ไฟล้อมน้ำ

242.0K · จบแล้ว
กันเกรา
166
บท
17.0K
ยอดวิว
7.0
การให้คะแนน

บทย่อ

ทุกสิ่งทุกอย่างที่เขาคาดหวังจะให้คนรัก ถูกหยิบยื่นให้ปราณปริยาวดี ซึ่งเป็นลูกเมียน้อยและเป็นผู้หญิงที่อดีตคนรักของเขาเกลียดชังมาก นั่นทำให้เขาสะใจที่ได้เห็นอดีตแฟนเต้นเป็นเจ้าเข้าด้วยความเสียดายที่สลัดคนอย่างเขาไป แต่สุดท้ายเขาก็รู้ว่าตัวเองทำพลาดที่ดึงเธอเข้ามาในชีวิต เพราะจากเดิมที่เขาเกลียดลูกเมียน้อยเข้าไส้ กลับกลายเป็นว่าเขาเผลอใจรักเธอเข้าเต็มๆ หากก็ยังปากหนักปากแข็งอยู่นั่นเอง ปรานปริยากรเองก็ไม่คิดจะมอบหัวใจให้เขาง่ายๆ ทั้งสองจะลงเอยกันด้วยดีได้หรือไม่ เพราะอะไร เพราะใคร และทำไม ‘ไฟล้อมน้ำ’ มีคำตอบรอให้ท่านค้นหาแล้ว

นิยายรักโรแมนติกนิยายรักดราม่าโรแมนติก

EP 1

ตอนเสียรักเสียรู้

“ขอโทษค่ะพี่หนึ่ง”

ปิยธิดา ศรีสวัสดิ์วัฒนา เอ่ยด้วยน้ำเสียงแผ่วเบาจนคนตรงหน้าแทบจะไม่ได้ยิน แต่ถึงจะเอ่ยดังกว่านี้สักสิบเท่าเขาก็คงจะไม่ได้ยินอยู่ดี เพราะตอนนี้หูกำลังอื้อ ตากำลังลาย

กับข่าวร้ายที่ไม่คาดคิดว่าจะได้ยินจากผู้หญิงที่เขาปักใจรัก ปากก็เหมือนจะพูดอะไรไม่ออก นอกจากนั่งนิ่งอึ้งอยู่แค่นั้น สาวสวยจึงตัดสินใจส่งประโยคปลอบขวัญเขาต่อ

“เอ...เอ่อ...เอไม่รู้ว่าจะทำให้พี่หนึ่งเสียใจ ขอโทษค่ะ ขอโทษจริงๆ เอไม่ได้ตั้งใจจะทำร้ายพี่หนึ่งเลยนะคะ แล้วก็ไม่รู้ว่าพี่หนึ่งจะรักเอมากมายขนาดนี้ ยกโทษให้เอด้วยนะคะขอให้เราจากกันด้วยดี และคงความเป็นพี่น้องแบบนี้ไว้ตลอดไปนะคะ สักวันพี่หนึ่งจะพบกับคนที่ดีกว่าเออย่างแน่นอนค่ะ”

พร้อมกับส่งสีหน้าเศร้าสร้อยไปหาชายตรงหน้าอย่างคนรู้สึกผิดและเสียใจในทางเลือกที่ตัวเองยึดถือเอาไว้ ซึ่งเป็นผลให้หนุ่มรูปหล่อพ่อแม่ร่ำรวยและเป็นที่หมายปองของสาวหลายต่อหลายคนต้องพานพบกับความเจ็บช้ำระกำทรวงเหลือคณานับ

“เอบอกพี่ได้มั้ยว่าเพราะอะไร เอถึงได้เลือกเขาแทนที่จะเป็นพี่ ไอ้เป้มีอะไรดีกว่าพี่เหรอ ทำไมเอถึงได้เลือกมัน บอกพี่ได้มั้ยเอ บอกพี่ได้มั้ย มีอะไรไม่ดีตรงไหน ถึงสู้มันไม่ได้”

