บทที่ 6
เมื่อฤดูร้อนเวียนมาถึงอีกครั้ง ได้นำเอาวันเกิดครบรอบปีที่ 17ของไดอาน่ามาด้วย พร้อมกันเธอก็เริ่มรู้สึกเป็นครั้งแรกว่า ถ้าเธอจะมีความสัมพันธ์กับใครสักคนหนึ่ง อยากรู้เหลือเกินว่าความรู้สึกใหม่ๆ ที่จะเกิดขึ้นนั้นมันเป็นอย่างไร...ในไร่ได้ว่าจ้างคนงานใหม่คนหนึ่งเข้ามาเพื่อฝึกม้าสายพันอาราเบียนของเมเจอร์โดยเฉพาะ ผู้ชายคนนั้นชื่อเคอร์ลี่ ลาทรอพ
เขาเป็นชายหนุ่มรูปร่างสูง ผมสีดำสนิทหยักศกเป็นลอน ดวงตาสีน้ำตาล เป็นดวงตาที่ฉายแววซึ้งและพร้อมที่จะยิ้มเสมอ ในความรู้สึกของไดอาน่าแล้ว เขาช่างมีลักษณะเหมือนเทพบุตรกรีกที่กลับฟื้นคืนชีพขึ้นมาอีกครั้งและลูกสาวนายจ้างก็ไม่ควรถูกเขาละเลยด้วย แต่เธอได้ตั้งใจไว้ว่าจะให้เคอร์ลี่ ลาทรอพผู้นี้นับถือเธอมากกว่า เธอเล่นหูเล่นตากับเขาและเขาก็เฟลิร์ตตอบ แต่ส่วนใหญ่แล้วกิริยานี้จะกระทำเมื่อลับหูลับตาคน และราวกับเขามีความรู้สึกเหมือนเธอเป็นสัตว์เพศเมียตัวหนึ่งเท่านั้น ซึ่งความคิดนี้ได้สร้างความหงุดหงิดไม่พอใจให้กับไดอาน่าไม่น้อย โดยเฉพาะเมื่อเขาไม่ได้มองเธอ แบบผู้หญิง อย่างที่เธออยากจะให้เขามอง
วันเกิดของเธอมาถึงในตอนปลายเดือนกรกฎาคมซึ่งเป็นวันที่อากาศร้อนอบอ้าว แต่มีอะไรพิเศษกว่าทุกครั้งที่เคยเลี้ยงฉลองมา โซฟี่รับหน้าที่ทำเค้กแบบที่เธอชอบและตกแต่งหน้าเค้กเป็นพิเศษสำหรับงานเลี้ยงอาหารตอนค่ำ กายสู้อุตสาหะทำซองกุญแจหนัง โดยมีชื่อของเธอเขียนไว้ข้างบนเพื่อมอบให้เป็นของขวัญ
เป็กกี้แวะมาตอนบ่ายเพื่อมอบของขวัญเป็นผ้าไหมสำหรับโพกผมพร้อมกับข่าวที่ว่า เธอกับสามีกำลังจะมีลูกคนแรกแล้ว ไดอาน่านั่งฟังเป็กกี้วาดวิมานเรื่องที่จะต้องต่อเติมห้องนอนใหม่ เงินที่อดออมสะสมไว้เพื่อปรับปรุงห้องครัวให้ทันสมัย ต้องหมดไปกับการซื้อเข้าของตระเตรียมไว้สำหรับลูกเล็กๆ ที่กำลังจะเกิด รวมไปถึงค่าหมอ ค่ายา ค่าโรงพยาบาลที่จะต้องติดตามมา ไดอาน่ากล่าวแสดงความยินดีออกไป แต่แล้วก็อดคิดสงสัยไม่ได้ว่า ทำไมอแลนกับเป็กกี้จึงไม่รอเวลาอีกสัก 2-3ปี ก่อนจะมีลูกสร้างครอบครัวขึ้น เธอยังมองไม่เห็นด้วยซ้ำว่า สามีภรรยาคู่นี้จะสามารถเลี้ยงลูกให้มีความสุขได้สักแค่ไหน
เมื่อถึงเวลารับประทานอาหารค่ำ เมเจอร์ได้มอบของขวัญอันมีค่าให้แก่ลูกสาวคนเดียวอย่างไม่เสียดายเงิน ไดอาน่าแต่งกายด้วยเสื้อผ้าชุดใหม่ในโอกาสพิเศษนี้ เธอตื่นเต้นกับของขวัญที่ได้รับ เต็มเปี่ยมไปด้วยความสุข พ่อลูกนั่งอยู่ด้วยกันเพียงสองคนที่โต๊ะอาหาร ไม่ใส่ใจกับโซฟี่ที่นั่งประดับอยู่ด้วยบนเก้าอี้อีกตัวหนึ่งและไดอาน่าก็ไม่ได้รู้สึกว่าตัวเองตกอยู่ในอารมณ์ปาร์ตี้เท่าใดนัก
หลังจากรับประทานอาหารค่ำเสร็จแล้วเธอก็เดินออกมายังระเบียงด้านหน้า เอนร่างพิงอยู่กับลูกกรงราวระเบียง เงยหน้าขึ้นมองดวงดาวที่พร่างพรายอยู่บนท้องฟ้า ระมัดระวังไม่ให้เสี้ยนไม้ทำความเสียหายแก่เสื้อผ้าลูกไม้แสนสวยตัวใหม่ของเธอ ปลดกระดุมเสื้อด้านหน้าออกและอยากจะฝันไปว่า เคอร์ลี่ ได้เข้ามายืนอยู่กับเธอด้วย
เธอปรายตามองไปยังเรือนพักของเขาด้วยสายตาที่เปี่ยมด้วยความหวัง ไม่มีแสงไฟลอดออกมาจากห้องเก็บเครื่องมือ ความคิดที่ผ่านแวบเข้ามาในสมองทำให้เธอรู้สึกตื่นเต้นขึ้นมาทันที
ก่อนที่ความคิดอย่างสุขุมรอบคอบหรือความทระนงในศักดิ์ศรีของตนเองจะทันกำราบมันลง เธอก็เดินอย่างรีบเร่งเข้าไปในบ้านเสียแล้ว พ่อกำลังตรวจเอกสารอยู่ในห้องทำงานและโซฟี่ก็เข้าไปขังตัวเองอยู่ในห้องส่วนตัวเล็กๆ ทางด้านหลังบ้านแล้ว ไดอาน่าเดินเลยเข้าไปในครัว ตัดเค้กวันเกิดมาชิ้นหนึ่ง
เธอใช้กระดาษเช็ดมือห่อเค้กชิ้นนั้นไว้ขณะเดินลงไปที่คอกม้า แสร้งทำเป็นแปลกใจเมื่อเดินเข้าไปในห้องเก็บของและเห็นเคอร์ลี่กำลังทำความสะอาดเครื่องมืออยู่
“อ้าว...เป็นคุณเองหรือนี่ ฉันเห็นแสงไฟก็เลยคิดว่าฮอลท์อยู่ในนี้ด้วย” เธออธิบายเพิ่มเติมทั้งที่ไม่จำเป็น
“จริงหรือ?” ดวงตาของเขาคล้ายมีแววยิ้มเยาะ
“ก็จริงน่ะสิ” เธอมองเขาราวจะยั่ว
“คุณถืออะไรอยู่ในมือน่ะ?” เคอร์ลี่มองดูห่อกระดาษเช็ดมือที่เธอถืออยู่
“ขนมเค้กวันเกิดของฉันเอง...ก็บอกแล้วไง ว่าเห็นแสงไฟก็เลยคิดว่าเป็นฮอลท์ เลยเอาขนมติดมือมาจะฝากเขาเอาไปให้กาย” ไดอาน่ายักไหล่เมื่อเดินเลยเข้าไปในห้องเล็กๆ นั้น “แต่เมื่อเขาไม่อยู่กลายเป็นคุณแทน คุณรับไปก็แล้วกัน”
ยิ้มของเขาเหมือนจะพูดว่า เคอร์ลี่ไม่ได้เชื่อในคำพูดที่เธอเสกสรรขึ้นมาแม้แต่น้อย แต่เขาก็แสร้งทำเป็นเลยตามเลย
“ผมไม่อยากให้กายเสียประโยชน์หรอก”
“ไม่หรอกน่า” เธอยื่นห่อขนมไปให้ “พรุ่งนี้ฉันให้กายใหม่ก็ได้ สงสัยว่ากว่าเมเจอร์กับฉันจะช่วยกันกินหมด มันคงจะขึ้นราเสียก่อนก็ไม่รู้”
“อันที่จริงผมก็ชอบกินของหวานอยู่เหมือนกันนะ”เคอร์ลี่พูดยิ้มๆ แววในดวงตาของเขาทำให้ไดอาน่ารู้สึกหัวใจเต้นวูบวาบ ความรู้สึกประหลาดๆ พรั่งพรูไปทั่วสรรพางค์ เมื่อนิ้วของเขาสัมผัสมือเธอตอนที่เอื้อมมารับขนมเค้กชิ้นนั้น “วันนี้วันเกิดคุณหรือ?”
“อือ...ใช่” เธอมองดูเขาแก้กระดาษออกและยกขนมใส่ปาก
“ปีนี้คุณอายุเท่าไหร่แล้วล่ะ?” เขาถามทั้งที่ยังมีขนมอยู่เต็มปาก
ไดอาน่าอยากให้ตัวเองโกหกเป็นเหลือเกิน แต่อย่างไรก็ตามเขาก็น่าจะรู้อยู่แล้วว่าเธออายุเท่าไร
“17”
เขานิ่งเงียบไปเป็นครู่ จนกินขนมหมดแล้วจึงได้พูดขึ้น
“เค้กนี่อร่อยมาก” เขาปัดเศษขนมที่ติดมือออก “ผมน่าจะรู้ว่าวันนี้เป็นวันเกิดคุณ”
“ทำไมล่ะ...?”เธอถามออกไป
“ก็จะได้ซื้อของขวัญให้น่ะสิ”
“ฉันไม่ได้อยากให้คุณซื้อของขวัญมาให้หรอก...” แต่มันจะยอดเยี่ยมขนาดไหนนะถ้าเขาเกิดให้ขึ้นมาจริงๆ ...?...
ไดอาน่าคิดฝันอยู่ในใจ
“แล้วเพื่อนชายคุณล่ะเขาให้อะไรคุณ?”
“ฉันยังไม่มีเพื่อนชายสักคนเลย” เธอตอบไปตามตรง
“โธ่...อย่ามาหลอกกันหน่อยเลยน่า ผู้หญิงสวยๆ อย่างคุณ พวกหนุ่มๆ ที่โรงเรียนมันต้องคลั่งไคล้ไหลหลงกันแย่ไปด้วยซ้ำ”
หัวใจเธอเต้นรัวขึ้นมาอีก เมื่อเขาเอ่ยถึงความสวย โดยเฉพาะในดวงตาของเขาสะท้อนและยืนยันคำพูดนั้นอยู่
“พวกนั้นยังไม่มีใครเป็นหนุ่มกันสักคนเลย” ไดอาน่าพยายามทำเสียงให้เหมือนกับว่าตัวเองเป็นผู้ใหญ่แล้วเมื่อตอบประโยคนี้กับเขา และเมื่อเขาทำเสียงหัวเราะอยู่ในลำคอ เธอก็เบือนหน้าหนี ออกจะน้อยใจที่เขาเห็นคำพูดของเธอเป็นเรื่องน่าขัน
“เสื้อชุดนี้สวยจัง” เคอร์ลี่เอ่ยขึ้นอีก “สงสัยว่าคืนนี้เมเจอร์คงจะเลี้ยงฉลองให้เป็นการใหญ่สินะ”
“เปล่าหรอก เราก็แค่ดินเนอร์กันเงียบๆ เท่านั้น” น้ำเสียงของไดอาน่าบอกให้รู้ว่าเธอไม่ได้หวังอะไรมากกว่านั้น
“วันเกิดน่ะ ควรจะได้ฉลองกันมากกว่าการกินอาหารค่ำธรรมดา แล้วก็กินเค้กกับให้ของขวัญเท่านั้นนะ” เคอร์ลี่ดัดน้ำเสียงให้ฟังสุภาพขึ้น
“โอ...”เธอเบิกตาโตมองหน้าเขา “ก็แล้ววันเกิดของตัวคุณเองล่ะ คุณทำอะไรบ้าง?”
“ก็...มีการดื่มนิดหน่อย แล้วก็เต้นรำกัน ด้วยความหวังว่าจะมีเพื่อนที่รู้ใจมาร่วมฉลองด้วย” เขาสบตาเธอ “การฉลองวันเกิดมันก็ต้องประกอบด้วย 3 ประการนี้แหละ ถึงจะค่อยดูเป็นงานฉลองหน่อย”
“ก็ของฉันมันก็แค่วันเกิดเล็กๆ เท่านั้นนี่” ไดอาน่าถอนหายใจ เพราะไม่เคยมีในสิ่งที่เขาพูดถึงเลยสักอย่าง
“เอาละ ในเมื่อก็ไม่ได้ซื้อของขวัญวันเกิดให้คุณ เพราะฉะนั้นจะดูสิว่า มีอะไรที่พอจะเอามาใช้เป็นส่วนประกอบสำคัญในการเลี้ยงฉลองคืนนี้ได้บ้าง” เคอร์ลี่หลิ่วตาให้ ก่อนจะเดินไปตรงมุมห้องที่มีกุญแจประตูติดอยู่ด้านล่าง เขายกนิ้วขึ้นแตะริมฝีปากทำท่าทางเป็นความลับ ก่อนจะซุกมือเข้าไปในนั้นดึงเหล้าออกมาขวดหนึ่ง
“ผมเก็บไว้กินเป็นยา...ตอนกลางคืนอากาศหนาวมากมันช่วยให้อุ่นขึ้นได้” เขาพูดเป็นเชิงอธิบาย รู้อยู่แก่ใจว่าถ้าเมเจอร์รู้ว่าเขาดื่มในเวลาทำงานแล้ว เป็นต้องถูกไล่ออกทันที “คืนนี้เราจะใช้มันให้ตรงต่อจุดประสงค์ได้มากกว่า” เขาหยิบถ้วยกระดาษออกมาจากตู้ไม้ที่ใส่เครื่องมือ รินเหล้าใส่ลงในถ้วยใบหนึ่ง หยุดชั่งใจอยู่นิดหนึ่งก่อนจะรินใส่ลงในถ้วยใบที่ 2 แล้วจึงได้เงยหน้าขึ้นมองไดอาน่า
“คุณดื่มเหล้าเพียวๆ ได้ไหม ผมไม่อยากถูกต่อว่า...ว่าใส่เหล้าน้อยไป”
“ฉันก็เคยดื่มมาบ้างเหมือนกัน...” ซึ่งก็แค่ครั้งเดียวในชีวิต เพียงแต่เธอไม่อยากยอมรับออกไปตรงๆ เพราะเกรงเขาจะหาว่าเธออ่อนโลกเกินไป บอกตัวเองอยู่ว่าถ้าเธอดื่มได้ เขาจะได้ปฏิบัติต่อเธอเยี่ยงหญิงสาวทั้งหลายมากกว่าเด็กหญิงอย่างที่เป็นอยู่เวลานี้...
เขาเติมเหล้าลงในถ้วยใบที่ 2 ให้มากขึ้นอีกหน่อย ก่อนจะส่งให้ไดอาน่า แล้วจึงได้ยกถ้วยที่ถืออยู่ในมือขึ้นในท่าอวยพร
“แด่สาวน้อยผู้อ่อนเยาว์และแสนสวย...สุขสันต์วันเกิดครับ ไดอาน่า”
เมื่อเขายกถ้วยขึ้นดื่มนั้น เธอก็ยกขึ้นดื่มบ้าง มีความรู้สึกเหมือนเปลวไฟลวกลามลงไปในลำคอ แอบถอนหายใจเฮือกใหญ่ ได้อาน่าพยายามสะกดกลั้นไว้ไม่ให้ไอออกมาและประสบความสำเร็จที่ไม่สะอึกเลย...
“เป็นไง มันช่วยให้คุณอุ่นขึ้นไหมล่ะ?” เธอถามพลางฝืนหัวเราะออกมา
“แน่นอน” เขาตอบอย่างมั่นใจ ก่อนจะเติมเหล้าลงในถ้วยให้เธออีก “แล้วมันก็ทำให้สบายใจด้วย”