บท
ตั้งค่า

ตอนที่ 3 ชีวิตที่ต้องเดินต่อไป

สายตาที่ทอดมองไปยังสายน้ำที่ไหลผ่านในลำธารหลังจวนสกุลโจว ทำให้คนที่เพิ่งฟื้นจากความตายแต่กลับกลายมาอยู่ในร่างของคนที่นางมิควรอยู่ สามวันแล้วที่นางฟื้นขึ้นมาในร่างของโจวเจินเจิน หลานสาวแท้ๆ ที่นางรักและเอ็นดู ในขณะที่ร่างกายของนางได้ถูกฝังไปในสุสานสกุลฉินแล้ว เหตุใดที่มิได้ฝังอยู่ในสุสานสกุลหวงนั่นก็เป็นเพราะก่อนที่นางจะสิ้นลมหายใจ นางได้เขียนจดหมายหย่าให้แก่สามีอย่างหวงจิงอวี่ ขอตัดความสัมพันธ์กันไม่ว่าภพนั้นหรือภพต่อไป

“คุณหนูใหญ่เจ้าคะ นายหญิงใหญ่ให้บ่าวมาตามไปที่เรือนใหญ่เจ้าค่ะ”

เสียงของบ่าวที่เพิ่งจะเดินมาถึงเรียกสติที่กำลังล่องลอยไปของฉินเซี่ยหรูให้กลับมา นางหันมามองแล้วพยักหน้าเพียงเล็กน้อยก่อนที่จะเดินนำอวี้ถงกับบ่าวที่มาตามนางไปยังเรือนใหญ่

“เจินเอ๋อร์คารวะท่านพ่อ เจินเอ๋อร์คารวะท่านแม่” เสียงเล็กเอ่ยออกมาพร้อมทั้งคำนับบิดามารดา

“เจินเอ๋อร์… มานั่งนี่สิลูก” เสียงหวานของฉินเซี่ยหรงเรียกบุตรีของนาง

“ท่านพ่อกับท่านแม่มีเรื่องอันใดจะคุยกับลูกหรือเจ้าคะ” สองสามีภรรยามองหน้ากันก่อนที่จะมองไปที่บุตรี

“เจ้าอยากไปกราบไหว้ท่านป้าของเจ้าที่สุสานหรือไม่”

เพราะรู้ดีว่าโจวเจินเจินนั้นเป็นหลานสาวที่ฉินเซี่ยหรูรัก สองสามีภรรยาจึงตั้งใจอยากจะพาหลานสาวไปคำนับลาท่านป้าผู้แสนอาภัพของนาง ตอนที่ฉินเซี่ยหรูสิ้นลมโจวเจินเจินก็นอนไม่ได้สติไปแล้ว และโจวเจินเจินก็หลับไปนานถึงสามคืน

“ลูกอยากไปเจ้าค่ะ”

น้ำหยดใสๆ ไหลลงมาจากดวงตาเมื่อนึกขึ้นมาได้ว่าคนที่จากไปจริงๆ คือโจวเจินเจิน หลานสาวแท้ๆ ของนางต่างหาก เพราะร่างกายอ่อนแอมาตั้งแต่เล็กเช่นนั้นหรือ หลานสาวของนางจึงต้องจากไปก่อน หรือเป็นเพราะเหตุใดกัน นางถึงต้องกลับมาอีกครั้ง ในร่างของหลานสาวที่นางรัก

“โถ่… เจินเอ๋อร์ เจ้าอย่าร้องไห้ไปเลยนะลูก ท่านป้าของเจ้านางทนทุกข์ทรมานใจมานานหลายปีแล้ว แม่ไม่คิดมาก่อนว่าชายผู้นั้นจะมีจิตใจเย็นชาต่อนางเช่นนั้น เพียงเพราะไปฟังคำบอกเล่าเรื่องราวของนางจากปากผู้อื่นมา”

ฉินเซี่ยหรงหรือโจวฮูหยินปลอบใจบุตรสาวคนโตก่อนที่จะเอ่ยถึงพี่สาวของนางด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ ถึงยามนี้ก็ยังมิมีผู้ใดในสกุลฉินหรือแม้แต่สกุลโจวให้อภัยอดีตพี่เขย เขาเย็นชากับพี่สาวของนางจนวันสุดท้ายของชีวิต ตลอดระยะเวลาแปดปีที่ผ่านมา เขาให้พี่สาวของนางเป็นได้เพียงภรรยาเอกแต่ในนามเท่านั้น มารดาของเขาก็ดูถูกที่พี่สาวของนางมีบุตรมิได้ แล้วจะมีได้เช่นไรกันในเมื่อบุตรชายของหวงฮูหยิน มิเคยแตะต้องพี่สาวของนางเลย นั่นเป็นความผิดของพี่สาวนางเช่นนั้นหรือ

“เจินหลงไปกับเราหรือไม่เจ้าคะ” ฉินเซี่ยหรูในร่างของโจวเจินเจินเอ่ยถามถึงหลานชายอีกคนของนาง หลานชายตัวน้อยวัยห้าขวบที่กำลังช่างเจรจา

“ไปสิลูก….ตอนทำพิธีฝังร่างท่านป้าของเจ้า เจินหลงน้องชายของเจ้าก็มิได้ไปด้วยเช่นกัน” ใต้เท้าโจวเป็นผู้ตอบบุตรสาวออกมา

