EP 2
“อ้อ! หัวหมอ! รู้กฎหมายด้วย ถ้าเก่งขนาดนี้ ทำไมสะกดคำว่าศีลธรรมไม่ออกและไม่รู้จักศีลห้า ข้อสามว่าเขาสอนอะไรบ้าง ถ้าไม่รู้จะบอกให้เอาบุญก็ได้ว่า กาเมสุ มิจฉาจารา เวรมณี งดเว้นจากการประพฤติผิดในกามน่ะรู้จักมั้ย ถ้ารู้ก็ช่วยเอาไปบอกแม่เธอด้วย จะได้ไม่ต้องปีนต้นงิ้วเวลาตกนรก และก็เตือนตัวเองด้วยล่ะ จะได้ไม่ตามแม่ไปด้วย”
“งั้นคุณก็ควรจะเอาไปบอกพ่อคุณก่อนก็แล้วกัน เพราะของอย่างนี้ปรบมือข้างเดียวมันคงจะไม่ดัง และคุณก็ควรจะเตือนตัวเองเอาไว้ด้วย จะได้ไม่ตามพ่อไปปีนต้นงิ้วเหมือนกัน”
แล้วเจ้าของร่างสูงโปร่งก็เดินไปหาประตูแล้วเปิดเข้าบ้านไปด้วยท่าทีสง่างามร่างนางหงส์ ทิ้งให้หนุ่มอารมณ์ค้างยืนงงเป็นไก่ตาแตกอยู่หลายวินาทีว่าตัวเองพลาดให้แม่ลูกบ้านน้อยเล่นงานกลับได้ยังไง
แต่คิดไปก็ปวดหัวเปล่าๆ จึงมุดตัวลงไปในรถหรูก็แล่นออกไปด้วยความเร็วและแรงไม่แพ้กัน ปราณปริยาวดีแค่หันกลับไปมองแล้วส่งยิ้มอย่างสะใจเท่านั้น
ก่อนจะเดินบ้านหลังใหญ่ที่ใครๆ มาเห็นแล้วเรียกว่าคฤหาสน์แทนทุกครั้ง เพราะมันตั้งตระหง่านคู่กับคฤหาสน์อีกหลังที่ใหญ่กว่าหรูหรากว่าในความคิดของผู้แม่
ที่มักจะมองผ่านแนวรั้วต้นชาฮกเกี๊ยนหรือข่อยจีนซึ่งใช้เป็นรั้วกันเขตแดนระหว่างคฤหาสน์ทั้งสองไว้เท่านั้น ที่ที่จะเป็นกำแพงสูงๆ เสีย จะได้ไม่มีใครเห็นใคร และจะได้ไม่เป็นเรื่องเป็นราวให้ปวดหัวอยู่ทุกวัน
“ปราณปริยาวดี ศรีสวัสดิ์วัฒนา”
ปาน คุ้มวงศ์ ผู้แม่ที่โผล่ออกมาจากแนวรั้วข่อย แล้วรีบเดินเข้าประตูครัวมาทักทายลูกสาวด้วยการเรียกซะเต็มยศ ก่อนจะยิ้มให้ด้วยความรักและพึงพอใจในตัวลูกที่เป็นทุกๆ อย่างที่แม่อยากจะให้เป็นสมใจ
รวมทั้งชื่ออันยาวเฟื้อย ที่ตัวเองเป็นคนตั้งให้ลูกด้วยอาการของคนเก็บกด ที่พ่อกับแม่ดังตั้งชื่อมาให้แค่คำเดียวสั้นๆ ห้วนๆ
จะเปลี่ยนไปเป็นชื่ออื่น พระก็ดันทักว่าไม่ดี ชีวิตจะย่ำแย่ลง ปานเลยจำต้องใช้ชื่อนี้อย่างไม่เต็มใจนัก ลูกสาวจ้องแม่เขม็งเป็นเชิงบอกให้รู้ว่าไม่ชอบให้แม่เรียกแบบนี้
ด้วยไม่ได้ปลาบปลื้มกับชื่อยาวๆ ของตัวเองนัก เพราะมักจะถูกเพื่อนๆ ในโรงเรียนตลอดจนคุณครูล้อเสมอๆ ผู้แม่ทำเป็นไม่สนใจ แล้วเฉไฉถามเรื่องอื่นแทน
“ทำไมหนึ่งไม่เอารถไปล่ะ กว่าจะเดินจากปากซอยมาไม่เหนื่อยหรือไงนะ”
แล้วภาพออดี้เอสสี่สีขาวที่จอดอยู่โรงรถที่ปราณปริยาวดีเดินผ่านมาเมื่อครู่ก็เข้ามาอยู่ในความคิด แต่ก็เป็นเพียงแค่ชั่วครู่เดียวเท่านั้น แล้วตอบออกไปอย่างไม่เกรงใจคนฟังสักนิด
“ไม่ล่ะค่ะคุณแม่ เปลืองน้ำมันจะตาย สู้หนึ่งขึ้นรถเมล์ไม่ได้ สบายกว่าเยอะ ถ้าขืนหนึ่งขับไปกลับบ้านคุณตาทุกวัน มีหวังเงินที่ได้จากงานคงไม่เหลือไว้ซื้อข้าวกินแน่ๆ ค่ะ”
