EP.6 ความเข้าใจผิด
บอดีการ์ดหน้าตาเข้มเดินนำหญิงสาวมาส่งที่ห้องพักโรงแรมชั้นสูง พอยิ่งห่างไกลห้องจัดเลี้ยงมาเท่าไร เธอก็ยิ่งกังวล
“เอ่อ เดี๋ยวจะมีใครขึ้นมาบ้างคะ”
“ท่านจรูญคนเดียว”
“อ่อ แล้วมาทำอะไรคะ ดิฉันจะได้เตรียมตัวถูก”
บอดีการ์ดมองหน้า แต่ไม่ตอบอะไร เขาเปิดประตูให้เธอเข้าไป
วีรินทร์ลังเล จะเดินกลับ แต่ก็กลัวทำเสียเรื่อง กลัวโดนจับได้ว่าเธอไม่ใช่ล่ามมืออาชีพ ไม่ใช่ผู้ช่วยที่จบการศึกษาแล้ว แล้วต้องทำอย่างไรต่อไปดี
“อีกกี่นาทีท่านจะมาคะ”
“น่าจะราว ๆ 15 นาทีหลังงานเลิก”
“หลังงานเลิก อ่อ มีเวลา ได้ค่ะ ขอบคุณค่ะ'
-Room 666-
ร่างเล็กเดินเข้าไปในห้องพักของโรงแรม...หัวใจเต้นแรงอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ในสมองตอนนี้มีคำเดียว
ซวยแล้ว!
ซวยแล้ว!
ซวยแล้ว!
-----
สมุทร เจ้าของคลับดัง และผู้นำตระกูล ตริมาพฤกษ์ รุ่นที่ 3 ครอบครัวของเขาเป็นผู้นำธุรกิจเครื่องดื่ม ที่ไม่ใช่แค่น้ำดื่ม แต่หมายรวมถึงแอลกอฮอล์หลายประเภท แต่สิ่งที่เขากำลังสนใจคือเครื่องดื่มนำเข้าและรวมไปถึงเบียร์คราฟที่ผู้คนเริ่มหันมาทำกันเอง
เขากำลังยืนคุยกับนักธุรกิจกลุ่มใหญ่ ก่อนที่จะมีพวกคนน่าเบื่อโผล่เข้ามาคุยทำให้เสียบรรยากาศ นักธุรกิจใหญ่จึงปลีกตัวแยกออกมาทำทีคุยโทรศัพท์ยุ่ง
ระเบียงรับลมด้านนอกห้องจัดเลี้ยง
เขานึกถึงเด็กสาวที่เพิ่งเจอวันนี้ เพราะท่าทีที่ดูสนใจแต่งานที่ทำหรือเปล่า ทำให้เธอดูแตกต่างจากผู้หญิงที่เขาเคยเจอ มันเลยวนเวียนอยู่ในความคิดตลอด
นึกถึงเสื้อผ้าที่เธอใส่ รูปร่างนั้นทั้งที่มีของดีกับตัว แต่กับเป็นคนบุคลิกดูแข็ง ๆ พอคิดไปคิดมาก็มีหลายอย่างขัดแย้งกันในตัว
เขานึกถึงคำพูดของเธอหลายอย่าง ก็เผลอยิ้มออกมา “เป็นเด็กที่แปลกจริง ๆ”
“เหมือนพวกงาน global summit เหรอคะ”
สมุทรหยิบมือถือขึ้นมา กดเข้าเว็บเบราว์เซอร์ดัง
พิมพ์ ‘global summit’
ร่างสูงถึงกับตกใจ...
เขารีบประมวลความคิดทันที
แต่คำพูดและการกระทำทุกอย่างมัน...
หรือเขาจะเข้าใจผิด....ไม่น่านะ มันค่อนข้างชัดเจน
หรือเด็กนั่นเข้าใจผิด....ก็ไม่น่านะ....
ในขณะที่สมองกำลังทำงานอย่างหนัก...พอนึกถึงแว่นตาที่เธอใส่ เอกสาร....
เขากดโทรหาคนที่ร้านทันที
“เฮ้ย เรื่องกระเป๋าของเด็กที่ให้ไปเอา ในนั้นมีอะไร”
[ไปเอาแล้ว ลูกค้าบอกว่า เพื่อนเอาไปแล้ว ให้ไปรับเอง]
“อะไรนะ! ไม่ได้มา โต๊ะนั่น แขกที่ไหน”
[VIP ลูกเจ้าของร้านเพชรที่ภูเก็ตครับ กับเพื่อน ๆ เป็นนักศึกษานะ มีบางคนแต่งชุดนักศึกษามาด้วย แต่สวมแจ็กเกตทับไว้ครับ]
“นักศึกษามหาลัยเหรอ ดูกล้องวงจรปิดดิ๊ ช่วงที่เด็กกลุ่มนั้นเข้ามา ส่งมาให้หมด”
เพียงไม่นานทางร้านก็ส่งคลิปที่โต๊ะมาให้
เขากดให้มันเล่นไวขึ้นเพื่อไปถึงช่วงที่เขาเห็น
เจ้าเด็กผู้ชายหยิบแว่นของเด็กโจไป แล้วก็โยนเล่น โจก้มลงไป ล้วงมือเข้าใต้โซฟา แล้วเจ้านั่นทำท่าเหมือนโดนใช้ปากอยู่ เพื่อน ๆ ก็เฮฮา
“เชี่ย!”
บอดีการ์ดร่างสูงใหญ่ เดินมารายงาน หลังจากตามหาเจ้านายอยู่พักหนึ่ง
“นายครับ ส.ส.ให้คนพาโจขึ้นไปรอที่ห้องแล้ว”
“มึงไปกับกู! โทรหาพีระ ให้มันถ่วงเวลาส.ส.ไว้ก่อน ฉิบหายแล้วมึง นั่นเด็กจริง ๆ”
“เด็กจริง ๆ คืออะไรครับ”
“ช่างเถอะ ทำตามที่กูบอกก่อน ห้องเดิมปะ”
“ใช่ครับ”
นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ ส.ส. เรียกผู้หญิงมารอเขาที่โรงแรมจัดงาน แต่จะมีเป็นประจำ โดยครั้งนี้สมุทรติดต่อทางผู้ที่จัดหาเด็กสาวให้ประจำนั้น ว่าเขาจะเป็นคนส่งเด็กมาเอง ส.ส.จรูญ ผู้ไม่รู้ว่าคนที่ถูกส่งมานั้น ถูกเปลี่ยนไส้ในตามช่วงเวลาที่สมุทรต้องการอะไรบางอย่างเสมอ
-----
-Room 666-
ก๊อก ก๊อก ก๊อก
ก๊อก ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ
วีรินทร์รีบวิ่งมาเปิดประตูด้วยเท้าเปล่า ส้นสูงถูกถอดวางไว้ใกล้ ๆ ประตู
หัวใจเต้นแรง เพราะไม่รู้ใครมา ภาวนาของให้เป็นคุณสมุทรหรือคนของเขามารับเธอ มาบอกว่างานเสร็จแล้วให้กลับบ้านได้ ตอนนี้เธอกลัวสุด ๆ สถานการณ์แบบนี้ 90 เปอร์เซ็นต์ต้องไม่ใช่เรื่องดีแน่นอน
“นาย!!!”
ปัง!
เมธัสที่โผล่เข้ามา เขาปิดประตูแรงจนร่างบางตกใจ
“เธอทำบ้าอะไรยัยแอปเปิล!”
ร่างสูงที่มีแววโมโหดูน่ากลัว เขาผลักไหล่หญิงสาวจนถอยกรูด เสียงดังที่ตะคอกใส่ทำเอาเธอผวา
“ฉะ...ฉัน...ทำงานอยู่ นะ...นาย...มาทำไร”
“ทำงานอะไร เธอทำแบบนี้เหรอ”
“ฉะ...ฉัน...เป็นคนรับรองแขกในงานนี้...รับรองพ่อนะ...นาย”
“ทำจริงสินะ ไม่คิดเลยว่าจะทำแบบนี้
ถ้าอยากได้เงินมากนักก็บอกฉันได้นะ”
“หมายความว่าอะไร”
“อย่ามาทำเป็นถาม” เขาถอดสูทที่ใส่ออกปาทิ้งกับพื้น เนกไทที่คอกำลังถูกกระชากอย่างโมโห
วีรินทร์เดินถอยหลังวนทั่วห้อง
สายตามองหาของที่จะช่วยให้เธอผ่านสถานการณ์นี้ไปได้
ร่างบางเริ่มตัวสั่น
การที่เมธัสพูดแบบนี้ เธอคิดว่าคงเข้าใจไม่ผิดแล้วล่ะ
หญิงสาวยกชายกระโปรงขึ้นเพื่อเตรียมตัวให้เคลื่อนที่ได้สะดวก
เธอนับในใจ จังหวะที่อีกฝ่ายพยายามปลดกระดุมเสื้อและเดินเข้ามาหาอย่างน่ากลัว
1...2...3....
ร่างบางวิ่งไม่คิดชีวิต
เธอวิ่งขึ้นเตียง กระโดดลงอีกฝั่ง แล้วรีบหนีไปที่ประตูทันที
เท้าเล็กก้าวเกือบจะพ้นโซนโซฟารับรอง แต่เท้าสะดุดส้นสูงของตัวเองที่ถอดวางไว้จน...
หมับ!!
เมธัสคว้าเธอไว้ได้ทันก่อนจะล้มลงไป
“จะหนีทำไม!”
“ปล่อยฉันนะ!”
“ทำไม ชอบนักการเมืองมากกว่า ลูกนักการเมืองเหรอ
ถ้าเธอชอบเงิน เธอก็ควรชอบฉันสิ
พ่อมีแค่เงินพ่อ แต่ฉันมีเงินของปู่ย่าตายายของพ่อของแม่ มากกว่าทุกคนแน่นอน”
เขากอดเธอแน่น อุ้มยกให้กลับมาในห้อง แต่ร่างบางก็ดิ้นสุดชีวิตเหมือนกัน เธอทั้งถีบ ทั้งร้อง และพยายามสู้ แต่เพราะโดนรัดไว้ด้วยอ้อมกอดใหญ่จึงทำอะไรอีกฝ่ายไม่ได้เลย
ชายหนุ่มโยนเธอลงกับเตียงแล้วขึ้นคร่อม ข้อมือเล็กทั้งสองข้างถูกตรึงติดฟูก เสียงร้องขอความช่วยเหลือดังลั่น แต่ไม่อาจออกไปนอกห้องแห่งนี้ได้ น้ำตาไหลอาบใบหน้าเล็ก แว่นเธอเคลื่อนไปจากสันจมูก หลุดเบี้ยวลงไปหาที่นอน
“ร้องทำไม แทนที่จะเอากับพ่อ มาเอากับฉันดีกว่า”
“ปล่อยฉันเมธัส ปล่อย นายเข้าใจผิดแล้ว ปล่อย!!!”
เมธัสที่คุยกับพ่อจนรู้ว่า โจ มาทำอะไร เขาจึงรีบแอบหนีออกมาจากงานทันที วิธีเดียวที่จะปกป้องให้วีรินทร์รอดจากการตกเป็นเหยื่อทางเพศของพ่อ คือการที่เธอต้องเป็นผู้หญิงของเขา
บนโลกนี้ไม่มีใครหยุดหรือยับยั้งความต้องการพ่อได้ทั้งนั้น
แต่คนเดียวที่พ่อยอมเสมอ ก็คือ เขา
เมธัส ลูกชายคนเดียวของท่าน ส.ส.จรูญ
เขาตามหาจนรู้ว่าเธออยู่ที่นี่...
แอปเปิล ฉายาที่เขาตั้งให้เธอ โดยเฉพาะ
โดยที่ไม่มีใครรู้ความหมาย
ยกเว้น เพียงเขา...
“ยัยแอปเปิล ถ้าคืนนี้เธอต้องเลือกระหว่างเป็นของพ่อหรือเป็นของลูก เธอจะเลือกใคร”
เขาค่อย ๆ ปลดสายชุดราตรีลงจากไหล่ที่สั่นเทา สองมือเล็กถูกรวบไว้ที่เหนือหัวตรึงติดกับฟูกเตียง
มือใหญ่เลื่อนลงมาลูบเรียวขาผ่านชุดที่ผ่าหน้าสูงเสียจนหวาดเสียว
แอปเปิลสีแดงที่หอมหวานน่ากิน ดูล่อลวงให้มนุษย์ผู้ชายอย่างเขาอยากลิ้มลอง เหมือนแอปเปิลที่งูร้ายหยิบยื่นให้อดัมกับอีฟได้ลิ้มลองในสวนเอเดน
นี่แหละ เหตุผลที่เขาเรียกเธอว่า แอปเปิล และคนอื่นที่เรียกตามนั้น ต่างก็แต่งแต้มเรื่องราวที่มาของฉายาเธอกันเอง
“ปล่อยฉัน ปล่อยยย!!!!”
สองมือที่ดิ้นให้หลุดไม่ได้ เธอส่ายหน้าหนีไปมา
สายตาตอนนี้คงมองอะไรไม่เห็นเหมือนเคย ขนาดมาทำงานแบบนี้ยังไม่วายจะใส่แว่นมาอีก
“โจ เหรอ เธอใช้ชื่อแบบนี้เหรอ หึ...แต่จะแบบไหนก็น่ากินอยู่ดี”
เขาโน้มใบหน้าลง แล้วแลบลิ้นเลียปาก ลงมาที่ต้นคอของหญิงสาว ราวกับอยากชิมความหวานนี้
“กรี๊ดดดดดดด!!!!!!”
ปัง!!
ปัง!!
ปัง!!
พลั่ก!!!!
ประตูถูกกระแทกแรง 3 ครั้ง จนหลุดกระเด็น ชายร่างใหญ่สามคนโผล่เข้ามาด้วยท่าทางพร้อมสังหาร
เมธัสที่ตอนนี้ไม่รู้จะตกใจอะไรก่อนกัน
“แอปเปิล ๆ ๆ ๆ”
วีรินทร์กรี๊ดจนสลบไป
เขาหันไปหาคนที่เข้ามาก่อกวน
“ขอโทษทีนะ นี่เด็กผม พอดีมาผิดงานไปหน่อย” ร่างสูงใบหน้าเหี้ยมเกรียม ไร้อารมณ์พูดเล่น เขาสั่งให้อีกคนอุ้มเด็กสาวไป ส่วนตัวเขาเดินไปหยิบแว่นที่เตียง ก่อนจะกระชากคอเสื้อเด็กหนุ่ม
สองมือหนาจับสาบเสื้อเชิ้ต ทำท่ากระชับให้ปิดตัวให้มิดชิด ก่อนกัดฟันพูด
“ถ้าครั้งหน้า ผู้หญิงเขาร้องขนาดนั้น ก็ควรหยุดนะคุณชาย”
พลั่ก!
แล้วสมุทรก็ตบหน้าเมธัสเหมือนจะเบา ๆ แต่ก็ทำเหงื่อตกเพราะความตกใจกับท่าง้างมือ
แว่นตา รองเท้า กระเป๋า ทุกอย่างถูกเก็บไปครบ
และข้อความที่เจ้าของร้านส่งไปหา ส.ส.จรูญ
คือ ผิดเงื่อนไข...
แน่นอนว่าหลังจากนั้นเมธัสถูกพ่อซักฟอกมากมาย พร้อมทั้งโดนคุมความประพฤติ เพราะในฐานะคนมีหน้ามีตาในสังคม พ่อออฟเด็กได้ แต่ลูกไม่ควรทำ
นี่คือ สิ่งที่ส.ส.จรูญสอนลูกชายตนเอง
อำนาจ ทำให้มีแสงและเงา
คนมีอำนาจจะทำอะไรก็ได้
ทำดีก็อยู่ในแสง ทำชั่วก็เอาไว้ในเงา
ส่วนลูกนั้นยังไม่มีอำนาจ ห้ามทำอะไรที่ไม่ดี
เมธัสที่ถูกพากลับบ้านอย่างไม่สบายตัวนัก แต่เขาก็สบายใจอย่างหนึ่งว่าเธอไม่ตกเป็นของพ่อ แต่ที่ยังกังวลคือ พวกที่มาช่วยเธอไปนั้นคือใคร เป็นคนดีหรือคนเลว