‘เด็กๆ อยู่ที่จวนสกุลโจวสินะ ดีแล้วล่ะ หากเด็กๆ รับรู้ว่าข้าจากโลกใบนี้ไปแล้วคงจะเสียใจเช่นกันมากมาย โดยเฉพาะโจวเจินเจิน’ ฉินเซี่ยหรูคิดในใจ

รถม้าถูกบังคับขับเคลื่อนออกจากจวนสกุลโจวมุ่งหน้าสู่สุสานของสกุลฉิน ที่ซึ่งมีร่างของฉินเซี่ยหรู บุตรสาวคนโตของสกุลฉินถูกฝังอยู่ ณ ที่แห่งนั้นสายลมหนาวในเหมันตฤดูทำให้ขนที่แขนตั้งชัน ภายใต้ความเงียบสงัดยังมีเสียงของหมู่มวลวิหคที่อาศัยอยู่รายรอบแนวชายป่าส่งเสียงขับขานออกมาราวกับเป็นท่วงทำนองเพลงเศร้า การจากไปของฉินเซี่ยหรูทำให้บิดามารดาของนางเป็นทุกข์ โดยเฉพาะมารดาที่หันหน้าเข้าหาทางธรรม เหลือเพียงบิดาที่ยังคงทำหน้าที่เป็นขุนนางที่ดีอยู่แม้ในใจจะเป็นทุกข์ก็ตาม

ภาพหลุมศพที่มีชื่อของผู้ที่ล่วงลับอยู่ด้านหน้าเป็นการตอกย้ำให้ฉินเซี่ยหรูได้รับรู้ว่านางจากโลกใบนี้ไปแล้วจริงๆ แต่แล้วนางกลับได้รับโอกาสให้มาเกิดใหม่ในร่างของหลานสาวผู้น่าสงสาร ที่เกิดมามีสุขภาพร่างกายที่อ่อนแอตั้งแต่เด็กๆ ต่อไปนี้นางจะต้องใช้ชีวิตนี้ของโจวเจินเจินให้ดี และไม่เลือกเดินไปบนเส้นทางที่นางเคยเดินผิดพลาดอีกครั้ง ความรัก หากรักอยู่ฝ่ายเดียวก็ไร้ค่า หากรักไปแล้ว ไร้รักตอบกลับมา ก็มีแต่ทุกข์ใจ

“เจินเอ๋อร์… ท่านป้าของเจ้ามิได้มีโอกาสที่จะมีลูก แต่นางก็รักเจ้าประดุจดังลูกสาวแท้ๆ ของนาง คำนับลานางเสียสิลูก”

ร่างเล็กของโจวเจินเจินคำนับหลุมศพของฉินเซี่ยหรู ภายในใจของฉินเซี่ยหรูคือนางคำนับลาชีวิตในอดีตชาติของนาง และคำนับขอบคุณฟ้าดินที่ให้โอกาสนางได้มาเกิดใหม่อีกครั้งในร่างของหลานสาวที่นางรัก โจวเจินหลงเข้ามาคำนับท่านป้าเช่นเดียวกับพี่สาวของเขา ใต้เท้าโจวและฉินเซี่ยหรงยืนมองบุตรีและบุตรชายด้วยแววตาอ่อนโยน

‘ท่านพี่ใหญ่เจ้าคะ น้องขอให้ท่านพี่หลับให้สบาย ไปเกิดใหม่อยู่ในที่ดีๆ มีแต่คนรัก ภพหน้าน้องขอให้ท่านพี่สมหวังในความรัก ได้พบเจอกับบุรุษที่รักท่านและได้ใช้ชีวิตร่วมกันจวบจนวันสุดท้ายของชีวิต’ ฉินเซี่ยหรงภาวนาอยู่ภายในใจ

หลังจากที่พาบุตรทั้งสองไปกราบท่านป้าของพวกเขาเสร็จ สองสามีภรรยาก็พาเด็กๆ ไปเยี่ยมท่านตาที่จวนสกุลฉิน สถานที่ที่ฉินเซี่ยหรูเติบโตมาจนออกเรือนไปในวัยเพียงสิบหกปี นางต้องทนทุกข์ใจอยู่ในบ้านของผู้เป็นสามีที่เขามิได้รักนางถึงเจ็ดปี ทนทุกข์กับการถูกเหยียบย่ำศักดิ์ศรีและจิตใจจากคนที่นางมอบหัวใจให้ครั้งแล้วครั้งเล่า

“เขยคารวะท่านพ่อตา”

“คารวะท่านพ่อเจ้าค่ะ” สองสามีภรรยาคำนับใต้เท้าฉินพร้อมๆ กัน

“ตามสบายเถิด เอ๊ะ…นั่นเจินเอ๋อร์กับหลงเอ๋อร์ใช่หรือไม่”

เขามองเลยไปด้านหลังที่มีเด็กหญิงรูปร่างผอมบางยืนอยู่กับเด็กชายที่มีส่วนสูงเพียงหน้าอกของนาง นานแล้วที่เขามิได้พบกับเด็กๆ อีกทั้งความเศร้าทำให้เขามิอยากจะมองหน้าผู้ใด หรือพบปะผู้ใด ยกเว้นเพียงแต่ต้องออกไปเข้าเฝ้าฮ่องเต้ในวังหลวง

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel