27 ตะวันจะจีบฟ้าวลัย
“ครบแล้วใช่ไหมครับ”
“ค่ะ ครบแล้ว เราจะให้เด็กเอาไปส่งให้ที่รถนะคะ”
“ขอบคุณครับ ผมมาแท็กซี่จอดรออยู่ตรงโน้น เอ่อ คุณชื่ออะไรครับเผื่อว่าคุณวรรณพรถาม ผมจะได้บอกถูก”
“ฟ้า ฟ้าวลัยค่ะ”
“ผมตะวันครับ ขอบคุณจริง ๆ ยินดีที่ได้รู้จัก”
เขาหยอดทิ้งท้ายด้วยคำหวาน ๆ ตามด้วยสายตาคมกริบจ้องนิ่ง ๆ ฟ้าวลัยร้อนวาบไปทั้งตัว ไม่คิดว่าจะเจอคนจริงอย่างนี้ เขินเสียจนต้องเมินหน้าหลบ ทำอะไรไม่ถูก ทั้งมือและใจสั่นไปหมด รีบถอยออกมาห่าง ๆ ไม่กล้าที่จะเข้าใกล้
ตะวันเดินขึ้นไปที่รถหลังจากได้ของเรียบร้อยแล้ว หันมายิ้มให้แก่ฟ้าวลัยอีกครั้ง ประทับใจที่สุดเมื่อเธอยิ้มตอบรับเช่นกัน
“คอยดูเถอะ เราจะจีบคุณฟ้าให้ได้ แม้ว่าจะยากเย็นแสนเข็ญอย่างไร ไม่พ้นความสามารถไปได้หรอกน่า กลัวแต่ว่าเธอมีแฟนแล้วนะสิ”
ความตั้งใจที่จะจีบฟ้าวลัยถูกบั่นทอนลงไป กลัวว่าเธอมีคนรักแล้ว โอกาสที่จะได้ชิดใกล้ไม่มีเลย แต่คิดว่าอันดับแรกจะต้องทำตามความถนัดของตัวเอง เดินหน้าเพื่อหยั่งเชิงดู หากว่าหญิงสาวไม่ว่างเขาก็ต้องถอยออกมาแล้วหาคนใหม่ต่อไป
“ว่าไงยะพ่อตัวดี ได้ของครบไหม”
เสียงแจ้ว ๆ ดังขึ้นก่อนที่ร่างท้วมในชุดยาวอยู่กับบ้านแบบสบาย ๆ ปราดเข้ามายืนอยู่ตรงประตูหน้าบ้าน ตะวันเงยหน้าขึ้นมอง เห็นว่าเป็นมารดา แทบจะทรุดร่างลงไปนอนกับพื้นเพราะง่วงจนแทบทนไม่ไหว แต่ก็จำใจฝืนยืนตัวตรง ไหล่กลับไม่เป็นใจลู่เอียงอย่างเห็นได้ชัด
เวลานี้สภาพร่างกายแย่มาก ควรที่จะพักผ่อนโดยเร็ว
“เรียบร้อยครับ ฮ๊าว”
“ง่วงอีกแล้ว นี่ ตะวันดูสารรูปตัวเองบ้างไหม น่าเกลียดมาก ยังกับไปฟัดกับหมามาทั้งฝูง”
“ผมรู้ครับ ง่วงจริง ๆ ขอตัวไปนอนก่อน”
“ไม่ได้ บอกมาก่อน ของที่ให้ไปเอามาจากบริษัทวัฒนาอยู่ที่ไหน”
มือมารดาเหนี่ยวที่แขนแกร่งเอาไว้ ชายหนุ่มหันไปทำปากบุ้ยใบ้ที่หน้าประตูรั้ว แท็กซี่คันหนึ่งจอดอยู่ คนขับกำลังยกลังอะไรบางอย่างลงมา
“โน่น บนรถแท็กซี่”
“เราให้เขายกของลงมาอย่างนี้ เดี๋ยวก็ได้ไม่ครบหรอก”
“ไม่ต้องห่วง ผมให้เงินจุใจจะให้วางไว้ตรงไหนก็บอก ตอนนี้ตาจะปิดให้ได้”
ชายหนุ่มผละไป เดินลากขาทำท่าจะก้าวขึ้นบันได คุณวรรณพรฉุกคิดอะไรบางอย่างขึ้นมาได้ ส่งเสียงถามโดยเร็ว
