บท
ตั้งค่า

EP 3

ปานรีบเอ่ยในเรื่องที่ตัวเองอยากจะพูดมาตั้งแต่แล้วทันที แต่คนลูกไม่ค่อยอยากจะฟังสักเท่าไหร่ และไม่อยากจะให้แม่พาตัวไปข้องเกี่ยวหรือไปสืบเสาะหาข่าวของอีกบ้านเลยสักนิด

เพราะรังจะทำให้แม่ไม่สบายใจเอามากๆ หรือเก็บมาคิดเวลาได้ยินเรื่องที่ไม่ดีก็เท่านั้น

“เหรอคะ”

จึงเอ่ยกับแม่แค่นี้ แม้ในใจจะรู้ดีมานานแล้วเพราะได้ยินแม่กับกอบคุยกันออกบ่อย

“ใช่สิ! แล้วเหตุผลที่เจ้าหล่อนบอกพ่อหนุ่มนั่นน่ะนะยังกับนางเอกละครเชียวล่ะ ‘เอเลือกตรงที่ว่าเอจะเข้ากับใครได้มากที่สุด เลือกว่าเออยู่กับใครแล้วสบายใจมากที่สุดเท่านั้น’ แหม! ทำยังกับแม่จะไม่รู้ว่าที่เจ้าหล่อนกับนังแม่มารนั่นเลือกอีกคนเพราะไม่อยากจะได้ผู้ชายที่มีพ่อเจ้าชู้มีเมียไปทั่วอย่างนั้นล่ะ”

“จริงเหรอคะคุณ กอบไม่เห็นได้ยินหรือรู้เลย คุณไปเอามาจากไหนคะ”

แม่บ้านร่างอวบมาดทอมที่กำลังหั่นเนื้อเป็นชิ้นใหญ่ๆ สำหรับทำบาร์บีคิวอยู่ถึงกับหยุดมือแล้วหันไปหาเจ้านายทันที เพราะข่าวนี้ตัวเองยังไม่ได้ยินจากที่ไหน และสงสัยว่าเจ้านายรู้ได้ยังไงกัน

“อุ๊ย! หล่อนอยู่แต่ในครัวจะไปรู้อะไรล่ะ คนเขาปิดกันให้แซด มีคนเดียวล่ะที่ไม่รู้หรืออาจจะโง่ก็แค่พ่อหนุ่มนั่นล่ะ ที่หูหนวกตาบอดอยู่ได้ ไม่รู้ว่าครอบครัวแฟนรังเกียจพ่อตัวเอง จนกลัวเลือดเจ้าชู้ไก่แจ้ มากชู้หลายเมียมาตั้งแต่ปู่ทวด จะกระเด็นมาหาเลยพลอยต้องอกหักดังเป๊าะนั่นล่ะ”

ปานเล่าอย่างออกรส มือก็หั่นผักไปอย่างคล่องแคล่ว

“เหตุผลแค่นี้เองเหรอคะคุณ ที่บ้านนั้นไม่รับรักคุณรูปหล่อคนนั้นน่ะ”

กอบทำหน้าไม่อยากจะเชื่อ

“ก็ใช่น่ะสิยะ ฉันล่ะเสียด๊ายเสียดาย ทำไมไม่มองมาหาลูกสาวคนสวยของฉันบ้าง ฉันจะรีบให้แต่งๆ ไปเลย หาได้ง่ายๆ ซะที่ไหนผู้ชายดีๆ หล่อๆ พ่อแม่รวยๆ ซะขนาดนั้น แต่ไม่เป็นไรหรอก ลูกสาวของฉันจะมีหนุ่มมาให้เลือกเพียบ ไม่เชื่อคอยดูสิ”

ปานยิ้มอย่างมีเลศนัย จนลูกสาวต้องหันมามอง แล้วจ้องเขม็งเป็นเชิงเตือนนิดๆ ว่าแม่พูดเกินไป

แต่พอถึงเวลางานเลี้ยงฉลองรับปริญญา แขกของแม่แต่ละคนก็ล้วนแล้วแต่หอบครอบครัวติดมาด้วยทั้งนั้น โดยเฉพาะบ้านไหนมีลูกชายก็ต่างห้อยติดมาด้วย ประหนึ่งแม่กำลังจัดซัมเมอร์เซลลูกสาวยังไงยังงั้น

“เราจะได้หลานเขยก็คืนนี้ล่ะวะ ดูลูกสาวยายสิ จัดสรรมาไว้ให้ยังกับยัยหนึ่งเป็นรจนายังไงยังงั้นเลย”

คุณตาเปล่ง คุ้มวงศ์ ใช้ศอกสะกิดคู่ชีวิตคือคุณยายวัน คุ้มวงศ์ ที่อยู่มาด้วยกันกว่าห้าสิบปี แถมมีปานเป็นทายาทหน่อเดียวเท่านั้น และเป็นหญิงอีกต่างหาก

หลานออกมาก็ยังได้ผู้หญิงอีก แม้ทั้งสองจะผิดหวังอยู่บ้าง แต่ก็ทำใจได้เพราะหลานสาวเป็นเด็กดีว่านอนสอนง่าย และง่ายยิ่งกว่าปานผู้แม่

สองตายายกำลังมองไปดู แล้วยิ้มออกมาด้วยอาการกึ่งขำกึ่งระอา ในท่าทีของลูก กำลังโอ้อวดสรรพคุณลูกสาวให้หนุ่มๆ รู้ ที่ตามพ่อแม่มาในงานทั้งเต็มใจและงุนงง ด้วยไม่เคยพบหน้าคร่าตาเจ้าของงานเลยก็มี

ปราณปริยาวดีอยากจะเดินหนีเสียตรงนั้น เพราะอายแกมเบื่อแม่เหลือกำลัง แต่ก็ทำได้แค่อยาก เพราะกลัวแม่จะเอ็ดเอา

“ฉันก็ว่างั้นล่ะนะตา ดูสินังปานนี่นับวันมันยิ่งจะมากขึ้นเรื่อยๆ นะ สงสัยมันกลัวจะแพ้ลูกสาวบ้านใหญ่ล่ะมั้ง เห็นว่าจะแต่งแล้วนี่ ได้ผัวร่ำรวยมีหน้ามีตาด้วย มันเลยรีบหาให้ยัยหนึ่งบ้าง ฉันล่ะไม่รู้จะทำยังไงกับความทะเยอทะยานของมันแล้วล่ะตา”

คุณยายวันกระซิบกระซาบกับสามีเบาๆ แต่กระนั้น ไวทิน บิดรพล ลูกเพื่อนบ้าน เป็นสารถีและเป็นอีกสารพัดตามแต่ความต้องการของสองตายายให้ก็ได้ยินชัดถ้อยชัดคำ

เพราะนั่งร่วมโต๊ะด้วยกันนั่นเอง เขาไม่กล้าแม้แต่จะคิด ว่าถ้าผู้หญิงที่เป็นรุ่นน้องสองปีและเป็นเสมือนเพื่อนเล่นด้วยกันมาตั้งแต่เด็ก จะโยนพวงมาลัยให้หนุ่มคนไหน

เพราะคงไม่มีเขารวมอยู่ในกลุ่มของหนุ่มๆ ที่จะคอยให้ลุ้นเป็นแน่

“พ่อไม่อยากให้แกเจ็บเหมือนพ่อนะทิน เผื่อใจไว้บ้างก็ได้ เขากับเราห่างกันหลายช่วงตัว และยิ่งปานไม่ชอบให้หนึ่งมองคนพื้นเพเดียวกันด้วยแล้ว แกยิ่งแทบจะไม่มีหวังเลยล่ะ”

เขาเริ่มจะเห็นด้วยกับพ่อก็คืนนี้เอง เพราะตั้งแต่มาถึงงาน ปานก็แค่ทักทายพอเป็นพิธี จากนั้นก็ไม่แม้แต่จะชายตาแลมองเขาเลยสักนิด หรือถ้ามองก็เป็นไปในแง่ดูถูกดูแคลน

พร้อมด้วยสายตาที่เขียนคำโตไว้ว่า ‘อย่าสะเออะ’ ให้รู้เนื้อรู้ตัว ให้ะพึงสังวรเอาไว้ด้วยว่าอย่าได้คิด

“จ้างให้หนึ่งก็ไม่มองหนุ่มๆ พวกนั้นหรอกจ้ะพ่อครูแม่ครู เพราะหนึ่งบอกดาว่าเนื้อคู่ยังไม่มาเกิด หรือไม่พี่เงาะก็ยังไม่มีใครไปตีฆ้องร้องป่าวเลยไม่ได้มางานนี้ด้วย จริงมั้ยพี่ทินว่าแต่ทำไมวันนี้ใส่เสื้อขาวมาทำไมล่ะ ดาอุตส่าห์ซื้อเสื้อแดงเก็บไว้ให้แล้วเชียว หรือต้องให้ไปร้อยพวงมาลัย...”

ดาริกา แดงเจริญ เพื่อนสาวคนสนิทของปราณปริยาวดี นั่งอยู่ข้างๆ ไวทินรีบคัดค้านขึ้นแบบตรงไปตรงมา ตามนิสัยใจคอ พูดโผงผางไม่อ้อมค้อมให้เสียเวลา

และใช้ศอกสะกิดไวทินแรงๆ เพราะรู้ดีว่าอะไรเป็นอะไร ชายหนุ่มผู้ไม่ใคร่จะพูด หรือพูดน้อย หรือหากจำเป็นต้องพูดก็มักจะเลือกพูดแบบอ้อมๆ ไม่ทำร้ายน้ำใจใครหากไม่เหลืออดจริงๆ

“ดากินผักโขมอบชีสนี่สิ น้าปานบอกว่าอร่อยที่สุด กินเยอะๆ นะจ๊ะน้องรัก ปากจะได้ไม่ว่าง”

อย่างเช่นตอนนี้ที่สาวข้างกายกำลังเล่นไม่รู้เรื่อง ไม่รู้จักเวล่ำเวลาและไม่รู้ว่าอยู่ต่อหน้าผู้ใหญ่ เขาเลยรีบชิงพูดขึ้นแล้วตักอาหารไปใส่จานดาริกาจนแทบจะไม่เหลือที่ว่าง

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel