บทย่อ
เมื่อจู่ๆ เจ้าแห่งทะเลทราย ผู้ถูกขนานนามว่าเป็นเพลย์บอยตัวกลั่นเช่น ชีคฮาริค ดาเนียล อิสมาแอล เกิดอาการเบื่อหน่ายผู้หญิงซะดื้อๆ จึงเล่นเกมมาลัยเสียงรัก เพื่อค้นหาซินเดอเรลล่าให้มาปรนเปรอสวาททั้งสวาททั้งคืนบัณฑิตา จำต้องกระโจนเข้าเล่นเกมมาลัยเสี่ยงรัก เพราะมีความจำเป็นต้องหาเงินถึงห้าล้าน! ไปประกันตัวน้องสาวไม่ให้นอนกินข้าวแดงในคุก
บทที่ 1 (1)
ภายในห้องโถงใหญ่โตโอ่อ่า ในตำหนักราญา...ตำหนักส่วนพระองค์ของราชนิกุลหนุ่มผู้หล่อเหลา ฉลาดล้ำลึก ปราดเปรียวประดุจเสือดาว แห่งประเทศฮาริยา เต็มไปด้วยลูกท่านหลานเธอ ทั้งที่เป็นเชื้อพระวงศ์ ยศสูงศักดิ์ รวมทั้งบรรดาหนุ่มสาวไฮโซ ดารา นางแบบ ที่ได้รับเชิญให้มาร่วมงานเลี้ยงฉลอง วันประสูติครบรอบ 34 ปี ของประมุขหนุ่มผู้หล่อเหลาเจ้าแห่งแผ่นผืนทะเลทราย...
เสียงดนตรีจากวงออเคสตร้าชื่อดังแห่งประเทศฮาริยา ได้บรรเลงขับกล่อมแขกเหรื่อผู้มีเกียรติเพลงแล้วเพลงเล่านับตั้งแต่เวลาที่พระสุริยาได้ชิงพลบลาลับขอบฟ้า จวบจนกระทั่งเหลือเวลาอีกไม่ถึง 2 ชั่วโมง ก็จะล่วงเข้าราตรีกาลของวันใหม่แล้ว ทว่าแขกไฮโซทั้งหลายโดยเฉพาะบรรดาสาวๆ ทั้งสดและไม่สด ทั้งสาวน้อย สาวใหญ่ ต่างก็รอคอยการมาปรากฎตัวของราชนิกุลหนุ่มผู้เป็นเจ้าของงาน ซึ่งงานเลี้ยงผ่านไปถึง 4 ชั่วโมงเต็มแล้ว แต่เจ้าแห่งทะเลทรายผู้ยิ่งใหญ่ก็ยังไม่ยอมมาปรากฏกายให้ใครได้เห็น
“บ้าจริงๆ เลย เมื่อไรท่านชีคจะโผล่หัวออกมาสักทีนะ ฉันมารอพระองค์ตั้งแต่งานเลี้ยงยังไม่เริ่ม ดูสิ! ป่านนี้แล้วพระองค์ยังไม่เสด็จออกมาสักที จะให้พวกเรารอไปถึงไหนกัน”
นางแบบสาวชื่อดัง ซึ่งเป็นหนึ่งในบรรดาสาวๆ ที่ได้รับเชิญให้มาร่วมงานเฉลิมฉลองอันยิ่งใหญ่ และได้เดินทางมาร่วมงานตั้งแต่ประตูตำหนักราญายังไม่เปิดด้วยซ้ำไป ได้บ่นอุบไร้ซึ่งความเคารพต่อราชนิกุลหนุ่ม เมื่อรู้สึกว่าความอดทนของตนเองกำลังจะถึงที่สิ้นสุดแล้ว ด้วยรอเวลาที่เจ้าของงานจะออกมาปรากฏกายเป็นเวลานานหลายชั่วโมงแล้ว แต่ก็ไม่เห็นแม้แต่เงาของประมุขแห่งแผ่นดินประเทศฮาริยา ทำเอาหงุดหงิดงุ่นง่านจนต้องบ่นเอากับเพื่อนนางแบบที่มาร่วมงานด้วยกัน