พลาธิป พงษ์พันธุ์สถาพร เอ่ยด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา ขณะจ้องมองใบหน้าสวยสะดุดตาของผู้หญิงที่เขาหลงรักมาหลายปีดีดัก และวาดหวังว่าจะมีวันวิวาห์ด้วยกันในอีกไม่ช้าไม่นานนี้ ถ้าหากไม่ถูกมือดีชิงเธอตัดหน้าไปก่อน

“พี่หนึ่งกับพี่เป้ไม่มีใครด้อยไปกว่าใครหรอกค่ะ เอเลือกตรงที่ว่าเอจะเข้ากับใครได้มากที่สุด เลือกว่าเออยู่กับใครแล้วสบายใจมากที่สุดเท่านั้น”

ปิยธิดาพยายามยกเหตุผลร้อยแปดที่หาความจริงไม่ได้มาอ้าง เพื่อหวังให้เขาสบายใจขึ้นบ้าง

“แปลว่าเออยู่กับพี่แล้วลำบากใจอย่างนั้นเหรอ ทำไม! ทำไม! ทำไม!”

หนุ่มรักคุดใจเย็นฟังแฟนสาวอยู่ได้ไม่นาน ไฟรักไฟร้อนก็เริ่มแผดเผาอารมณ์ให้ระอุขึ้น จนต้องถามซ้ำๆ กันอยู่อย่างนั้นด้วยความไม่เข้าใจ

“ไม่ใช่อย่างนั้นค่ะพี่หนึ่ง เอไม่รู้จะอธิบายยังไงให้เข้าใจได้ค่ะ แต่อยากให้รู้ว่าเอเลือกและตัดสินใจแล้ว และก็จะไม่เปลี่ยนใจอีก พี่หนึ่งดีใจกับเราสองคน แสดงความยินดีกับเราสองคนเถอะนะคะ และเออยากจะให้พวกเรากลับมาเหมือนเดิม คบหาสมาคมกันเหมือนเดิมค่ะ นะคะพี่หนึ่ง อย่าโกรธเอกับพี่เป้เลยนะคะ ขอร้องล่ะค่ะ ได้โปรดหลีกทางให้เราสองคนได้แต่งงานกันเถอะนะคะ อย่าทำให้เราสองคนลำบากใจเลย แค่นี้เราสองก็รู้สึกผิดมากพออยู่แล้ว โดยเฉพาะพี่เป้ที่ห่วงพี่หนึ่งกว่าใครทั้งหมด นะคะพี่หนึ่งเอขอร้อง”

สาวสวยผู้กำลังสับสน ส่งน้ำเสียงอ้อนวอน สีหน้าบ่งบอกว่าเสียใจยิ่งกับสิ่งที่ทำให้ชายที่ตัวเองเกือบจะตัดสินใจเลือกมาเป็นคู่ชีวิตแล้ว หากไม่มีเหตุผลอื่น

และสำคัญยิ่งเข้ามาเกี่ยวข้อง เข้ามาเป็นข้อบ่งชี้ว่าคนที่ตัวเองอยากจะเลือกนั้น อาจจะสร้างความเจ็บช้ำใจให้ในอนาคตเป็นแน่

หนุ่มหัวใจเดาะจ้องมองดวงหน้าสวยใสในวัยสาวเต็มตัว ที่ตอนนี้มีหยาดน้ำตาไหลอาบลงมา ชนิดที่เขาเองก็ไม่เคยเห็นมาก่อน นับตั้งแต่คบหาดูใจกันมาหลายปี

และแม้จะยังไม่กระจ่างใจในเหตุผล และแม้จะยังไม่อยากจากไปยังไง แต่น้ำตาของผู้หญิงมักจะทำให้เขาต้องพ่ายแพ้และทนเห็นไม่ได้

