6 คุณสมบัติไม่ผ่าน
คุณเติมศักดิ์ได้แต่เอ่ยในใจเท่านั้น เพียงแค่คุณสมบัติก็ไม่ผ่านตะวันแล้ว เมื่อรู้ว่างานบ้านงานเรือนไม่เป็นอย่างนี้ คุณวรรณพรเช่นกันถึงกับคิดหนักเพราะต้องการลูกสะใภ้เก่งทุกอย่าง ใช่ว่ารวยแล้วจะไม่หยิบจับอะไรเลย คุณวรรณพรหันมาสบตากับเขา เห็นถึงแววผิดหวังปรากฏอยู่ หญิงสาวคนนี้หมดสิทธิ์ร่วมใช้นามสกุล แต่ก็ยังปากหวานให้สองพ่อลูกสบายใจ
“ผู้หญิงสมัยใหม่ ส่วนใหญ่ก็เป็นอย่างนี้ทั้งนั้นแหละค่ะ ทำงานหาเงินอย่างเดียว คุ้มกว่าการทำงานบ้านใช่ไหมคะ”
“ความจริงผมก็อยากให้ลูกเก่งทุกอย่าง แต่เขาก็บอกว่าไม่ชอบงานบ้าน ผมก็ไม่อยากขัดหรอกครับ อยากทำอะไรก็ตามสะดวก”
“ค่ะ แน่ะ เจ้าลูกชายมาแล้ว มาทางนี้เลยตะวัน รู้จักคุณลุงเฉลิมเพื่อนรุ่นพี่ของแม่สมัยเรียนมหาวิทยาลัยแล้วนั่นหนูชมพูลูกสาว เพิ่งเรียนจบมาจากเซี่ยงไฮ้”
กลิ่นน้ำหอมแบบผู้ชายโชยมาก่อนตัวจะปรากฏ คุณวรรณพรรู้ดีว่าเป็นลูกชายตัวแสบ หันไปมองเห็นว่าเขาหล่อเริดในชุดเสื้อเชิ้ตสีโอลด์โรสแขนยาว พับแขนอยู่เหนือข้อศอกกับกางเกงขายาวสีดำทรงตรง ใบหน้าเกลี้ยงเนียนแต่เข้มด้วยคิ้วดำตัดกับผิวขาว จมูกโด่งเป็นสันราวกับคนยุโรป ดวงตาใหญ่ยาวรีมีอำนาจประหลาด ชมพูเห็นแล้วร้อนวาบไปทั้งกาย ใจสะท้านขึ้นมาอย่างไม่ทราบสาเหตุ ดวงตาคู่นี้ร้ายกาจนักสะกดให้เธอก้มหน้านิ่ง ไม่กล้าประสานสายตาด้วย
ริมฝีปากหยักได้รูปนั่นอีกล่ะยิ้มนิด ๆ ช่างมีพิษร้ายแรงนัก กรีดลึกเข้าไปในหัวใจ ร้อนไปถึงช่องท้อง เกิดมาเพิ่งรู้ว่าผู้ชายคนนี้หล่อที่สุด
“สวัสดีครับคุณลุงเฉลิม คุณชมพู ผมคงพูดไม่ผิดใช่ไหม คุณชมพูทานอะไรหรือยัง นี่ก็จวนได้เวลาอาหารเที่ยงแล้วนะ”
“ไม่เป็นไรค่ะ ชมพูรอทานพร้อมกับทุกคน”
“แต่ผมหิวแล้ว อาหารเช้ายังไม่ตกถึงท้องเลย เด็ก ๆ จัดอาหารมาได้เลย คุณลุงเฉลิมจะรับวิสกี้ไหมครับ ผมจัดการให้”
“โอ ไม่ล่ะหลานชาย แหม คล่องไปหมดเลย สมแล้วที่ทำธุรกิจค้าที่ดิน คนแบบนี้ใครเห็นก็อยากเข้ามาทำความรู้จัก”
“ขอบคุณครับ แน่ะ อาหารมาแล้ว วันนี้เน้นจืดกับรสกลาง ๆ ผมรู้ว่าคุณชมพูคงยังไม่ค่อยคุ้นกับอาหารไทยสักเท่าไหร่”
ตะวันกระแนะกระแหนไปในตัวว่าเป็นคนไม่อาจรับสภาพเข้ากับประเทศตนเอง เคยอยู่อย่างไร รับประทานแบบไหนก็ทำเหมือนเดิม คนที่อยู่ใกล้ต่างอึดอัด ผู้หญิงแบบนี้นะหรือที่จะให้มาเป็นภรรยา ฝันไปเถอะ ไม่อยู่ในสายตาแม้แต่น้อย
เรียบร้อย พูดน้อยก็จริง แต่จืดชืดไร้เสน่ห์ หากว่ามีเหตุต้องครองคู่กันเพียงแค่คืนแรกเจอบทรักของเขาเข้าไปคงเผ่นแนบแล้ว
“ลูกสาวลุงยังอยู่ในช่วงปรับตัว ต้องรอสักพัก”
“นั่นสิครับ ถ้าหากว่าปรับตัวได้จะรู้ว่าเดี๋ยวนี้อาหารไทยรสชาติดีมาก เชิญครับ ผมขออนุญาตเพราะใช้พลังงานไปเยอะ”
“ตะวัน เบา ๆ ก็ได้ มีแขกนะลูก”
“ไม่เป็นไรครับคุณวรรณพร ผมชอบคนที่แสดงตัวตนออกมาให้รู้ว่าเป็นยังไง ดีกว่าปกปิดเอาไว้ ให้เห็นแต่สิ่งดี ๆ ซ่อนส่วนที่เสียเอาไว้ มารู้อีกทีก็เสียความรู้สึกกันเปล่า ๆ”
“ผมก็เป็นแบบนี้ตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้วครับ ตรง ๆ ชอบเอนเตอร์เทนชาวบ้านให้มีความสุข โดยเฉพาะผู้หญิง”
ตะวันบอกนิสัยตัวเองให้รู้ไปเลยว่าชอบเอาใจใส่ผู้หญิงทุกคนที่อยู่ด้วย คุณเฉลิมชะงักมือตักเต้าหู้น้ำแดง หันไปมองบุตรสาวเห็นว่านิ่งเช่นเคย เก็บความรู้สึกเอาไว้เพราะเธอไม่ชอบผู้ชายเจ้าชู้ แต่เขาก็พอที่จะแยกแยะออกว่า คนเจ้าเสน่ห์กับเจ้าชู้เป็นอย่างไร
จากที่เห็นตะวันคอยดูแลเขา ลูกสาวและพ่อแม่ ค่อยโล่งใจว่าคงทำดีกับทุกคน
หลังจากรับประทานอาหารมื้อเที่ยงจบลง ทุกคนยังคงสนทนาอยู่ในห้องรับแขก ชมพูยังคงวางหน้านิ่งเฉย ถามคำตอบคำ ไม่แสดงความคิดเห็นใด ๆ ทั้งสิ้น กลายเป็นคนน่าเบื่อ ตะวันเริ่มหงุดหงิด ทำท่าจะออกไปนอกบ้าน คุณวรรณพรเห็นดังนั้นดึงมือเข้าไปในห้องเล็ก
“ท่าทางรน ๆ แบบนี้จะออกไปไหนอีกล่ะ”
“ไปหาอะไรตื่นเต้นทำหน่อย”
“ไม่ได้นะ มีแขกต้องดูแลเค้า”
“โอแม่เจ้า แต่แขกของแม่จืดชืดมากเลยนะครับ ผู้หญิงอะไรไม่รู้ไร้เสน่ห์ คงไม่ไหวหากว่าจะให้ใช้ชีวิตอยู่ด้วย ตายพอดี”
“พูดเบา ๆ เดี๋ยวหนูชมพูได้ยินจะเสียใจ”
คนเป็นมารดาท้วงเสียงเขียว ยกฝ่ามือข้างหนึ่งปิดปากเอาไว้ ไม่ให้ส่งเสียงออกมา แต่เจ้าลูกชายตัวแสบกลับดึงออกแล้วทิ้งน้ำหนักตัวลงไปบนเก้าอี้ตัวนุ่มหนา คิ้วเข้มขมวดมุ่นเข้าหากัน หันไปมองทางห้องรับแขก ทำท่าสยองขวัญ