บทย่อ
“แหม...เจ้านายขา...อย่าชี้โพรงให้กระรอกสิค่ะ กระรอกตัวนี้ยิ่งต้องการผู้ชายรวยๆ แต่โง่ มาเป็นผัวของเธอ อืม...จะว่าไปแล้วเจ้านายก็เข้าเกณฑ์ที่ว่ารวยล้นฟ้านะคะ แต่เสียดายเจ้านายฉลาดเป็นกรด กระรอกตัวนี้เลยไม่ต้องการเจ้านายสักเท่าไร”
บทที่ 1
“สอบเสร็จแล้วโว้ย!”
“เรียนจบแล้วโว้ย!”
เสียงของนักศึกษาชั้นปีที่ 4 คณะบริหารธุรกิจของมหาวิทยาลัยชื่อดังของรัฐ พากันตะโกนเสียงดังลั่น หลังออกมาจากห้องสอบ เมื่อสอบวิชาสุดท้ายเสร็จสิ้นแล้ว
“สอบเสร็จแล้ว เรียนจบแล้ว คืนนี้ต้องฉลองกันหน่อย”
“เออ...เห็นด้วย คืนนี้ต้องฉลองให้หนัก หลังจากเครียดกับการสอบมาทั้งอาทิตย์”
“คืนนี้กูขอเมาอ้วกแตกสักคืนเถอะวะ”
กลุ่มของนักศึกษาชายหกคน ซึ่งล้วนเป็นลูกคนรวยตระกูลดังทั้งสิ้น ต่างก็พากันนัดแนะ และพูดถึงการเลี้ยงฉลองการสอบเสร็จในค่ำคืนนี้
“ไม่เมา ไม่กลับบ้าน” หนึ่งในหกคนได้วางแผนการเลี้ยงฉลองไว้เสร็จสรรพ กะว่าไม่เมา ไม่ยอมกลับบ้านอย่างแน่นอน
“พูดแล้วก็เปรี้ยวปาก กูอยากไปเที่ยวแล้ววะ” นักศึกษาตาตี๋หรือที่เพื่อนเรียกว่า ปกรณ์ เป็นลูกเจ้าของร้านทองชื่อดังเอ่ยบอกเพื่อนร่วมแก๊ง
“เออ กูก็อยากไปแล้ว ว่าแต่ว่า ไอ้กวีมันยังไม่ออกมาจากห้องสอบอีกหรือวะ หรือว่ามันทำข้อสอบยังไม่เสร็จ”
โกเมท เป็นหนึ่งในแก๊งหนุ่มหล่อและรวยของกลุ่มนี้ เอ่ยถามหาเพื่อนรักของพวกเขา ซึ่งยังไม่โผล่หน้าเข้ามาร่วมแก๊งให้ครบทีมเช่นทุกครั้ง
“มีหรือวะที่คนฉลาดเป็นกรดอย่างไอ้กวีจะยังไม่ออกจากห้องสอบ กูเห็นมันออกจากห้องเป็นคนแรกแล้ว”
ปกรณ์เอ่ยบอกเพื่อนๆ ในแก๊งที่ต่างก็มองหาเพื่อนรักอีกคน ซึ่งเป็นหัวโจกใหญ่ของแก๊ง
“ก่อนเข้าสอบ มันบอกว่าจะไปหาท่านคณบดีหลังจากสอบเสร็จ ป่านนี้มันคงกำลังคุยกับท่านคณบดีอยู่”
เมื่อได้ยินคำตอบจากเพื่อนร่วมแก๊ง ที่รู้ถึงการหายตัวไปของหัวโจกใหญ่ พวกเขาต่างก็พยักหน้ารับรู้ และก่อนพวกเขาจะพูดถึงเพื่อนรักต่อ ทุกคนก็เห็นกลุ่มนักศึกษาสาวคณะเดียวกัน เดินมาทรุดกายลงนั่งบนเก้าอี้หินอ่อนห่างจากพวกเขาไม่กี่เมตร
“พวกมึงเห็นยายแว่นที่นั่งอยู่โต๊ะโน้นหรือเปล่าวะ” โกเมทถามเพื่อนร่วมแก๊ง ดวงตาเต้นระริกเมื่อความคิดบางอย่างผุดขึ้นในหัวสมอง
“เห็น ทำไมวะ หรือว่ามึงสนใจยายแว่นสุดเชย สุดเฉิ่มคนนั้น” ปกรณ์เอ่ยตอบพร้อมกับถามเพื่อนไปในตัว
“เฮ้ย! ไอ้ตี๋ มึงอย่ายัดเยียดยายแว่นคนนี้ให้กู ยายนี่ทั้งเชย ทั้งบ้านนอก ไม่อยู่ในสเปคของกูหรอก” โกเมทด่าเพื่อนรักทันที จากนั้นเอ่ยบอกเพื่อนๆ ต่อ
“พวกมึงรู้ใช่ไหมว่ายายแว่นมันแอบรักไอ้กวีมานานแล้ว”
“เรื่องนี้ใครๆ ก็รู้ ยายแว่นรักไอ้กวีตั้งแต่เธอเรียนปีหนึ่ง”
เพื่อนในแก๊งรีบตอบทันควัน เขามองเป็นเรื่องปกติไปแล้ว เมื่อเพื่อนรักของตนเองซึ่งทั้งหล่อ และรวยจะเป็นที่หมายปองของสาวๆ ในมหาวิทยาลัย
โกเมทมองไปยังหญิงสาวที่กำลังตกเป็นหัวข้อสนทนา พลางยิ้มเยาะตรงมุมปาก ก่อนจะเอ่ยบอกความคิดของตนเอง
“ไหนๆ ยายแว่นก็หลงรักไอ้กวีมานานแล้ว เรามาช่วยกันสงเคราะห์ให้ยายแว่นสมหวังในความรักดีไหมวะ”
“มึงจะเล่นอะไรวะไอ้เมท มึงก็รู้ว่าไอ้กวีมันไม่เคยเห็นยายแว่นอยู่ในสายตาของมันเลย” ปกรณ์ต่อว่าเสียงเข้ม ไม่เข้าใจว่าเพื่อนกำลังคิดอะไรอยู่
“กูรู้ว่าไอ้กวี มันไม่เคยสนใจยายแว่นอยู่แล้ว แต่กูอยากรู้ว่าไอ้กวีมันจะยอมเสียหน้าหรือเปล่า ถ้าหากพวกเราจะเล่นพนันกันเล็กๆ น้อยๆ”
โกเมทกระตุกยิ้มตรงมุมปากอย่างเจ้าเล่ห์ และคำพูดของเขาทำให้เพื่อนๆ ที่เหลือถึงจากหูผึ่งทันที
“จะเล่นพนันแบบไหนดีวะไอ้เมท” เพื่อนร่วมแก๊งเอ่ยถามอย่างใจร้อน คันไม้คันมืออยากเล่นเต็มที
“กูพนันสองแสน ให้พวกมึงทายว่าคืนนี้ไอ้กวีมันจะสามารถหลอกยายแว่นมาเผด็จศึกได้หรือเปล่า”
โกเมทเริ่มเปิดหน้ากระดาษในการเล่นพนัน ที่มีคนสองคนเข้ามาเกี่ยวข้องโดยไม่รู้ตัว
“กูให้สามแสนไปเลย และขอทายว่าไอ้กวีได้เจาะไข่แดงยายแว่นในคืนนี้อย่างแน่นอน” ปกรณ์วางเงินเดิมพนันจำนวนมากโขโดยไม่นึกเสียดาย
“จะมีไข่แดงให้เจาะหรือเปล่าก็ไม่รู้”
เพื่อนคนหนึ่งเอ่ยออกมาอย่างดูถูกหญิงสาว ที่กำลังตกเป็นหัวข้อการเดิมพัน และเพื่อนๆ ที่เหลือก็รีบหัวเราะผสมโรงทันควัน