“เบาๆ หน่อยสิเธอ ถ้าเผอิญว่าท่านชีคหรือองครักษ์ของพระองค์มาได้ยินเข้า เราจะซวยเอานะ ดีไม่ดีจะถูกฆ่าล้าโคตรเอาได้ ที่บังอาจพูดถึงพระองค์เช่นนั้น”
นางแบบอีกคนได้สะกิดที่สีข้าง พลางกระซิบเอ่ยเตือนเพื่อนสาว พร้อมกันนั้นก็หันซ้ายแลขวา มองว่ารอบๆ ตัวเองนั้นมีองครักษ์ร่างยักษ์ยิ้มไม่เป็น บังเอิญเดินมาได้ยินประโยคคำพูดของพวกเธอบ้างหรือเปล่า
“ก็มันจริงนี่ ฉันอุตส่าห์แต่งตัวเสียสวยหรู ทั้งหน้าทั้งผม รู้ไหมว่าฉันจ้างช่างเสริมสวยหมดไปเท่าไร ถ้าหากไม่ได้เข้าใกล้ท่านชีค เปิดตัวให้พระองค์ได้เห็น ก็เท่ากับว่าฉันลงทุนเปล่า”
และแทนที่นางแบบคนแรกจะสงบปากสงบคำ กลับเพิ่มดีกรีในการต่อว่าราชนิกุลหนุ่มอีกชุดใหญ่ โดยหารู้ไม่ว่า ชายชาติกษัตริย์ผู้ยิ่งใหญ่ ที่พวกเธอนั้นกำลังนินทาอย่างสนุกปาก ได้ปลอมตัวเป็นหนึ่งในแขกที่ได้รับเชิญ มายืนนิ่งฟังพวกเธอนินทาพระองค์เป็นเวลานานแล้ว
“รออีกสักพักท่านชีคก็คงเสด็จออกมาแล้ว ถึงตอนนั้นเธอก็จะได้เปิดตัวกับพระองค์ รับรองว่าหากพระองค์เห็นเธอ ซึ่งเป็นนางแบบเบอร์หนึ่งของประเทศฮาริยา พระองค์ต้องตกตะลึงในความเซ็กซี่เร่าร้อนของเธออย่างแน่นอน”
นางแบบคนเดิมพยายามปลอบใจระคนเอ่ยเตือนเพื่อนสาว ที่มีเป้าหมายในการเดินทางมางานเลี้ยงครั้งนี้ ก็เพียงเพื่อที่จะจับราชนิกุลผู้หล่อเหลา แถมร่ำรวยติดอันดับโลกให้จงใจได้...ได้ใจเย็นลงอีกนิด เธอเชื่อว่าอีกไม่นานประมุขแห่งประเทศฮาริยาต้องเสด็จออกมาร่วมงานเลี้ยงอย่างแน่นอน
“ฉันเย็นไม่ไหวแล้วนะ และไม่รู้ว่าจะมีโอกาสได้เข้าไปใกล้ชิดพระองค์หรือเปล่า ลองดูบรรดาสาวๆ ภายในห้องเลี้ยงนี้สิ นับไม่หวาดไม่ไหว แต่ละคนทำยังกับนางเสือหิว หากท่านชีคออกมาปรากฏตัวเมื่อไร คงพากันกระโจนเข้าใส่พระองค์ทันที”
ขณะบ่นกับเพื่อนสาว นางแบบเบอร์หนึ่งก็ได้กวาดสายตามองรอบๆ ห้องจัดเลี้ยง ซึ่งแขกที่มาร่วมงาน ดื่มกินอาหารชั้นเลิศราคาแพงลิบ ส่วนมากแล้วจะเป็นแขกผู้หญิงซะส่วนใหญ่ และแต่ละนางก็สวย เซ็กซี่ หุ่นน่าฟัดน่ากิน ล้วนเป็นที่ชื่นชอบของประมุขแห่งประเทศฮาริยา ที่ขึ้นชื่อว่าเป็นคาสโนวา เป็นเพลย์บอยตัวกลั่น ที่ไม่มีใครเทียบเท่าได้
