บท
ตั้งค่า

บทที่ 2 (1)

ในขณะที่บรรดาสาวๆ และแขกผู้มีเกียรติทุกคน กำลังสนุกสนานกันอย่างสุดเหวี่ยง เต้นรำอยู่เต็มฟลอร์กลางห้องจัดงานเลี้ยง และต่างก็ลุ้นระทึกว่าท่านชีคฮาริค จะเลือกหญิงสาวคนไหนให้ไปเต้นรำกับพระองค์ในยามเที่ยงคืน และต่างก็ลุ้นว่าตนเองนั้นจะเป็นซินเดอเรลล่าผู้โชคดีที่สุดในรอบปีหรือเปล่า ในอีกมุมหนึ่งของตำหนักหรูของท่านชีคฮาริค ก็ยังมีกลุ่มคนอีกหลายๆ กลุ่ม ที่วุ่นวายกับการคอยเตรียมอาหาร เตรียมเครื่องดื่มออกไปเสิร์ฟให้กับบรรดาแขกผู้มีเกียรติ ที่มาร่วมงาน ซึ่งนั่นก็รวมถึงทีมจัดทำอาหารไทย สำหรับต้อนรับแขกในค่ำคืนนี้ ที่ต่างก็พากันทำงานมือเป็นระวิงแทบไม่ได้หยุดพัก

โดยเฉพาะสาวไทยที่ได้รับจ๊อบมาทำงานนี้ เพื่อหาเงินซื้อตั๋วเครื่องบินกลับประเทศไทยถิ่นพำนักบ้านเกิดเมืองนอนที่ได้จากมาเสียนาน เพื่อมาร่ำเรียนที่ประเทศฮาริยาคว้าใบปริญญาเป็นของขวัญให้กับตนเอง

“ไข่หวาน จัดออร์เดิร์ฟเร็วๆ หน่อยสิ แขกกำลังรอกินอยู่นะ”

หญิงสาวเจ้าของชื่อเล่นสุดน่ารัก ซึ่งกำลังก้มหน้าก้มตาจัดออเดิร์ฟ ให้บรรดาดารา นางแบบ ลูกท่านหลานเธอได้รับประทานจนมือเป็นระวิง ได้เงยหน้าขึ้นจากงานที่ทำอยู่ ก่อนจะบ่นโอดครวญให้กับเพื่อนร่วมงานที่กำลังเร่งเธอไม่ได้หยุดปาก

“นี่ดารีน...ไข่หวานก็ทำจนไม่ได้พักเหนื่อยพักหายใจเลยนะ ไม่รู้คนพวกนี้พกกระเพาะช้างมาด้วยหรือยังไงกัน ถึงได้กิน ได้ดื่มไม่ได้หยุด”

ไข่หวาน หรือบัณฑิตา ทิพปภา สาวสวยนัยน์ตาดำขลับดุจสีนิล ผมยาวนุ่มเนียนสลวยถึงกลางบ่า ได้เงยใบหน้ารูปไข่งามลออขึ้นมามองเพื่อนร่วมงาน พร้อมกับบ่นอุบ ทั้งเหนื่อย ทั้งล้าจากการก้มๆ เงยๆ ทำอาหารเลี้ยงคนทั้งกองทัพมาร่วมหลายชั่วโมงแล้ว

“อย่าบ่นเลยน่าไข่หวาน ถ้าจะโทษก็ต้องโทษเธอนั่นแหละ ที่ดันมีฝีมือการทำอาหารไทยรสเลิศ ทำให้แขกที่มางานเลี้ยงติดใจฝีมือเธอเป็นแถว”

หญิงสาวที่ชื่อดารีน ซึ่งยึดตำแหน่งเด็กเสิร์ฟตลอดงานนี้ ได้ทรุดกายลงนั่งใกล้ๆ กับร่างบางระหงของเพื่อนสาว พลางหันซ้ายแลขวา เมื่อเห็นว่าปลอดผู้คนแล้ว ก็รีบหยิบออเดิร์ฟที่บัณฑิตาจัดเป็นพอดีคำน่ารับประทานส่งเข้าปากตัวเอง แล้วรีบเคี้ยวตุ้ย กลืนเข้าปากอย่างรวดเร็ว ด้วยเกรงว่าหัวหน้างานหรือคนอื่นจะมาเห็นเข้า

และพอออเดิร์ฟรสเลิศอร่อยลิ้น ได้ถูกทำลายหลักฐานไปหนึ่งชิ้นแล้ว ดารีนก็รีบยกนิ้วโป้งให้กับเพื่อนสาว ยอม