ผู้แม่เดินตรงมาหายกแขนโอบไหล่ลูกอย่างสนิทสนมกันอยู่ท่ามกลางครัวอันใหญ่โตหรูหรา ของใช้ทุกอย่างใหม่เอี่ยมและทันสมัยเหมือนหลุดออกมาจากแคตตาล็อกก็ไม่ปาน
“แหม! พูดยังกับว่าทุกวันนี้ได้จ่ายยังงั้นล่ะ แม่บอกตั้งนานแล้วว่าจะออกค่าน้ำมันให้ หนึ่งก็ไม่ยอมนี่นา มีรถดีๆ ก็ใช้สิจ๊ะ เดี๋ยวคุณพ่อจะเสียใจนะ อุตส่าห์ซื้อเป็นรางวัล ที่หนึ่งได้เกียรตินิยมอันดับหนึ่งน่ะ”
และผู้เป็นลูกสาวรู้ดีด้วย ว่ากว่าพ่อจะยอมควักกระเป๋าล้านกว่าบาทมาซื้อให้นั้น แม่ก็ต้องออดอ้อนเอาอกเอาใจสารพัดนั่นเอง ทั้งๆ ที่ลูกสาวกับลูกชายบ้านโน้นของพ่อต่างได้รถราคาเหยียบสิบล้านทั้งสองคน
แต่ป่วยการที่จะพูดให้แม่ไม่สบายใจเปล่าๆ จึงเลือกดึงเอาเรื่องอื่นมาคุย เพราะวันนี้เป็นวันดี ไม่อยากให้เรื่องไม่ดีมาข้องแวะนัก
“วันนี้แม่ทำอะไรเลี้ยงหนึ่งคะ ของเยอะแยะเลย” ผู้แม่เองก็ใช่ว่าจะไม่รู้ทัน เลยจำต้องยอมเปลี่ยนเรื่องคุยตามลูก
“โอย! บอกไม่หมดหรอกจ้ะ แม่ชวนเพื่อนๆ มาหลายบ้านเหมือนกัน อาหารสั่งจากร้านก็มี ทำเองก็มี งั้นหนึ่งเอาของไปเก็บแล้วลงมาช่วยแม่กับป้ากอบเตรียมอาหารดีกว่านะจ๊ะ แล้วคุณตากับคุณยายจะมาถึงกี่โมงล่ะ”
“เห็นคุณยายบอกว่าต้องรอพี่ทินกับคุณตาให้กลับจากไปคุยกับเจ้าของงานก่อนถึงจะมาค่ะ น่าจะสักหกโมงหรือทุ่มหนึ่งค่ะคุณแม่ งั้นหนึ่งขึ้นไปเปลี่ยนชุดก่อนนะคะแล้วจะลงมาช่วย”
“จ้ะ”
ปานจ้องมองแผ่นหลังลูกสาวคนเดียวเดินขึ้นบันไดไปด้วยความอิ่มเอมหัวใจ เพราะแม้มองเพียงเบื้องหลังลูกสาวก็มีท่วงท่าสง่างามราวนางหงส์เหลือเกิน ไม่เสียแรงที่ตัวเองอุตส่าห์เฝ้าพากเพียรเลี้ยงลูกมาอย่างดี
สรรหาแต่ของมีค่ามีราคาให้ลูก เพื่อไม่ให้น้อยหน้าลูกอีกบ้าน ที่คอยแต่จะข่มให้ตัวและลูกดูด้อยกว่าอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน
“มีอะไรให้หนึ่งช่วยบ้างจ๊ะป้ากอบ”
ปราณปริยาวดีเดินเข้าครัวมาในชุดกางเกงขาสั้นกับเสื้อยืดพอดีตัว ผมยาวสลวยสีน้ำตาลดัดลอนใหญ่ๆ แค่ท้ายทอยลงไปก็ถูกรวบมัดจุกไว้ด้านหลังเพื่อเตรียมพร้อมกับงานครัวอย่างเต็มที่
“คุณหนึ่งทำน้ำสลัดก่อนก็ได้ค่ะ”
กอบผู้เป็นแม่บ้านและเป็นเสมือนเพื่อนสนิทคนเดียวที่ปานมี แถมอยู่ด้วยกันมาตั้งแต่วันที่ปราณปริยาวดีเกิดจนถึงทุกวันนี้รวมแล้วก็ยี่สิบสามปีพอดิบพอดี
“นี่หนึ่ง! รู้หรือเปล่าว่าแม่คุณหนูบ้านโน้นน่ะ สลัดรักหนุ่มรูปงามคนแรกไปอย่างไม่ไยดีเลยนะ ขนาดพ่อคุณตามมาง้อรอบที่สามแล้วก็ยังไม่ยอมเปลี่ยนใจ เอาแต่จะเดินหน้าแต่งกับอีกคนท่าเดียว แม่เห็นแล้วก็สลดหดหู่ใจจังเลย รักกันมาก่อนแท้ๆ พอเจออีกคนที่ไม่ได้มีอะไรดีกว่าตรงไหนก็ดันตัดสินใจรับหมั้นรับแต่งปุบปับเชียว ใจร้ายที่สุด”