บท
ตั้งค่า

บทที่ 3

ขวัญจิราไม่เคยรู้สึกตื่นเต้นเท่านี้มาก่อน มือไม้เธอเย็นเฉียบ ขณะนั่งรอกันต์กวีอยู่ภายในร้านอาหาร เธอมาถึงก่อนเวลานัดหมายเกือบหนึ่งชั่วโมง และตอนนี้ก็เหลือเวลาอีกไม่กี่นาทีกันต์กวีก็จะเดินทางมาถึงแล้ว

“ใจเย็นๆ ยายน้ำผึ้ง ไม่ต้องตื่นเต้น ทำตัวให้เป็นปกติที่สุด”

หญิงสาวเอ่ยปลอบตัวเอง ขณะเดียวกันก็ขยันเหลือบสายตามองประตูทางเข้า ว่าเมื่อไรจะเห็นกันต์กวีเดินเข้ามาสักที

แต่ดูเหมือนการรอคอยของขวัญจิราจะเป็นหมัน เมื่อเลยเวลานัดหมายไปร่วมชั่วโมงกว่าแล้ว แต่ก็ไม่ปรากฏร่างของกันต์กวีให้เห็น

“เธอถูกคุณกวีหลอกแล้วยายน้ำผึ้ง”

หยาดน้ำตาอุ่นเอ่อคลอเบ้าทันทีเมื่อนึกคิดเช่นนี้ ร่างบางระหงเดินออกจากร้านอาหารเพื่อกลับยังหอพักของตนเอง เมื่อเดินมาถึงบริเวณหน้าร้านอาหาร หญิงสาวก็เห็นรถสปอร์ตหรูหราราคาแพงของกันต์กวีเคลื่อนตัวมาจอดหน้าร้านอย่างรวดเร็ว ก่อนผู้เป็นเจ้าของจะเปิดประตูรถเดินลงมาหาเธอด้วยสีหน้าบอกบุญไม่รับ

“จะไปไหน”

กันต์กวีตะคอกถามเสียงห้วน ถ้าไม่ใช่เพราะพนันกับเพื่อนร่วมแก๊งไว้ เขาไม่มีทางผละหนีมาจากนางแบบสาวที่เพิ่งพาไปทัวร์สวรรค์เมื่อไม่กี่ชั่วโมงที่ผ่านมา

ขวัญจิราชะงักฝีเท้า เอ่ยตอบเสียงสั่น “เอ่อ...น้ำผึ้งจะกลับหอพักค่ะ”

“กลับได้ยังไง ผมนัดคุณกินข้าวในวันนี้ คุณจำไม่ได้หรือยังไง” กันต์กวีตะเบ่งถามเสียงดังเอื้อมมือมาจับมือเล็กไว้แน่น

“น้ำผึ้งจำได้ค่ะ แต่น้ำผึ้งไม่เห็นคุณกันต์กวีมาสักที น้ำผึ้งก็เลยนึกว่าคุณลืมน้ำผึ้งไปแล้ว”

“ก็ไม่เห็นมีอะไรให้น่าจดจำนี่” กันต์กวีสวนกลับ พอเห็นใบหน้างามถอดสีเผือด ก็รีบแก้ไขคำพูดของตัวเองเสียใหม่

“ผมติดธุระสำคัญ เลยทำให้มาช้านิดหน่อย”

ขวัญจิรายิ้มเจื่อนๆ ขณะก้มลงมองนาฬิกาของตัวเอง “ไม่นิดหน่อยแล้วค่ะ คุณกันต์กวีมาช้าเกือบสองชั่วโมงค่ะ”

กันต์กวีหน้าตึงเมื่อถูกขวัญจิราตำหนิ เขาถลึงตามองใบหน้างามแล้วบีบมือเล็กเนียนผ่องไว้แน่นขณะเอ่ยถาม

“แล้วทำไมคุณถึงรอผมไม่ได้ คุณต้องการมากินข้าวกับผมไม่ใช่หรือน้ำผึ้ง!”

“ค่ะคุณกันต์กวี แต่น้ำผึ้งรอนานแล้ว และคิดว่าคุณคงไม่มาตามนัด น้ำผึ้งก็เลยจะกลับหอพักนะคะ”

ขวัญจิรานิ่วหน้าด้วยความเจ็บปวดตรงต้นแขน พยายามบิดมือให้พ้นจากการจับกุม

“จะรีบกลับไปทำไม ราตรีนี้ยังอีกยาวไกลนัก” ว่าแล้วกันต์กวีก็กระชากร่างบางระหงให้เดินตรงไปยังรถสปอร์ตของตนเอง

“อยากกินข้าวกับผมจนตัวสั่นไม่ใช่หรือน้ำผึ้ง ไปสิ! ผมจะพาคุณไปกินข้าว ต่อด้วยของหวานถ้วยพิเศษ ที่จะทำให้คุณจำไม่มีวันลืม”

“น้ำผึ้งไม่ไปแล้วค่ะ น้ำผึ้งอยากกลับหอพัก” ขวัญจิราพยายามโก่งตัวหนีไม่เดินตามกันต์กวีง่ายๆ

“แต่ผมยังไม่ต้องการให้คุณไปตอนนี้” กันต์กวีจับร่างบางยัดไปในรถอย่างไม่ปราณีปราศรัย ก่อนจะก้าวขึ้นรถแล้วขับออกไปอย่างรวดเร็ว

“คุณกันต์กวีจะพาน้ำผึ้งไปไหนคะ” ขวัญจิราเอ่ยถามเสียงสั่น จับยึดประตูรถไว้แน่น เมื่ออีกฝ่ายขับรถบนทางด่วนด้วยความเร็วสูง

“ไม่ต้องเรียกว่ากันต์กวีเต็มยศก็ได้ ผมรำคาญ!” กันต์กวีต่อว่าเสียงเข้ม

“เอ่อ...ค่ะ คุณกวีจะพาน้ำผึ้งไปไหนคะ น้ำผึ้งอยากกลับหอพักแล้วค่ะ”

“ได้! ถ้าอยากกลับหอพักนัก ผมก็ไม่ขัดศรัทธา”

ขวัญจิราไม่เข้าใจในคำพูดของกันต์กวี แต่นาทีต่อมาก็ต้องหน้าถอดซีดเผือด เมื่อกันต์กวีจอดรถชิดขอบซ้ายบนทางด่วน จากนั้นก็ก้าวลงจากรถเดินอ้อมมาเปิดประตูรถด้านซ้ายออกกว้าง พร้อมกับกระชากเธอให้ลงจากรถด้วย

“เชิญ! อยากกลับหอพักใช่ไหม เชิญกลับได้เลย”

ขวัญจิราอ้าปากหวอ ออกมายืนอยู่ข้างๆ ถนนด้วยอาการงุนงงไม่ต่างจากไก่ตาแตก ขณะมองตามกันต์กวีซึ่งพอไล่เธอลงจากรถแล้ว ก็เดินกลับไปขึ้นรถแล้วขับออกไปจากบริเวณดังกล่าวอย่างรวดเร็ว

“คุณกวี!”

ขวัญจิราตะโกนเรียก แต่รถสปอร์ตหรูหราก็เคลื่อนตัวออกไปแล้ว หญิงสาวหน้าซีดด้วยความหวาดกลัว เมื่อต้องยืนอยู่คนเดียวบนทางด่วน แต่เมื่อไม่อาจทำอะไรได้ จึงจำต้องพาร่างที่กำลังสะอื้นร้องไห้ก้าวเดินไปข้างหน้าเรื่อยๆ

ทางด้านของกันต์กวีพอขับรถออกมาได้เกือบสิบเมตร ก็ต้องเบรกรถดังสนั่นอีกครั้ง ทุบมือลงไปบนพวงมาลัยด้วยความหงุดหงิดใจ

“นรก! ไม่น่ารับคำท้าไอ้พวกนั้นเลย ให้ตายสิ”