ในขณะที่นางแบบสาวทั้งสองคน รวมทั้งบรรดาสาวๆ ที่มาร่วมงาน ต่างก็พากันบ่นอุบ ชะเง้อคอมองว่าเมื่อไรเจ้าแห่งทะเลทรายผู้องอาจหล่อเหลาจะเสด็จออกมาสักที ชายชาติกษัตริย์ ที่ถูกบรรดาสาวๆ ในงานเลี้ยงต่างก็นินทาไม่ได้หยุดปาก ก็ได้กระแทกเท้าเดินออกมาจากงานเลี้ยง ตรงไปยังห้องนอนใหญ่โอ่อ่าด้วยอาการโกรธกริ้วระคนเบื่อหน่ายบรรดาสาวๆ ที่จ้องจะเขมือบพระองค์อย่างเช่นที่นางแบบสาวสองคนนั้นได้พูดถึง
“เบื่อชะมัด! คาฟาลเจ้าว่าเรายกเลิกงานเลี้ยงในคืนนี้ดีไหม”
ชีคฮาริค ดาเนียล อิสมาแอล ได้บ่นออกมาอย่างเบื่อหน่าย ขณะทิ้งกายลงนั่งบนโซฟาตัวยาว ภายในห้องนอนของพระองค์ และในขณะทรุดกายลงนั่งด้วยความหงุดหงิดอารมณ์เสีย ก็ไม่ลืมกระชากหน้ากากสีดำสนิทโยนทิ้งออกไปจากใบหน้าของพระองค์ เพราะงานเลี้ยงสวมหน้ากากอำพรางตัวนี่เอง ที่ทำให้พระองค์ได้แฝงกายเข้าไปในงานเลี้ยง เพื่อคอยฟังบรรดาสาวๆ ที่มาร่วมงานได้พูดถึงพระองค์ในทางเสียๆ หายๆ ได้อย่างง่ายดาย
คาฟาล อัสซิส มาซีน องครักษ์เอกผู้จงรักภักดี เฝ้ารับใช้ชีคฮาริคมาช้านาน ตั้งแต่แรกเริ่มเข้าสู่วัยรุ่น รีบเดินไปรินบรั่นดีแบบออนเดอะร็อค มาถวายให้ผู้เป็นเจ้าเหนือหัวได้ดื่มดับความหงุดหงิดในใจ ซึ่งผู้ที่ทำให้ท่านชีคต้องตีสีหน้ามุ่ยอารมณ์เสียไม่ต่างจากราชสีห์อารมณ์บูด ก็เป็นบรรดาสาวๆ ที่ถูกเชิญมาร่วมงานเลี้ยงนั่นเอง
“ฝ่าบาท บรั่นดีพ่ะย่ะค่ะ จิบแก้อาการหงุดหงิดพระทัยนะพ่ะย่ะค่ะ”
ชีคฮาริค ผู้ที่เกิดในธาตุไฟ อันมีลักษณะความเป็นผู้นำ อารมณ์เร่าร้อนรุนแรงเป็นที่สุด ได้คว้าแก้วบรั่นดีทรงสวยมาจากมือขององครักษ์เอก ทว่าพระองค์ไม่ได้จิบช้าๆ เช่นดั่งคำแนะนำขององครักษ์ คาฟาลพระองค์ทรงกระดกเพียงครั้งเดียว น้ำสีอำพันก็ไหลเข้าสู่ลำคอจนหมดสิ้น ทำเอาพระองค์ตื่นเพริดขึ้นมาอีกหน เมื่อความร้อนฉ่าของเจ้าน้ำสีอำพันได้ไหลสู่ร่างกายทั่วทุกเส้นเลือด
“ว่าไง คาฟาลเจ้าว่าเราควรยกเลิกงานเลี้ยงดีไหม”
ชีคฮาริคทรงย้ำถามอีกครั้ง เมื่อยังไม่ได้รับคำตอบ ไม่ได้รับการแสดงความคิดเห็น จากผู้ที่นั่งอยู่แทบเท้าของพระองค์
องครักษ์คาฟาลตีสีหน้าลำบากใจระคนงุนงงอยู่มากกับคำถามของเจ้าเหนือหัว ที่จู่ๆ ก็คิดที่จะล้มงานเลี้ยงขึ้นมาดื้อๆ ทั้งๆ ที่ก่อนหน้านี้ พระองค์ทรงกระตือรือร้นเหลือเกิน ที่จะจัดงานเลี้ยงฉลองวันประสูติครบรอบที่ 34 ปีของพระองค์
“เอ่อ...กระหม่อมคิดว่าอย่ายกเลิกเลยพ่ะย่ะค่ะ งานเลี้ยงจัดมาเกือบครึ่งค่อนคืนแล้ว ก็ควรปล่อยให้มันดำเนินไปแบบนี้ จนกว่างานเลี้ยงจะเลิกราดีกว่าพ่ะย่ะค่ะ”
“แต่เราชักจะเบื่อแล้วสิ คาฟาล” ราชนิกุลหนุ่มตรัสตอบเสียงเนือยๆ พร้อมกับยื่นแก้วให้องครักษ์เอกได้รินบรั่นดีให้พระองค์อีกแก้ว
“ทำไมหรือพ่ะย่ะค่ะ พระองค์เบื่ออะไรกัน หรือว่าพระองค์เบื่อผู้หญิงพวกนั่น”
องครักษ์คาฟาลเอ่ยถามพลางยื่นบรั่นดีให้เจ้าเหนือหัวอีกครึ่งแก้ว ซึ่งเจ้าของนัยน์ตาสีเขียวใสก็ได้รับมาดื่ม
แบบรวดเดียวหมดแก้วไม่ต่างจากเมื่อสักครู่ที่ผ่านมา
“เราเบื่อผู้หญิงพวกนั้นนะ คาฟาลทำไมมีแต่หน้าเดิมๆ คนเดิมๆ ที่คอยจ้องเขมือบเรา เห็นเราไม่ต่างจากขนมหวาน ทำไมไม่มีผู้หญิงคนใหม่ๆ หน้าใหม่ๆ สะอาดบริสุทธิ์ให้เราได้ยลโฉม ได้ลิ้มลองบ้าง”
ท่านชีคหนุ่มที่ขึ้นชื่อว่าเป็นนักรัก เป็นเพลย์บอยตัวกลั่น ได้บ่นออกมาตามความรู้สึกของคนที่รักสนุก พระองค์จัดงานเลี้ยงฉลองวันประสูติครบรอบปีที่ 34 โดยจัดเป็นงานเลี้ยงสวมหน้ากากแฟนตาซี ก็ด้วยหวังว่าจะมีบรรดาสาวๆ หน้าใหม่ ใสบริสุทธิ์ไม่เคยต้องมือภุมรินใด ได้มาร่วมงานให้พระองค์ได้เชยชมในค่ำคืนนี้ หลังจากงานเลี้ยงเลิกราแล้ว แต่ทว่าบรรดาสาวๆ ที่ต่างก็ตบเท้าเข้ามาในงานเลี้ยง ล้วนแต่เป็นหน้าเดิมที่เคยผ่านมือพระองค์มาทั้งสิ้น และแม้พวกเธอเหล่านั้นจะสวมหน้ากากแฟนตาซี ปกปิดหน้าตาเอาไว้เกือบครึ่ง แต่พระองค์ก็ยังคงจำพวกเธอได้อยู่ดี
องครักษ์ คาฟาลได้ยินคำตอบของเจ้าเหนือหัวหนุ่มแล้ว ก็ได้แต่ลอบถอนหายใจยาว นึกอยากแช่งให้ท่านชีค ที่ใช้ผู้หญิงเปลืองเสียยิ่งกว่ากระดาษทิชชู่ ได้พบกับหญิงสาวที่จะสามารถลบลายความเจ้าชู้ ลบลายคาสโนวาของพระองค์ได้ในเร็ววัน
“กระหม่อมคิดว่าคงไม่มีหญิงสาวใดที่สะอาดบริสุทธิ์ หลงเหลือมาถึงฝ่าบาทแล้วพ่ะย่ะค่ะ เพราะสาวๆ แต่ละคนที่เสนอตัวให้ฝ่าบาท ก็ล้วนแต่ผ่านเวทีรักมาจนเจนจัดกันทุกคนแล้วพ่ะย่ะค่ะ”
องครักษ์เอกเอ่ยพูดตามที่ตนเองได้ประสบพบเจอมา ซึ่งใช่ว่าต้องการจะดูถูกบรรดาดารา นางแบบ หรือไฮโซเหล่านี้ไม่ แต่เป็นเพราะพวกเธอเหล่านี้ ที่ได้เสนอตัวเสนอกายเพื่อมาอยู่รับใช้ท่านชีคฮาริค แค่เพียงไม่กี่ค่ำคืน หรือแค่เพียงไม่กี่ชั่วโมง ล้วนแต่เป็นสาวๆ ที่เจนจัดเก่งกาจเรื่องอย่างว่ากันทั้งนั้น
ชีคฮาริคทรงถอนหายใจลึก พลางโยนแก้วบรั่นดีที่ไม่เหลือน้ำสีอำพันแม้แต่หยดเดียวคืนให้กับองครักษ์ คาฟาลที่รับไปถือไว้แทบไม่ทัน จากนั้นก็ผุดลุกขึ้นยืนเต็มความสูง ก่อนจะตรัสบ่นกับองครักษ์เอกอีกครั้ง
“สงสัยชาตินี้เราคงไม่เจอชายาที่สะอาดบริสุทธิ์ เหมาะสำหรับการเป็นแม่ที่ดีให้กับลูกๆ ของเรา และเหมาะสำหรับการเป็นชายาที่งดงามคอยอยู่เคียงคู่เรา เพราะหากให้เราคว้าพวกเธอที่มาร่วมงานเลี้ยงในคืนนี้เป็นชายา เราคงรับประทานไม่ลงแน่”
“สักวันพระองค์ต้องเจอหญิงสาวที่ใช่ ที่จะเป็นพระชายาที่แสนงดงาม คอยอยู่เคียงคู่เป็นกำลังใจให้กับพระองค์อย่างแน่นอนพ่ะย่ะค่ะ”
องครักษ์ คาฟาลพยายามเอ่ยปลอบ แกมให้กำลังใจท่านชีคผู้องอาจ ซึ่งตัวเขาเองก็อยากจะเห็นหน้าหญิงสาวผู้งดงาม และเป็นหญิงสาวที่ถือได้ว่าเป็นผู้โชคดีที่สุดในรอบปี ว่าจะเป็นหญิงใด ชาติใด ที่จะสามารถทำให้ท่านชีคฮาริคได้รักใคร่หลงใหล มอบใจภักดิ์ให้กับเธอได้
“งมเข็มในมหาสมุทรยังจะง่ายกว่านะ คาฟาล”
ชีคฮาริคโต้กลับคำพูดขององครักษ์เอกแทบจะทันที พร้อมกันนั้นก็ได้ชี้นิ้วไปยังชุดร่วมงานเลี้ยงสีดำสนิท ที่ได้แขวนไว้ที่หน้าตู้เสื้อผ้า ให้องครักษ์คาฟาลได้หยิบออกมาช่วยสวมให้กับพระองค์
องครักษ์ คาฟาลมองตามปลายนิ้วแข็งแกร่ง ที่ได้ชี้ไปยังชุดแฟนตาซีที่แขวนอยู่หน้าตู้เสื้อผ้า ก่อนจะขมวดคิ้วเข้าหากันยุ่ง แล้วเอ่ยถามออกมาด้วยความสงสัย
“ฝ่าบาทจะไปร่วมงานเลี้ยงต่อหรือพ่ะย่ะค่ะ”
“อืม...ใช่”
ชีคฮาริคตรัสตอบสั้นๆ ก่อนจะสลัดเสื้อผ้าตัวเก่าออก เหลือเพียงกายเปล่าเปลือย เผยให้เห็นเรือนกายล่ำสันบึกบึนเต็มไปด้วยมัดกล้าม อย่างคนที่ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ
องครักษ์ คาฟาลเกาหัวตัวเองแกร็กๆ ใบหน้าคมเข้มไม่ต่างจากผู้เป็นเจ้าเหนือหัว เต็มไปด้วยเครื่องหมายคำถามที่วิ่งวนไปทั่ว ขณะที่ได้หลุดปากเอ่ยถามท่านชีคต่อ
“ก็ไหนเมื่อสักครู่ฝ่าบาทบอกว่าเบื่อ! อยากจะล้มงานเลี้ยงล่ะพ่ะย่ะค่ะ”
ชีคฮาริคยิ้มเจ้าเล่ห์อยู่ตรงมุมปาก ก่อนจะตรัสตอบอย่างผู้ที่เอาแต่ใจตนเป็นใหญ่