“เอลงทุนขอพี่ขนาดนี้ ทำไมพี่จะให้ไม่ได้ล่ะ ถ้าเอมั่นใจว่ารักและจะแต่งงานกับไอ้เป้จริงๆ แล้วพี่จะกล้าขัดเอได้ยังไง พี่ก็แค่ไม่เข้าใจและมองไม่เห็นเหตุผล ว่าพี่แพ้มันตรงไหนเท่านั้น แต่ช่างเถอะในเมื่อเกมนี้พี่แพ้ พี่ก็ควรจะเป็นฝ่ายไป ขอให้โชคดีก็แล้วกันนะ ลาก่อน”

สิ้นคำพลาธิปก็เดินออกจากสนามหญ้าอันกว้างใหญ่และเขียวขจีของคฤหาสน์หลังงามแห่งบ้าน ศรีสวัสดิ์พงษ์ ตรงไปยังสปอร์ตคันงามปิดประตูดัง แล้วสตาร์ทเครื่องจนดังกระหึ่มเพื่อระบายอารมณ์ที่ระอุอยู่ภายใน

โดยไม่สนใจกับแฟนสาวที่ยังคงนั่งอยู่ศาลามองมาหาด้วยใบหน้าของคนสับสนไม่หาย

เอี๊ยด!!!!!

สปอร์ตหรูเบรกกะทันหัน เมื่อกำลังจะพุ่งออกจากประตูอย่างรวดเร็ว แล้วเพิ่งจะเห็นหญิงสาวที่เขารู้จักดีเดินข้ามถนนมาโดยไม่ดูตาม้าตาเรือ ยังผลให้เขาอารมณ์เสียขึ้นกว่าเดิมเป็นร้อยเท่า จนต้องรีบเปิดประตูออกมา

ส่งสายตาขุ่นแค้นผ่านแว่นกันแดดราคาเรือนแสนจับจ้องไปหาเจ้าของใบหน้าสวย ร่างสูงโปร่ง ที่กำลังเดินมาเงียบๆ ที่จ้องมองเขาสายตาขุ่นเคืองไม่แพ้กัน

“อยากตายเหรอ ถึงได้เดินไม่ดูรถบ้าง หรือบ้านเธออับจนหนทาง หาเงินมาหมุนในการสร้างเปลือกปลอมๆ ไม่ทัน จนต้องมาหาเงินด้วยการเดินตัดหน้ารถราคาแพงๆ เพื่อหวังให้เจ้าของโยนให้สักแสนสองแสนบ้าง”

ปราณปริยาวดี ศรีสวัสดิ์วัฒนา ในชุดกระโปรงยาวจีบรอบสีน้ำตาลเข้มคอจีนสะพายกระเป๋าใบใหญ่ไว้บนบ่า ในท่วงท่าสง่างามและเยือกเย็นต้องส่งสายตาไปหาเขาอย่างสมเพชเวทนากับท่าทางของสุภาพบุรุษอกสามศอกที่ยืนตะคอกใส่ผู้หญิงอยู่กลางทาง

“คุณเองเป็นคนขับรถควรจะต้องดูคนเป็นอันดับแรก ไม่ใช่มายืนว่าคนอื่นอยู่แบบนี้ และกรุณารับรู้ไว้ด้วยนะว่าถนนเล็กๆ ในซอยแบบนี้ คุณไม่ควรจะขับรถเกินที่กฎหมายกำหนดเอาไว้”

แต่ก็ไม่ได้แสดงกิริยาหรือท่าทางไม่ดีออกไป มากกว่าการเอ่ยด้วยถ้อยคำธรรมดาและน้ำเสียงเรียบๆ เท่านั้น และไม่ได้สนใจกับเรื่องที่เขาว่ากวาดไปถึงสถานะภาพทางบ้านเลยแม้แต่น้อย

เพราะจะทำให้เรื่องไม่จบง่ายๆ เท่านั้น แต่มีหรือที่จะเป็นแบบนั้นไปได้ ในเมื่ออีกฝ่ายกำลังมองหาที่ระบายอยู่แล้ว