รับว่าบัณฑิตาทำอาหารได้อร่อยจริงๆ

“ไข่หวาน เราการันตีเลยว่าเธอทำอาหารได้อร่อยจริงๆ ขนาดเรายังติดใจฝีมือของไข่หวานเลยนะ”

บัณฑิตามองค้อนเพื่อนสาวที่นั่งแหมะยกยอปอปั้นเธอ หลังจากได้แอบหยิบออเดิร์ฟไปกินอีกหนึ่งชิ้น แล้วรีบทำลายหลักฐานเหมือนตอนที่หยิบชิ้นแรกส่งเข้าปาก

“ไม่ต้องมายอเราหรอกดารีน เราเหนื่อยจะแย่อยู่แล้ว คนพวกนี้ก็เหลือเกิน กินได้กินดี ไม่รู้จักหยุดปาก นี่ถ้า

หากว่างานนี้ไม่ได้เงินดี เงินหนา เราคงได้โบกมือบ๊ายบายไปนานแล้ว”

ปากก็บ่นกระปอดกระแปด ส่วนมือเล็กก็หยิบจับอาหารจัดเป็นคำๆ น่ารับประทาน ให้เพื่อนร่วมงานได้เอาไปเสิร์ฟแขกไฮโซที่อยู่ด้านนอก

ดารีนหัวเราะออกมาเบาๆ กับคำบ่นของเพื่อนสาวแสนสวย พร้อมกันนั้นก็ได้ตบเบาๆ ไปบนบ่าเล็กของบัณฑิตา ก่อนจะเอ่ยปลอบให้กำลังใจซึ่งกันและกัน

“สู้ๆ นะไข่หวาน ทนอีกนิด อีกไม่กี่ชั่วโมงงานเลี้ยงก็จะเลิกราแล้ว”

“เฮ้อ...ไม่อยากทนก็ต้องทนนะดารีน เรามันพวกเงินน้อย พ่อแม่ไม่ได้ร่ำรวย ไม่ได้มีมรดกกองเท่าภูเขาเลากาเหมือนบรรดาพวกไฮโซที่ร่วมงานเลี้ยงของท่านชีค ไม่ว่าจะเหนื่อยแค่ไหน ก็ต้องทนเพื่อคำว่าเงิน”

บัณฑิตาปลอบใจตนเอง ตอนนี้ไม่มีอะไรดีไปกว่าการพูดให้กำลังให้ตัวเองนั้นมีแรงฮึดสู้ ทนทำงานเพื่อให้ได้ค่าแรงที่มาจากหยาดเหงื่อแรงกายของตนเอง ทันทีที่เธอและน้องสาวฝาแฝดอีกคนคือไข่ตุ๋นหรือบุญธิสาเก็บเงินได้มากเพียงพอสำหรับค่าตั๋วเครื่องบิน พวกเธอจะติดปีกโผบินกลับประเทศไทยทันที เสียแต่ว่าตอนนี้พวกเธอไม่มีเงินมากพอที่จะซื้อตั๋วเครื่องบินนี่สิ ที่ทำให้ต้องพากันทำงานหนักทั้งพี่ทั้งน้อง

ดารีนรู้สึกผิดอยู่บ้างที่ได้ชวนเพื่อนสาวพูดในเรื่องที่ไม่น่าโสภา และพอเห็นบัณฑิตาตีหน้าเศร้าๆ ก็รีบชวนเพื่อนสาวคุยในเรื่องอื่นทันที

“นี่ไข่หวาน เธอไม่ออกไปดูบรรยากาศในห้องจัดเลี้ยงบ้างหรือ มีแต่หนุ่มหล่อๆ ทั้งนั้นเลยนะ”

“หล่อจริงหรือเปล่าดารีน”

บัณฑิตาเอ่ยถามยิ้มๆ ไม่นึกอยากทำตามคำเชิญชวนของเพื่อนสาวเลย เธอขออยู่เป็นนางซินหมกอยู่ในก้นครัว ดีกว่าออกไปพบเจอแต่สังคมจอมปลอม ที่ผู้คนต่างก็ปั้นหน้ากากเข้าหากัน

“หล่อมากๆ เลยนะไข่หวาน แต่พวกผู้ชายพวกนั้น ไม่มีใครหล่อเท่าท่านชีคฮาริคแม้แต่คนเดียว”

พอได้พูดถึงราชนิกุลหนุ่มผู้สูงศักดิ์ ดารีนก็ได้แต่ยกมือมากุมหัวใจของตนเอง ที่เต้นรัวเร็วไม่ได้จังหวะ ดวงตาทั้งคู่หวานเยิ้มเคลิ้มฝันไปในสิ่งที่ตนเองไม่อาจเอื้อมไปถึงได้ นอกจากการฝันกลางวันเอาเท่านั้น

“ตอนที่ฉันเห็นท่านชีคเดินเข้ามาในห้องจัดงานเลี้ยงนะไข่หวาน ฉันแทบจะทำถาดเครื่องดื่มหลุดมือ อุแม่เจ้า! ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าพระองค์จะหล่อบาดจิตบาดใจได้ถึงเพียงนี้ ขนาดว่าทรงสวมหน้ากากสีทองรูปสิงโตปกปิดใบหน้าไว้เกือบครึ่ง แต่พระองค์ก็ยังดูหล่อเหลา น่าเกรงขามเป็นที่สุด ชุดที่สวมก็เป็นชุดสีดำกระชับกาย ดวงตาสีเขียวใสที่มองลอดหน้ากากออกมาช่างดูมีเสน่ห์เย้ายวน จนฉันหัวใจแทบละลาย อยากโชคดีเหมือนสาวๆ พวกนั้น ที่มีโอกาสได้อยู่ใกล้ชิดกับท่านชีครูปงามที่แสนจะเพอร์เฟค ทั้งรูปกายและรูปทรัพย์ที่ร่ำรวยติดอันดับโลก”

ในขณะที่ดารีนได้พร่ำรำพันถึงความหล่อเหลา ความร่ำรวยของชีคฮาริคไม่ได้หยุด โดยที่นัยน์ตายังฉายแววเพ้อฝัน ไปตามปากที่ได้คร่ำครวญพูดออกมา บัณฑิตาก็ได้แต่ส่ายหน้าด้วยความระอากับอาการฝันกลางวันของเพื่อนสาว และเมื่อดารีนยังคงทำตาลอยๆ ตกอยู่ในห้วงความหล่อเหลาของชีคฮาริคเช่นเดิม จนลืมหน้าที่การงานของตัวเองไปแล้ว หญิงสาวจึงได้ตบเบาๆ ที่ใบหน้าอวบๆ ของเพื่อนสาว พร้อมกับฉุดรั้งให้อีกฝ่ายหลุดออกมาจากการฝันกลางวัน

“ยายดารีน! ตื่นได้แล้ว เลิกฝันกลางวันได้แล้ว เธอไม่มีทางเข้าไปใกล้ท่านชีคฮาริคได้หรอก และท่านชีคเองก็คงไม่ชายตามาแลผู้หญิงที่มีรูปร่างหน้าตาเชยๆ อย่างพวกเรา คนที่ท่านชีคทรงชื่นชอบและเกณฑ์ให้เข้าไปอยู่ในสังกัดของพระองค์ จะต้องมีหุ่นเหมือนพวกดารา นางแบบที่ได้เชิญมาร่วมงานเลี้ยง”

“แหม! ยายไข่หวาน ให้กำลังใจฉันเหลือเกินนะ”

ดารีนมองค้อนเพื่อนสาว พลางก้มหน้ามองเรือนร่างของตัวเอง จากนั้นก็ตีหน้าม่อย เมื่อเห็นว่ามันเป็นจริงทุกประการตามที่เพื่อนรักได้พูดออกมา

“จริงของเธอนะไข่หวาน ฉันนะแบนราบเป็นไม้กระดาน ตัวรึก็ออกจะดำเมี่ยง ตัวเล็กไม่ต่างจากเด็กน้อย ท่านชีคมีหรือจะชายตาแล”

พร่ำรำพันต่อว่าตัวเองด้วยความน้อยเนื้อต่ำใจในรูปร่างที่แม่ให้มาแล้ว ดารีนก็ได้เงยหน้ากวาดสายตามองเพื่อนสาวบ้าง พออ้าปากกำลังจะพูดวิพากษ์วิจารณ์ในรูปร่างของบัณฑิตาบ้าง ก็ถูกอีกฝ่ายยกมือห้ามทัพโดยฉับพลัน

“หยุด! เลยยายดารีน ไม่ต้องพูดไม่ต้องวิจารณ์ทั้งนั้น เอาอาหารออกไปเสิร์ฟแขกผู้หิวโหยได้แล้ว”

บัณฑิตาไม่ได้สั่งแต่ปาก มือเล็กได้หยิบถาดเงิน ซึ่งเต็มไปด้วยออเดิร์ฟและอาหารว่างอีกหลายอย่าง ไปยัดใส่มือของเพื่อนสาว พร้อมกับออกปากไล่อีกฝ่ายให้ไปทำหน้าที่ของตนเองอีกครั้ง

“ไปทำงานดารีน ถ้ามัวแต่โอ้เอ้อยู่แบบนี้ จะถูกอันเชิญให้ออกจากงานโดยไม่รู้ตัวนะ”

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel