้นปิดปากตัวเอง ก่อนจะลองใช้มือยื่นไปตรงหน้าของเธอเพื่อสัมผัสกับลมหายใจ
"คุณคะ...ตื่นเถอะนะ ๆ " ฉันร้องไห้ออกมาในทันที เพราะฉันสัมผัสถึงลมหายใจของเธอไม่ได้อีกแล้ว และร่างกายของเธอมีบาดแผลมากมาย แทบจะไม่มีสักหนึ่งเปอร์เซ็นต์เลยด้วยซ้ำที่เธอจะรอดได้ จากการกระแทกชนถึงสองครั้ง
"พี่เวย์...พี่เวย์เป็นหมอ" ฉันพยายามตั้งสติและเดินตรงกลับไปที่รถอีกครั้ง เพราะพี่ชายของฉันเป็นหมอ เขาอาจจะปั๊มหัวใจเธอกลับมาก็ได้
"พี่เวย์... เธอไม่หายใจแล้ว เธอตายแล้ว..." ฉันกำลังจะบอกเล่าให้เขาฟัง แต่พอเดินกลับไปถึงรถพี่เวย์ก็นอนฟุบไปกับพวงมาลัยแล้ว
"พี่เวย์ ๆ ๆ ไม่นะ ๆ " ฉันพยายามเรียกให้เขาตื่น โชคดีที่พี่เวย์ยังคงหายใจอยู่ เหมือนเขาจะแค่สลบไป ตำรวจโทรกลับมาที่เครื่องของฉันอีกครั้ง และในเวลาเดียวกันนั้นเอง
โทรศัพท์ของพี่เวย์ก็ดังขึ้นเช่นกัน ตื๊ด ตื๊ด ๆ ๆ ภาพหน้าจอโทรศัพท์แสดงรูปครอบครัวของพี่เวย์ ที่มีพี่ทับทิม เวลา และวายุหลาน ๆ ของฉัน
(วี้หว่อ ๆ ๆ) เสียงจากรถกู้ภัยและแสงไฟกะพริบ ๆ สีแดงวูบวาบ ๆ ส่องสว่างจ้าท่ามกลางความมืดมิด
"ฟืด" ฉันสูดลมหายใจเข้าลึก ๆ อีกครั้ง ภาพเหตุการณ์ในวัยเด็กของฉันฉายย้อนเข้ามาในวันที่พี่เวย์ไปรับฉันที่โรงเรียน พี่เวย์ป้อนข้าวฉัน พี่เวย์ดูแลฉันมาตั้งแต่ฉันเจ็ดขวบ...
ตื๊ด ตื๊ด ตื๊ด... เสียงโทรศัพท์ของพี่เวย์ยังคงสั่นอยู่แบบนั้น เด็ก ๆ หอมแก้มพ่อของเขา มือของพี่เวย์ที่โอบกอดครอบครัวของเขาไว้แน่น
"…ฟ่างรักพี่เวย์นะ" ฉันบอกกับเขา ก่อนจะไม่รู้เลยว่าตัวเองไปเอาพละกำลังมาจากไหน ทำให้ฉันสามารถดันตัวของพี่เวย์ให้ย้ายไปนั่งอีกฝั่งได้ ก่อนที่ตัวเองจะขึ้นมานั่งจับพวงมาลัยรถแทนที่ของเขา
‘และนี่คือการตัดสินใจครั้งใหญ่ที่สุดในชีวิตของฉัน’
มือเล็ก ๆ กำพวงมาลัยรถแน่น จนวินาทีที่ไฟฉายของตำรวจส่องตรงมาที่ใบหน้าของฉัน
"เธอคือคนขับรถใช่ไหม" เสียงของตำรวจเอ่ยถามขึ้นดังลั่น
"....." ฉันกัดฟันแน่นพร้อมกับพยักหน้าตอบรับไปทั้งน้ำตา