8 ลูกแต่ละคน
คุณวัฒนาทำเสียงตื่น เมื่อรู้ถึงความคิดของภรรยาที่จะจัดการกับลูกเขยจอมเจ้าชู้ทั้งสอง ฟ้าวลัยอมยิ้ม อยากจะหัวเราะแต่ไม่กล้า
“ไม่โหดหรอก ในเมื่อชอบทางนี้ หยุดไม่ได้ ทำให้เมียเสียใจบ่อย ๆ ตัดมันทิ้งซะจะได้หมดปัญหา”
“ผมว่ายายสองคนนั่นคงไม่ยอมหรอก เดี๋ยวไม่มีของใช้”
“บ้า คุณเนี่ย แก่แล้วทะลึ่ง ฟ้าอย่าฟังนะลูก มาทานข้าวกันดีกว่า”
คุณเฟื่องฟ้าระคายหูต่อคำพูดของสามีที่สุด กลัวบุตรสาวคนเล็กจะอาย รีบชวนรับประทานอาหารทันที ฟ้าวลัยเข้าใจดี วางมือจากงานแล้วมาร่วมโต๊ะกับผู้ให้กำเนิดทั้งสอง ดูแลเอาใจใส่เป็นอย่างดี คุณวัฒนาได้แต่ชมลูกสาวในใจว่าเป็นกุลสตรี ใครได้แต่งงานด้วยจะเป็นผู้ชายโชคดีที่สุด
ต่างจากบุตรสาวคนโตและคนรอง ทำอะไรไม่เป็น นอกจากแต่งตัวสวย ใช้เงินเก่ง นอนตื่นสาย ขี้หึงอย่างไร้เหตุผล นี่ก็คือสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ลูกเขยแอบไปมีผู้หญิงนอกบ้าน
“ทำแต่งานทุกวันแบบนี้แล้วจะหาแฟนได้หรือ”
“แม่ ฟ้าไม่เคยคิดเรื่องนี้เลยค่ะ”
หญิงสาวท้วงขึ้นอย่างอาย ๆ ช้อนที่อยู่ในมือแทบพลัดตกลงไป จากคำบอกเล่าของเพื่อนที่ว่า มีแฟนแล้วจะต้องอยู่ชิดใกล้ คอยเอาอกเอาใจ ยอมให้กอดจูบหรือมีความสัมพันธ์ลึกซึ้ง หากไม่ทำอย่างนี้กลัวว่าเขาจะปันใจให้ผู้หญิงอื่น เธอรับฟังแล้วรู้สึกอาย หากว่ามีคนรักจริง ๆ คงไม่ยอมให้ล่วงล้ำขนาดนั้น
“ควรคิดได้แล้วนะ อายุเราก็เพิ่มขึ้นทุกวัน แต่ก็ต้องมองหาผู้ชายดี ๆ อย่าให้เหมือนพี่เขยสองคนนั่นทำให้คนเป็นเมียน้ำตาตก”
“คุณเฟื่องฟ้า อย่าเพิ่งเร่งรัดลูกเลยน่า อยู่กับเราไปนาน ๆ ก็ดีเหมือนกัน แหม อาหารวันนี้ถูกปากไปหมด ฝีมือเราใช่ไหม”
ถามบุตรสาวคนเล็กที่นั่งตรงกันข้าม ฟ้าวลัยรับปากเบา ๆ ก่อนที่จะก้มหน้าก้มตารับประทานอาหารเงียบ ๆ คุณเฟื่องฟ้ามองด้วยความรัก ลูกสาวคนนี้แตกต่างจากพี่สาวทั้งสอง เรียบร้อย สวย น่ารัก คล่องแคล่ว เก่งทั้งงานบ้าน งานหาเงิน ได้แต่ภาวนาให้เจอผู้ชายที่ดี
อย่าเหมือนลูกเขยทั้งสอง เห็นผู้หญิงเป็นของหวาน แอบรับประทานครั้งแล้วครั้งเล่า
ของหวานกับผลไม้สดนำมาเสิร์ฟเป็นลำดับสุดท้าย ยังไม่ทันจะรับประทาน แพรวพาเรือนร่างค่อนข้างอวบ ผิวขาว ผมหยิกดัดฟูสีหน้าตื่นเข้ามา มือทั้งสองข้างเกาะขอบโต๊ะอาหาร มองหน้าคุณวัฒนากับคุณเฟื่องฟ้าสลับกันไปมา ดวงตาของเธอนั้นแดงก่ำ ฉ่ำด้วยหยาดน้ำใส ริมฝีปากอวบขยับส่งเสียงสั่น ๆ ราวกับจมอยู่กับความทุกข์ตลอดเวลา
“พ่อ แม่ เห็นกิตติไหมคะ”
“อะไรของแก ยายแพรว ในเมื่อเป็นผัวตัวเองนอนห้องเดียวกันแท้ ๆ แต่ไม่รู้ว่าหายไปไหนแล้วคนนอกอย่างพ่อ แม่จะเห็นได้ยังไงล่ะ”
“พ่อ ตั้งแต่เมื่อคืนเขายังไม่กลับเข้าบ้านเลย โทรเข้ามือถือก็ปิดเครื่อง หนูนอนไม่หลับเลยกลัวว่าจะได้รับอันตราย ทำไมเขาไม่ติดต่อกลับมาหาหนูล่ะคะ”
“อ้าว อย่างนี้ก็แย่สิ ไปกับดำรงหรือเปล่า สองคนนี่ชอบไปเที่ยวด้วยกันบ่อย ๆ ลองไปถามยายพรพรรณดูซิ ตื่นหรือยังก็ไม่รู้”
“ถามแล้วค่ะ ดำรงกลับมาตอนตีสอง บอกว่าแยกกันหน้าร้านอาหาร แต่ผัวหนูมันหายไป ไม่รู้ว่าเป็นอะไรหรือเปล่า”
แพรวท่าทางจะเป็นจะตายให้ได้ เมื่อรู้ว่าสามีของตัวเองไม่กลับบ้าน เป็นห่วงกลัวว่าจะได้รับอันตรายหรือไม่ก็อยู่กับผู้หญิงที่จ้องจับ ถ้าเป็นอย่างนั้นจริง ๆ เธอจะทำอย่างไรเพราะไม่สามารถติดต่อได้เพราะกิตติแอบหนีออกไปเที่ยวในขณะที่เธอหลับไปแล้ว เมื่อตื่นขึ้นมารู้ว่าไม่อยู่ พยายามติดต่อทางโทรศัพท์แต่ไม่ได้ผล เดินพล่านทั้งคืนนอนไม่หลับจนกระทั่งตอนนี้แปดโมงกว่า
สามีไม่กลับ หายเงียบเข้ากลีบเมฆไปอย่างนี้เธอทำอะไรไม่ถูก ครุ่นคิด โกรธ ร้องไห้เหมือนคนบ้า เมื่อหมดหนทางที่จะตามหากิตติ นึกถึงดำรงสามีของน้องสาวคนรองซึ่งเป็นคู่หูนักเที่ยวด้วยกัน แต่เขาไม่สามารถให้รายละเอียดอะไรได้
“มันจะเป็นอะไร แม่ว่าป่านนี้นอนอยู่ห้องผู้หญิงไปแล้วมั้ง อย่าคิดมากเลยกิตติเป็นอย่างนี้ตั้งนานแล้ว ใช่ว่าจะเพิ่งเป็นเสียเมื่อไหร่ล่ะ”
“แม่ ทำไมพูดอย่างนั้นล่ะ ผัวหนูชอบเที่ยวก็จริง แต่ไม่เคยยุ่งเกี่ยวกับผู้หญิงคนไหนหรอกนะ เค้ากลับบ้านทุกครั้ง”
“กลับทุกครั้งเกือบสว่างหรือไม่ก็รุ่งขึ้นของอีกวัน แพรวในเมื่อเลือกแล้วก็ต้องยอมรับความเป็นจริง แม่บอกแล้วไม่ใช่หรือว่าคบกับผู้ชายนักเที่ยวตามผับนะ มันยากที่จะเปลี่ยนนิสัย”