“ฮ่าๆๆๆ นั่นนะสิวะ จะมีไข่แดงเหลือให้ไอ้กวีมันกินหรือวะ”
“ถ้างั้นกูเทหมดหน้าตักไปเลย กูให้ห้าแสน กูทายว่าไอ้กวีมันไม่ยอมกระเดือกยายแว่นอย่างแน่นอน”
“ฮ่าๆๆ กูเห็นด้วย กูทุ่มหมดตัวให้ไปเลยหนึ่งล้านบาท ว่าไอ้กวีมันไม่ยอมลดตัวไปนอนกับยายแว่นอย่างที่พวกมึงว่า”
โกเมทหัวเราะร่วน เห็นเป็นเรื่องสนุกที่เอาชีวิตของผู้หญิงคนหนึ่งมาพนันขันต่อกับเพื่อนในแก๊ง
“เดี๋ยวก็รู้ว่าใครจะได้เงินไป เพราะตอนนี้ไอ้กวีมันเดินมาโน่นแล้ว” ปกรณ์ชี้ให้เพื่อนทุกคนหันไปมองเพื่อนรัก ที่กำลังก้าวเดินด้วยท่วงท่าองอาจมาหาพวกเขา
กันต์กวี จิณวัตร หรือที่รู้จักในสังคมไฮโซว่า กวี กระตุกยิ้มบางๆ ตรงมุมปากอย่างเย่อหยิ่ง ขณะเดินผ่านกลุ่มของสาวๆ ซึ่งชายหนุ่มรู้ว่าพวกเธอเหล่านี้กำลังมองตามเขาตาปรอย
“พากันหัวเราะเรื่องอะไรวะ เสียงดังลั่นไปถึงห้องคณบดีเลยว่ะ” กันต์กวีสัพยอกเพื่อนๆ ขณะทรุดกายลงนั่งบนม้านั่งตัวยาว
โกเมทยักคิ้วให้เพื่อนร่วมแก๊งอย่างรู้กัน และแทนที่จะตอบคำถามของเพื่อนรัก กลับเป็นฝ่ายเอ่ยถามกันต์กวีแทน
“ไอ้กวี มึงเห็นยายแว่นที่นั่งอยู่โต๊ะโน้นไหมวะ”
กันต์กวีมองตามการบุ้ยปากของเพื่อนแล้วเอ่ยตอบอย่างกวนๆ “เออ เห็น ตากูไม่ได้บอดนี่หว่า ว่าแต่มึงถามทำไมกันวะ”
“มึงรู้ใช่ไหมว่ายายแว่นมันหลงรักมึงตั้งแต่เรียนปีหนึ่งแล้ว” คราวนี้เป็นปกรณ์ที่เอ่ยถามกันต์กวีบ้าง
กันต์กวียักไหล่อย่างทะนงตัว และไม่สนใจหญิงสาวเชยๆ ที่อยู่นอกสายตัวของตนเอง “ยายแว่นแอบหลงรักกูแล้วไงวะ พวกมึงจะสนใจไปทำไม สาวๆ ทั่วทั้งมหาวิทยาลัยก็หลงรักกูทั้งนั้น”
กันต์กวีไม่ได้พูดเกินความเป็นจริง เขาเกิดมาพร้อมทั้งรูปกายอันหล่อเหลา และเพียบพร้อมด้วยทรัพย์สมบัติมากมายอันเป็นคุณสมบัติที่สาวๆ หลายคนหมายปองเป็นที่สุด
“พวกกูรู้ว่าสาวๆ ทั้งมหาวิทยาลัยหลงรักมึงทั้งนั้น และยายแว่นก็เป็นหนึ่งในนั้น ที่รักมึงตั้งแต่ปีหนึ่งยันปีสี่โดยไม่เหลียวสายตามองใครเลย” เพื่อนในแก๊งเอ่ยสนับสนุนคำพูดของกันต์กวี
“และพวกกูก็อยากพนันกันเล็กๆ น้อยๆ เกี่ยวกับมึงและยายแว่น”
กันต์กวีขยับตัวอย่างอึดอัดเมื่อได้ยินโกเมทพูดเช่นนี้ “พวกมึงกำลังจะเล่นอะไรกันวะ”
ปกรณ์กระตุกยิ้มตรงมุมปาก ก่อนจะเป็นฝ่ายเอ่ยตอบแทนเพื่อนคนอื่นๆ “พวกกูกำลังพนันกันสามแสนว่ามึงจะสามารถเจาะไข่แดงหรือไม่แดงของยายแว่นได้หรือเปล่า แต่วงเงินมันเพิ่มมาเป็นห้าแสนว่ามึงจะกล้ากระเดือกยายแว่นหรือเปล่า”
“และกูก็ทุ่มให้หนึ่งล้านว่ามึงไม่มีทางลดตัวไปคั่วกับยายแว่นอย่างแน่นอน”
โกเมทเอ่ยพูดต่อท้ายปกรณ์ จากนั้นเพื่อนในกลุ่มก็เริ่มท้ากันต์กวีให้รับคำท้าของพวกเขา
“ว่ายังไงไอ้กวี มึงรับคำท้าของพวกกูหรือเปล่า ถ้าไม่รับคำท้า ก็จ่ายให้พวกกูมาคนละล้าน เพราะพวกกูลงความเห็นว่ามึงไม่มีทางรับคำท้าอย่างแน่นอน”
กันต์กวีถลึงตาใส่เพื่อนทุกคน เสียเงินนั้นเป็นเรื่องจิ๊บจ๊อยสำหรับเขา แต่การเสียหน้าคือเรื่องใหญ่ที่เขายอมไม่ได้เด็ดขาด!
“ใครบอกพวกมึงว่ากูจะไม่รับคำท้า” กันต์กวีหันไปมองยายแว่นที่ตกเป็นหัวข้อในการพนันขันต่อ จากนั้นก็เอ่ยถามเพื่อนๆ ว่า
“พวกมึงพนันกันหนึ่งล้านใช่ไหมว่ากูจะกล้ากระเดือก และเจาะไข่แดงของยายแว่นได้หรือเปล่า”
“ใช่! หนึ่งล้านสำหรับการเจาะไข่แดงของยายแว่นในคืนนี้” โกเมทย้ำบอกเพื่อนรัก
และปกรณ์ก็รีบเอ่ยเสริมในตอนท้ายทันที “แต่มีข้อแม้ว่ามึงห้ามมอมเหล้ายายแว่น ต้องให้ยายแว่นมีสติครบถ้วนตอนมึงพาเธอไปเจาะไข่แดงบนคอนโด”
“หลักฐานที่มึงจะสามารถเอาเงินหนึ่งล้านจากพวกกูได้ ก็คือวีดีโอคลิประหว่างมึงกำลังเจาะไข่แดงยายแว่น”
เพื่อนในกลุ่มเสนอเงื่อนไข ซึ่งทำเอากันต์กวีร้องห้ามเสียงหลงทันที
“เฮ้ย! ไม่เอาโว้ย กูไม่ใช่พวกโรคจิตที่ชอบถ่ายคลิปเวลามีเซ็กกับสาวๆ”
“ถ้างั้นมึงต้องส่งรูปของยายแว่นตอนเปลือยกาย ไม่มีเสื้อผ้าติดตัวมาให้พวกกูดูเป็นหลักฐาน” โกเมทต่อรองกับเพื่อนรัก ยังมองไม่ออกว่าเกมนี้ใครจะเป็นผู้ชนะ ใครจะเป็นผู้แพ้กันแน่
กันต์กวีตีสีหน้าไม่สบายใจให้เห็นครู่หนึ่ง เพราะถึงแม้จะเป็นเพลย์บอย เปลี่ยนคู่นอนไม่ซ้ำหน้า แต่เขาก็ไม่ชอบถ่ายภาพหรือถ่ายคลิปเก็บไว้เวลามีสัมพันธ์สวาทกับพวกสาวๆ
“ก็ได้วะ ตกลงตามนี้ คืนพรุ่งนี้พวกมึงเตรียมเช็คเงินสดหนึ่งล้านไว้รอได้เลย”
กันต์กวีตอบตกลงในที่สุด จากนั้นก็ยื่นมือไปข้างหน้ารอเพื่อนๆ ทั้งหกคนยื่นมาจับมือเขา เพื่อทำสัญญาการเล่นพนันในคืนนี้
“ไม่มีปัญหา” โกเมทตอบเสียงเข้ม ยื่นมือไปจับมือใหญ่ของเพื่อนรัก ก่อนจะเอ่ยพูดต่อ “ทันทีที่ได้รับภาพถ่ายจากมึง พวกกูจะเอาเช็คเงินสดหนึ่งล้านไปให้มึงถึงคอนโด”
“และวันรุ่งขึ้นมึงก็สามารถขึ้นเงินได้เลย”
เพื่อนในแก๊งเอ่ยตอบต่อท้ายโกเมท จากนั้นเพื่อนๆ ที่เหลือรวมทั้งปกรณ์ก็ยื่นมือมาจับมือของกันต์กวีเพื่อเป็นการทำสัญญาในการเล่นพนันในครั้งนี้
กันต์กวีกระตุกยิ้มตรงมุมปาก นัยน์ตาคมกริบเผยแววเจ้าเล่ห์ ขณะเอ่ยพูดออกมา “ดีชะมัด ได้นอนกับผู้หญิงฟรีๆ แล้วยังมีเงินหกล้านแถมมาให้อีก”
“เฮ้ย! อย่าเพิ่งมั่นใจไปว่าจะได้เงินหกล้านไปนอนกอดฟรีๆ เพราะตอนนี้มึงยังไม่ได้คุยกับยายแว่นแม้แต่คำเดียว แล้วมึงจะทำยังไงให้ยายแว่นติดกับดักของมึง”
โกเมทค้านออกมา อยากรู้เหมือนกันว่าเพื่อนรักจะงัดเล่ห์เหลี่ยมใดออกมาหลอกล่อให้ยายแว่นติดกับดักได้
กันต์กวีจ้องมองหญิงสาวที่กำลังจะตกเป็นเหยื่อของตนเองเขม็ง รอยยิ้มมาดร้ายผุดขึ้นบนใบหน้าหล่อเหลา ก่อนจะเอ่ยตอบออกมา
“เรื่องนี้ไม่ใช่ปัญหาใหญ่สำหรับผู้ชายที่ชื่อกันต์กวี” เอ่ยตอบไปแล้ว ชายหนุ่มก็กระตุกยิ้มตรงมุมปาก ยักคิ้วให้เพื่อนๆ ทั้งหกคน ก่อนจะเอ่ยพนันขันต่ออีกรอบ
“พนันห้าหมื่น ว่ายายแว่นต้องตอบตกลงรับคำเชิญการเสียตัวภายในห้านาที”
“ตกลง พวกกูรับคำท้า” เพื่อนๆ ทั้งหกคนเอ่ยตอบแทบจะพร้อมๆ กัน
“ว่าแต่ยายแว่นชื่ออะไรวะ มีใครรู้จักชื่อจริงเธอบ้างไหม” กันต์กวีเอ่ยถาม พอเพื่อนๆ ทุกคนส่ายหน้าปฏิเสธ ก็โบกมือว่อน ก่อนจะผุดลุกขึ้นอย่างรวดเร็ว
“ไม่เป็นไร เรื่องชื่อไม่สำคัญเท่าไร แค่นี้กูจัดการได้”
ว่าแล้วก็ก้าวเดินช้าๆ ทว่ามั่นคงตรงไปหาหญิงสาวที่พวกเขาเรียกว่ายายแว่น ซึ่งกำลังผุดลุกขึ้นเดินออกจากบริเวณที่กำลังนั่งอยู่เช่นเดียวกัน