บทที่ 4 (2)
ขณะออกปากสั่ง นางเอกสาวก็หยิบบุหรี่มาสูบ เพื่อเป็นการฆ่าเวลาขณะรอให้ไฮโซหนุ่มมารับเธอไปที่สนามบิน
“คุณลิลลี่จะไปเมืองนอนกี่วันคะ”
พิมพ์นาราเอ่ยถามพร้อมกับก้มหน้าก้มตาลากกระเป๋าเดินทางใบใหญ่ถึงสามใบไปไว้ที่ห้องนั่งเล่นตามคำสั่งของอีกฝ่าย
“ทำไมนังพิม แกจะอยากรู้ไปทำไม”
ลลินเดินตามทาสรับใช้ส่วนตัวมาที่ห้องนั่งเล่น จากนั้นก็ทิ้งตัวลงนั่งไขว่ห้าง โดยไม่สนใจว่ากระโปรงที่สั้นจู๋จะร่นขึ้นเปิดให้เห็นถึงไหนต่อไหน
พิมพ์นาราซ่อนแววตา ความคิดของตนเองไว้ภายใต้ใบหน้าที่เรียบเฉย เธอจะไม่ยอมให้อีกฝ่ายรู้เป็นอันขาดว่าเธอกำลังคิดการใดอยู่
“พิมแค่อยากรู้ว่าคุณลิลลี่จะกลับวันไหน พิมจะได้มาจากบ้านของคุณหญิงถูกนะคะ”
ลลิลยิ้มหยันตรงมุมปาก ก่อนจะเอ่ยตอบให้อีกฝ่ายได้อิจฉา “ฉันจะไปทัวร์ยุโรปสองอาทิตย์ ไปซ้อมฮันนีมูนกับคุณรังสิมันต์ แกอิจฉาฉันไหมนังพิม ที่มีแต่ผู้ชายดีๆ วิ่งเข้ามาในชีวิตของฉันตลอด”
พิมพ์นารายิ้มหวาน ตีสีหน้าใสซื่อ ขณะเอ่ยตอบราวกับเจียมเนื้อเจียมตัวหนักหนา “พิมไม่กล้าอิจฉาคุณลิลลี่หรอกค่ะ พิมรู้ดีว่าตัวเองเป็นใคร คุณลิลลี่เป็นใคร”
“ดี! จำใส่หัวสมองเน่าๆ ของแกไว้ก็ดีว่าฉันเป็นใคร แล้วอย่าคิดสะเออะทำตัวเทียบเท่ากับดาวประดับฟ้าอย่างฉัน ช่วงที่ฉันไปยุโรปก็กลับไปช่วยงานที่บ้าน อย่าให้ฉันรู้เป็นอันขาดว่าแกแอบอยู่ที่นี่”
ลลินสั่งกำชับกำชาให้คนที่นั่งอยู่แทบเท้าได้กลับไปช่วยงานที่บ้านของเธอ จริงๆ แล้วที่บ้านของคุณพ่อคุณแม่เธอมีคนใช้หลายคนแล้ว แต่ที่เธอต้องการให้พิมพ์นาราไปอยู่ที่นั่นระหว่างที่เธอไปทัวร์ยุโรป เพราะไม่วางใจให้อีกฝ่ายอยู่เฝ้าโยงที่คอนโด เดี๋ยววันดีคืนร้ายจะมีพวกโมโดลลิ่งมาติดต่อให้พิมพ์นาราไปเป็นนางแบบให้ จะทำให้เธอไม่มีคนคอยรองมือรองตีนอีก มีหลายครั้งที่พวกโมโดลลิ่งได้มาติดต่อเธอ ว่าอยากให้พิมพ์นาราเดินแบบให้ ซึ่งพวกคนเหล่านั้นต่างก็ยืนกรานเป็นเสียงเดียวกันว่าหากพิมพ์นาราได้เข้าสู่วงการบันเทิงจะต้องดังยิ่งกว่าพลุแตก ซึ่งเธอจะไม่ยอมให้เป็นเช่นนั้นแน่นอน พิมพ์นาราจะเป็นดาวประดับฟ้าไม่ได้ นอกจากการเป็นขี้ข้าให้กับเธอแค่เพียงอย่างเดียว
พิมพ์นาราหยิบรองเท้าส้นสูงมาวางไว้ใกล้ๆ เท้าเล็กที่เคลือบเล็บสีแดงแป๊ด จากนั้นก็เอ่ยตอบอย่างต้องการเอาใจอีกฝ่าย
“เดี๋ยวพอคุณลิลลี่ไปขึ้นเครื่องบิน พิมก็จะนั่งแท็กซี่ไปที่บ้านค่ะ”
ลลินยิ้มเยาะตรงมุมปาก หรี่ดวงตามองคนที่ก้มหน้าก้มตาใส่รองเท้าให้เธอ ก่อนจะเอ่ยถามอย่างเยาะหยันแกมสงสัย
“นังพิม ทำไมพักหลังๆ มานี่ แกถึงได้พูดง่าย ไม่เถียงฉันสักคำ”
“พิมต้องขอโทษด้วยค่ะ ที่ผ่านๆ พิมอาจจะดื้อ อาจจะเถียงคุณลิลลี่บ้าง แต่เมื่อหลายคืนที่ผ่านมาพิมนอนคิดได้ว่าหากไม่มีคุณหญิง ไม่มีท่านนายพลและคุณลิลลี่ที่คอยเลี้ยงดูพิมมาตลอด พิมก็คงไม่ได้เติบโตเป็นพิมพ์นาราเหมือนทุกวันนี้ พิมเลยคิดว่าตนเองต้องทำทุกอย่างเพื่อเป็นการทดแทนบุญคุณครอบครัวของคุณลิลลี่”
ขณะเอ่ยบอกด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา พิมพ์นาราก็แกล้งตีหน้าเศร้า บีบน้ำตาให้เอ่อคลอเบ้าเหมือนเวลาที่นางเอกสาวเล่นละครให้ประชาชนทั้งประเทศได้สงสาร
ลลินถึงกับสะดุ้งเฮือก รู้สึกสะกิดใจตรงคำพูดของอีกฝ่ายที่บอกว่าจะ ‘ทำทุกอย่าง’ เพื่อเป็นการตอบแทนบุญคุณพวกเธอ ประโยคท้ายของพิมพ์นาราฟังดูทะแม่งๆ แถมน้ำเสียงก็เย็นยะเยือก จนเธอรู้สึกอึดอัดเสียวสันหลังวาบราวกับว่าอีกฝ่ายไม่ได้ตั้งใจทำตามถ้อยวาจาที่ได้เอ่ยออกมา
“นังพิม ทำไมฉันรู้สึก...”
“ลิลลี่ครับ ไปกันหรือยังครับ”
ลลินไม่ทันได้เอ่ยถามในสิ่งที่ตนเองสงสัย รังสิมันต์ไฮโซหนุ่มก็เปิดประตูห้องเข้ามาขัดจังหวะ ทำเอาลลินลืมไปเสียสิ้นว่ากำลังจะถามพิมพ์นาราด้วยเรื่องอะไร เพราะทันทีที่เห็นคู่ควงหนุ่มเจ้าสำอางลีลารักเป็นเลิศ หญิงสาวก็ลืมทุกสิ่งทุกอย่าง นอกจากไฮโซหนุ่มที่ยืนยิ้มกรุ่มกริ่มอยู่ตรงหน้า
“ไปกันเถอะค่ะคุณรังสิมันต์ ลิลลี่พร้อมแล้ว ลิลลี่อยากไปเที่ยวยุโรปกับคุณจนแทบทนรอเวลาไม่ไหว”
นางเอกสาวเอ่ยบอกเสียงหวาน พร้อมกับเบียดเนินเนื้ออวบอิ่มเข้าหาร่างใหญ่ของคู่ควง แล้วกดจูบอีกฝ่ายก่อนโดยไม่สนใจบุคคลที่สามอย่างพิมพ์นารา
‘เห็นแบบนี้บ่อยๆ เข้า สงสัยได้เป็นตากุ้งยิงแน่เรา’
พิมพ์นาราลอบส่ายหน้าแล้วพึมพำคนเดียวอยู่ในใจ เรื่องฉอเลาะออดอ้อนเอาใจบุรุษเพศ ลลินเป็นหนึ่งไม่เคยเป็นรองใคร ผู้ชายทุกคนที่หลงเข้ามาในบ่วงของเธอมักจะหลงเธอจนโงหัวไม่ขึ้น แต่สุดท้ายพวกเขาเหล่านั้นก็จะถูกนางเอกสาวเขี่ยทิ้ง เมื่อเธอหาผู้ชายคนใหม่ที่หล่อ รวย และสดได้กว่าคนเดิม
“เดี๋ยวพิมยกกระเป๋าไปไว้ที่รถก่อนนะคะ”
พิมพ์นาราเอ่ยบอกโดยไม่ได้หันไปมองคนทั้งสอง เพราะไม่อยากเห็นภาพอุจาดตา ซึ่งเธอมั่นใจว่าทั้งสองคนคงกำลังล้วงกำลังคลำกันอย่างถึงพริกถึงขิง
พิมพ์นารายืนรออยู่ข้างรถเบนซ์เกือบสามสิบนาที จึงได้เห็นร่างของลลินในสภาพที่ไม่ค่อยเรียบร้อยเท่าไรเดินออกมาจากลิฟต์พร้อมกับคู่ควงคนล่าสุด
“เที่ยวให้สนุกนะคะคุณลิลลี่” พิมพ์นารายิ้มตรงมุมปาก พร้อมกับอวยพรให้คนที่กำลังเดินไปขึ้นรถ
“อย่าลืมที่ฉันสั่งนะนังพิม เก็บกระเป๋าเสร็จแล้ว แกรีบไปหาคุณแม่ที่บ้านทันที” ลลินสั่งกำชับอีกครั้ง เธอจะขัดขวางทุกวิธีทาง ไม่ให้พิมพ์นาราได้ผงาดอยู่บนเส้นทางแห่งโลกมายา
“ไม่ลืมแน่นอนค่ะคุณลิลลี่ เดี๋ยวอีกชั่วโมงคุณลิลลี่โทรไปเช็กได้เลยว่าพิมถึงบ้านหรือยัง”
พิมพ์นาราเหยียดยิ้ม เมื่อรถเบนซ์ได้เคลื่อนตัวออกไปอย่างช้าๆ หญิงสาวจ้องมองตามรถคันงามจนลับสายตา ทำไมจะไม่รู้ว่าเพราะเหตุใดลลินจึงกำชับให้เธอรีบไปที่บ้านของคุณหญิงลินดา ลลินกลัวว่าจะมีโมโดลลิ่งมาติดต่อให้เธอไปเป็นดารา นางแบบเทียบรัศมีแข่งกัน ซึ่งหากเธอมีโอกาสได้เดินทางบนโลกมายา รับรองว่าดังไม่แพ้ลลินอย่างแน่นอน
“เสพสุขให้พอนะคะคุณลลิน ต่อไปคุณต้องพบกับความทุกข์เหมือนที่พิมเจอมาบ้าง ยี่สิบสองปี มันมากเกินพอ ที่พิมได้ทดแทนบุญคุณให้กับครอบครัวของพวกคุณ”
พิมพ์นาราเอ่ยตามหลังด้วยน้ำเสียงแข็งกร้าว ก่อนจะหมุนตัวเดินกลับเข้าไปในลิฟต์เรียกให้ไปส่งเธอที่ห้องชุดสุดหรูของนางเอกสาว
คล้อยหลังจากพิมพ์นาราขึ้นไปบนห้องแค่ไม่กี่สิบนาที ปาเจโรแบบสปอร์ตสีดำสนิทก็ตีวงมาจอดอยู่หน้าคอนโดหรูหราราคาแพงหูฉี่
นายหัวราเมศวร์ก้าวลงจากรถด้วยท่วงท่าองอาจผึ่งผาย สูทสากลสีดำสนิท กอปรกับแว่นตาดำที่สวมใส่ส่งให้ร่างกำยำดูหล่อเหลายิ่งนัก วันนี้เขาจำเป็นต้องสลัดคราบของนายหัวแห่งเกาะโกลด์ ออฟ เดอะ ซี มาเป็นนักธุรกิจหนุ่มที่ดูน่าเกรงขามยิ่งนัก เพื่อให้การทำงานในครั้งนี้สะดวกขึ้น เพราะหากเขาและกวินต์มาด้วยชุดเสื้อเชิ้ตลายหมากรุก กางเกงยีนส์ เหมือนที่ใส่ทำงานอยู่ทุกวันขณะอยู่ที่เกาะ ก็คงไม่ได้รับการต้อนรับขับสู้อย่างดีจากเจ้าหน้าที่ รปภ.ในคอนโด
นอกจากการแต่งตัวดูภูมิฐานที่จะเป็นใบเบิกทางให้ได้อย่างดีแล้ว ธนบัตรสีเทาจำนวนสามใบที่ถูกยัดใส่ไปในมือของ รปภ. ก็เป็นใบเบิกทางชั้นยอด ที่จะทำให้นายหัวราเมศวร์และกวินต์ได้ขึ้นลิฟต์ไปที่ห้องของนางเอกสาวโดยที่ไม่มีใครมาทักท้วง
พิมพ์นารามองกระเป๋าใส่สัมภาระขนาดย่อมที่ถือในมือ ก่อนจะยิ้มเยาะเมื่อนึกถึงคำสั่งที่สั่งกำชับกำชาของนางเอกสาว
“ฮึ! สั่งนักสั่งหนาให้เราไปเป็นขี้ข้าที่บ้านของตัวเอง เสียใจด้วยนะคุณลลิน พิมพ์นาราจะไม่อยู่เป็นเบี้ยล่างให้กับคุณอีกแล้ว”
หญิงสาวก้มลงมองสิ่งที่อยู่ในมือ ซึ่งกุมความลับเรื่องชั่วๆ ของครอบครัวคุณหญิงลินดาไว้ในนี้ทั้งหมด ก่อนจะพึมพำออกมาด้วยความเจ็บแค้นเพราะถูกโขกสับมานาน
“กลับมาจากทัวร์ยุโรปเมื่อไร ได้ดังสมใจอยากแน่...คุณลลิน”
ก๊อก...ก๊อก...
ประตูห้องที่ถูกเคาะค่อนข้างดัง ทำเอาพิมพ์นาราสะดุ้งเฮือก รีบเก็บยูเอสบีแฟลชไดรฟ์ไว้ในกระเป๋ากางเกง ก่อนจะเดินไปเปิดประตูห้อง โดยไม่เฉลียวใจสักนิดว่าผู้พิพากษาศาลเตี้ยได้เดินทางมาเยี่ยมเยียนตนเองแล้ว