เจ้าอยากให้ข้าพูดซ้ำอีกครั้งรึไม่
“อากาศเริ่มเย็นแล้ว ทำไมเจ้าถึงได้สวมชุดบางเฉียบเช่นนี้ ประเดี๋ยวก็ไม่สบายเอาหรอก” ว่าพลางนำเสื้อคลุมของตัวเองมาห่มให้นาง
“ท่านคงไม่รู้ว่าซูลี่ร่างกายแข็งแรง อากาศแค่นี้ทำอันใดข้าไม่ได้หรอกเจ้าค่ะ” ขณะเอ่ยตอบอยู่นั้น หางตาของนางได้เหลือบไปเห็นว่าใครกำลังมองมาที่ตนกับท่านโหวถึงได้ยกยิ้มเย้ยหยันให้
“ร่างกายของเจ้าบอบบางยิ่งนัก ถึงอย่างไรก็ไม่ควรประมาท”
"นั่นฮูหยินไม่ใช่หรือเจ้าคะ"
“นางมาทำไม” น้ำเสียงทุ้มนุ่มเมื่อครู่ได้แปรเปลี่ยนเป็นฉุนสะบัดหลังจากได้ยินว่าใครมาหา ก่อนหันหน้ามาที่หญิงสาวอย่างไม่ค่อยสบอารมณ์
ทุกคำสนทนาของทั้งคู่ดังเข้าหูของเจียหรงทุกประโยค ทำให้เดิมทีจะเดินหันหลังกลับไปตามทางเดิมแต่ต้องหันมาเผชิญหน้าคนทั่งคู่อย่างเลี่ยงไม่ได้ รู้ตัวอีกทีนางได้เดินมาถึงที่หมายเป็นที่เรียบร้อย
“อนุจ้าวก็อยู่ที่นี่ด้วยหรือ”
“ทำไมฮูหยินถึงได้ถามข้าแบบนี้ล่ะเจ้าคะ ท่านก็เห็นแล้วมิใช่หรือว่าข้าก็อยู่ที่นี่ด้วย” จ้าวซูลี่เอ่ยด้วยน้ำเสียงไม่ค่อยพึงใจนัก เมื่อได้ยินคำทักทายอันโง่งมของสตรีตรงหน้า นี่นางตาบอดหรืออย่างไรถึงได้พูดอะไรสิ้นคิดแบบนี้ออกมา
“เจ้ามาที่นี่ทำไมงั้นรึ” เสียงของร่างสูงแทรกขึ้น
“ข้าอยากตัดชุดใหม่ให้ท่านโหวถึงได้มาที่นี่เพื่อมาเอาชุดของท่านกลับไปเป็นตัวอย่างเจ้าค่ะ”
“ทำไมเจ้าไม่ให้คนมาวัดตัวข้าเล่า เหตุใดถึงได้ทำเรื่องยุ่งยากแบบนี้” ไม่วายเอ่ยตำหนิ
“ข้าได้ยินว่าท่านยุ่งมากเลยไม่อยากรบกวน”
“ถ้าอย่างนั้นข้าจะให้เสี่ยวลู่นำชุดของข้าไปให้เจ้าที่เรือน คราวหลังไม่ต้องลำบากมาด้วยตัวเอง”
“ยืนอยู่ทำไมล่ะเจ้าคะ เสร็จธุระของท่านแล้วมิใช่หรือ” อนุจ้าวพูดขึ้น ยามเห็นว่าคนตรงหน้ายังยืนนิ่งอยู่ที่เดิม
“ข้ายังมีอีกเรื่องที่ต้องบอกท่านเจ้าค่ะ”
“เรื่องอะไร”
“ในโกดังมีแต่ผ้าสีสันฉูดฉาด ข้าเลยคิดจะออกไปซื้อผ้าจากร้านค้าด้านนอก หากท่านโหวไม่ว่าอะไร” ยังไม่ทันที่นางได้เอ่ยจนจบประโยค จ้าวซูลี่ได้พูดกลางบทสนาด้วยน้ำเสียงไม่พอใจว่า
“นี่ฮูหยินจะกล่าวหาว่าข้ากลั่นแกล้งท่านอย่างนั้นหรือ”
“อนุจ้าว ข้ายังไม่ทันได้กล่าวถึงเจ้าแม้สักประโยคเดียว เจ้าไม่จำเป็นต้องร้อนตัว”
ก่อนที่เรื่องราวจะบานปลายไปมากกว่านี้หยางเฟยหลงจะได้แทรกขึ้นจนทำให้ทั้งคู่เงียบปากลง
“ตามใจเจ้าเถิด”
“ถ้าฮูหยินอยากซื้อผ้าพับใหม่ก็ย่อมได้ เพียงแต่ท่านต้องใช้เงินของตัวเองเพราะเงินส่วนนี้ข้าได้สั่งให้พ่อบ้านไฉซื้อผ้าผืนที่ท่านไม่ชอบจนหมดแล้ว”
ทันทีที่ได้ยินคำพูดของนาง เจียหรงขมวดคิ้วเข้าหากันแน่นอย่างไม่ค่อยสบอารมณ์ สตรีผู้นี้เป็นเพียงอนุภรรยาแต่กลับสามารถสั่งการให้พ่อบ้านไฉให้ทำตามคำสั่งของตัวเองโดยที่ฮูหยินอย่างนางไม่รู้เรื่องได้เช่นไร นอกเสียจากจะมีคนยกหางนางอยู่เบื้องหลัง
“เรื่องนี้ต้องโทษข้าที่ไม่ได้บอกเจ้าก่อน เรื่องซื้อของเข้าจวนข้าได้ยกให้เป็นหน้าที่ของอนุจ้าวแล้ว”
“อย่างนั้นหรือเจ้าคะ ข้าขอถามท่านโหวเรื่องหนึ่งได้รึไม่”
“เจ้าอยากถามอะไรก็ว่ามาได้เลย”
“ในสายตาของท่าน ท่านเคยเห็นข้าเป็นฮูหยินหรือไม่ แค่สักครั้ง...”
“วันนั้นเจ้าก็ได้ยินสิ่งที่ข้าพูดไปจนหมดแล้วไม่ใช่หรืออย่างไร หรือว่ายังอยากให้ข้าพูดซ้ำอีกรอบ”
ด้วยคำพูดนี้ของเขาทำให้นางปิดปากเงียบลงเพราะไม่อาจทนฟังคำตอบนั้นจากเขาได้ นางผิดหรือที่หวังว่าบุรุษที่ตนรักจะกลับไปเป็นเหมือนวันวาน กลับไปเป็นพี่เฟยหลงคนเดิมที่คอยห่วงใยนางเฉกเช่นอดีต ทว่าพอมองเข้าไปในแววตาของเขากลับพบเพียงความเฉยชา
"ว่ายังไงล่ะ เจ้าอยากให้ข้าพูดซ้ำอีกครั้งรึไม่" เขาถามด้วยน้ำเสียงเยือกเย็น