“เดี๋ยวก่อน รถ รถแกล่ะ”
“จอดเอาไว้ในที่ปลอดภัย ไม่ต้องห่วงหรอกน่า เดี๋ยวกลับไปเอา อ้อ คุย ๆ ไปตาสว่างเลย ผมขอบอกว่าพนักงานที่บริษัทวัฒนาสวยมาก นางฟ้าชัด ๆ”
“อ้าว ทำไมพูดอย่างนั้น แกนี่น๊า ไม่ว่าไปที่ไหน เที่ยวหยอดไปหมด แม่บอกก่อนนะ ลูกสะใภ้บ้านนี้จะต้องผ่านการคัดกรองจากแม่เพียงคนเดียวเท่านั้น”
คุณวรรณพรส่งเสียงทิ้งท้ายให้บุตรชายรับรู้ ว่าคนที่จะเข้ามาร่วมใช้นามสกุลจะต้องผ่านการพิจารณาจากนางเพียงผู้เดียว ไม่ยอมรับผู้หญิงที่เขาคบ โดยเหมาเอาไว้ ผู้หญิงเหล่านั้นเป็นคนไม่ดีเพราะยอมหลับนอนกับผู้ชายง่าย ๆ ไม่สมควรที่จะเข้ามาอยู่ร่วมชายคา ปล่อยให้อยู่ข้างนอกเป็นแค่นางบำเรอก็พอ
ช่อดอกไม้สีขาวผูกโบว์สีชมพูสวยงามวางอยู่บนโต๊ะทำงานฟ้าวลัยมองด้วยความสงสัย ว่าใครหาญกล้าที่จะก้าวเข้ามาจีบ สำหรับผู้ที่ไม่ได้คิดอะไร คงไม่ยอมจ่ายเงินครั้งละมาก ๆ เพื่อซื้อดอกไม้มาให้เธอ
“ใครกัน เอาดอกไม้ช่อนี้มาให้ฟ้า”
หญิงสาวชั่งใจอยู่ครู่หนึ่งก่อนที่จะหอบช่อดอกไม้แสนสวยราคาแพงมาให้ประชาสัมพันธ์สาวใหญ่ดูเพื่อที่จะค้นหาคนนำมาส่ง
“พี่ก็ไม่ทราบเหมือนกันค่ะ เห็นแมสเซ็นเจอร์มาส่ง เขาก็ไม่รู้ว่าใครส่งมา บอกว่าคนขี่มอเตอร์ไซค์วินเอามาส่ง สั่งให้เอามาให้คุณฟ้าวลัย”
“แปลกจริง ไม่มีนามบัตรแล้วเขาให้ในฐานะอะไร”
“ถ้าให้พี่เดา คนที่ส่งดอกไม้มาให้คงชอบคุณฟ้าแน่ ๆ เลย”
“ผู้ชายตาบอดน่ะสิ”
หญิงสาวตอบอย่างเขิน ๆ แต่ในใจก็ร้อนวาบ มีความสุขที่รู้ว่าอย่างน้อยก็มีผู้ชายสนใจตัวเอง หลังจากที่โบกมือลาจากไกร
ไกร ! บางทีอาจจะเป็นเขาก็ได้ที่ยังไม่ล้มเลิกตามจีบ ส่งดอกไม้ให้โดยไม่ยอมเปิดเผยตัวตน หากเป็นเช่นนั้นจริง ๆ เธอจะทำอย่างไร
โยนช่อดอกไม้ลงถังขยะงั้นหรือ ไม่ได้เด็ดขาด ทำร้ายน้ำใจกันเกินไป อีกทั้งเสียดายเพราะราคาไม่ใช่น้อย ๆ ดอกไม้จากต่างประเทศทั้งนั้น
“คนอย่างคุณฟ้าน่ะ ผู้ชายคนไหนก็อยากจีบทั้งนั้นแหละค่ะ”
ประชาสัมพันธ์หน้าย่นกล่าวทิ้งท้ายให้วาบหวามกลางใจ ฟ้าวลัยยิ้มเขิน ๆ ด้วยความรู้สึกที่บอกแก่ตัวเองว่า คงไม่สายถ้าจะเปิดหัวใจ คบหาผู้ชายสักคน บางทีอาจจะถึงเวลาแล้วก็ได้ที่จะได้เจอเนื้อคู่