ชายหนุ่มยกมือเสยผมให้ยุ่งเหยิงไปหมด พอเหลือบสายตามองกระจกมองหลัง เห็นรถยนต์คันหนึ่งกำลังจอดข้างถนน ห่างจากขวัญจิราไม่มากนัก ก็รีบถอยรถไปหาขวัญจิราอย่างรวดเร็ว

“คุณครับ มีอะไรให้พวกเราช่วยไหมครับ” หนุ่มสาวคู่หนึ่งลงมาจากรถ แล้วเอ่ยถามขวัญจิราด้วยความเป็นห่วง

ขวัญจิราไม่ทันได้เอ่ยตอบ รถสปอร์ตหรูหราคันเดิมก็ถอยมาจอดห่างจากเธอไม่มากนัก

“ขึ้นรถ!” กันต์กวีตะคอกเสียงห้วน พร้อมกับจับข้อมือเล็กดึงขวัญจิราให้ไปขึ้นรถอีกครั้ง

“คุณครับ ต้องการให้พวกเราช่วยเหลือเรื่องอะไรก็บอกได้นะครับ” พลเมืองดียังคงเดินตามมาเอ่ยถามอีกครั้ง

และกันต์กวีก็หันมาแยกเขี้ยวใส่ก่อนจะเอ่ยตอบแบบมะนาวไม่มีน้ำ “ไม่ต้อง เราทะเลาะกันนิดหน่อย”

“เข้าไปในรถสิ จะยืนบื้ออยู่ทำไม หรืออยากไปกับไอ้หน้าจืดคนนั้น”

กันต์กวีเค้นเสียงด่าให้ได้ยินกันสองคน ส่วนขวัญจิราก็รีบเข้าไปนั่งในรถ เพราะกลัวถูกทิ้งให้อยู่คนเดียวเหมือนเมื่อสักครู่อีก

“ยังอยากกลับหอพักอีกไหม”

ขวัญจิรากัดเม้มริมฝีปากแน่น หันมามองกันต์กวีครู่หนึ่ง แต่ก็ไม่กล้าตอบออกมา

“ผมถามว่าอยากกลับหอพักหรือเปล่า ทำไมไม่ตอบ ไม่ได้เอาปากมาด้วยหรือยังไง”

กันต์กวีตะคอกถามเสียงลั่นรถ หงุดหงิดไปหมดเมื่อไม่ได้รับตอบสนองในสิ่งที่ต้องการ

ขวัญจิราสะดุ้งตกใจ เอ่ยตอบเสียงตะกุกตะกักไม่เต็มเสียงนัก “ยะ...อยากกลับค่ะ”

“ก็เท่านี้ ไม่เห็นยากที่ต้องอ้าปากพูด ทำเป็นนั่งอมพะนำอยู่ได้” กันต์กวีเหน็บแนมเสียงเย็น

“น้ำผึ้งขอโทษค่ะคุณกวี”

“ไม่ต้องขอโทษ ผมไม่อยากได้ยินคำนี้จากปากของคุณ”

ขวัญจิราหน้าเจื่อนน้ำตาซึมเพราะถูกตวาดครั้งแล้วครั้งเล่า หญิงสาวนั่งเงียบจนกระทั่งกันต์กวีขับรถมาถึงคอนโดหรูหราใจกลางเมืองกรุง

“คุณกวีพาน้ำผึ้งมาที่นี่ทำไมคะ”

หญิงสาวเอ่ยถามขณะก้าวลงจากรถ และกันต์กวีก็เอ่ยตอบสั้นๆ ติดห้วนจัดเหมือนเดิม

“มากินข้าว”

กันต์กวีลงจากรถแล้วเดินเข้าไปในล็อบบีของคอนโดหรูหราราคาแพงลิบ ซึ่งมีชื่อบิดามารดาของเขาเป็นเจ้าของคอนโดแห่งนี้

“จะยืนอยู่ตรงนั้นรอให้ รปภ.มารุมโทรมหรือยังไงฮ่ะ!” กันต์กวีตะโกนถาม เมื่อเห็นว่าขวัญจิราไม่ยอมเดิมตามเขามา

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel