บทที่ 2.2 เจ้าสาวกลัวฝน
ถึงแม้มัทนาจะรู้ว่าเธออาจจะได้พบเห็นภาพบาดตาสะเทือนใจ แต่เมื่อเธอนึกสนุกที่จะเข้าไปทำเซอรไพรส์ในงานสละโสดเธอก็เผื่อใจไว้เป็นทุนอยู่แล้ว และเธอก็มั่นใจเกินล้านเปอร์เซ็นต์ได้ว่าภาพเหล่านั้นที่เธออาจได้เห็นในอนาคตอันใกล้ไม่อาจคลอนแคลนความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับแอนดี้ลงได้ ด้วยเพราะเธอมักจะเห็นพวกนางแบบสาว ๆ มาทอดสะพานให้แอนดี้ในระหว่างที่ออกรันเวย์ให้กับคอลเลคชั่นของเธออยู่บ่อย ๆ
ตลอดทั้งสามปีที่ผ่านมา แอนดี้ไม่เคยแสดงกริยาไม่น่าไว้ใจให้เธอได้ระแวงเลยสักครั้ง มัทนาพรายยิ้มให้กับตนเอง เพราะน้ำใจอันกว้างขวางดังมหาสมุทรของเธอไม่อาจมีน้ำพริกก้นครกใดมาทำให้น้ำทั้งมหาสมุทรนั้นขุ่นหมองลงได้
มินิคูเปอร์คันกะทัดรัดถูกจอดเข้าซอง หลังจากที่ประตูโรงรถถูกเปิดขึ้นด้วยระบบอัตโนมัติ ครั้นเมื่อเครื่องรถดับสนิทลงเจ้าของเรียวขาคู่งามก็ย่างออกจากประตูฝั่งคนขับอย่างแคล่วคล่อง ดวงตาคู่สวยกวาดมองความเรียบร้อยในอาเขตก่อนที่จะจรดปลายนิ้วลงยังปุ่มกลมบนรีโมทคอนโทรลในมือ
มัทนาหญิงสาวผู้รักในความสันโดษ เธอนิยมความล้ำสมัยของนวัตกรรมเป็นอย่างยิ่งเพราะเธอไม่นิยมให้ใครเข้ามายุ่งย่ามในพื้นที่ส่วนตัวของเธอสักเท่าไร เธอมักจะควบคุมทุกสิ่งอย่างด้วยรีโมทระบบไวไฟครอบจักรวาลที่เธอมักจะถือไปไหนมาไหนไม่ขาดมือขณะที่เธอใช้ชีวิตอยู่ในบ้าน ซึ่งอานุภาพของมันน่าเชื่อถือทั้งมีความสามารถครอบจักรวาล สามารถทำงานตั้งแต่หน้าประตูยันชักโครกในห้องนอน
ทั้งระบบที่ต่อกับกล้องวงจรปิดเชื่อมโยงกับโทรศัพท์มือถือ เชื่อมต่อกับระบบไฟในบ้าน และระบบไฮดรอลิคสำหรับรักษาความปลอดภัย อีกทั้งเพ็ทบอทที่ใช้ตรวจตราไปรอบ ๆ ภาคพื้นของบริเวณบ้าน ซึ่งทั้งหมดทั้งมวลนี้อำนวยความสะดวกให้เธอได้ใช้ชีวิตสันโดษได้อย่างรู้สึกปลอดภัยทุกครั้งที่กลับมาถึงบ้าน และทั้งหมดนี้ก็เพื่อตัวเธอเองและหนูหริ่งผู้เป็นบุตรสาวที่โตเป็นสาวแล้วด้วย
หลายครั้งที่แอนดี้ชวนเธอไปร่วมงานสังสรรค์กับเขา เธอก็มักจะปฏิเสธมันเสียทุกครั้งไปเพราะเธอรู้สึกอึดอัดและไม่เป็นตัวของตัวเอง ก่อนหน้านี้เธอไปพบแพทย์เพราะเคยได้ยินเพื่อน ๆ ของแอนดี้พูดว่าเธอเป็นโรคกลัวสังคม เธอจึงตัดสินใจที่จะไปที่นั่นเพื่อที่จะให้คำตอบที่กระจ่างกับตนเอง
หลังจากผลวินิจฉัยของแพทย์เธอเป็นเพียงผู้หญิงคนหนึ่งที่มีความเครียดเพียงชั่วขณะเท่านั้น เธอไม่มีปัญหาการเข้าสังคม โดยเฉพาะกับสังคมที่เธออยู่ เธออาจคุ้นเคยกับสภาพแววล้อมและคนใหม่ ๆ ได้ช้ากว่าคนอื่นนิดหน่อยแต่เธอก็ไม่ได้ผิดปกติอย่างที่เพื่อน ๆ ของแอนดี้แอบนินทาเธอ
ถึงแม้ว่ามัทนาจะมีเพื่อนน้อยแต่เธอก็ไม่ใช่ประเภทคนขี้เหงา เพราะเธอมักจะใช้เวลาอยู่กับงานเป็นส่วนใหญ่ จึงไม่มีเวลาให้เธอเหงาสักเท่าไรอีกทั้งความเงียบก็มักสร้างสมาธิและแรงบันดาลใจให้เธอขับเคลื่อนออกมาเป็นผลงานใหม่ประดับคอลเลคชั่นอยู่เสมอ
หลังจากที่หญิงสาวทอดสายตามองเหม่อไปยังท้องทุ่งกว้างอยู่พักใหญ่ สายความคิดก็แล่นปราดมายังดินสอยาวแท่งยาวที่เธอได้ถืออยู่ในมือ จากนั้นปลายดินสอก็ถูกจรดลงบนกระดาษเพื่อขีดเขียนสิ่งที่เห็นชัดในมโนออกมาเป็นรูปธรรม เพียงครู่หนึ่งลายเซ็น
“Mattana” ก็ถูกเซ็นกำกับลงบนรูปภาพที่เธอเพิ่งสร้างสรรค์ผ่านกระดาษปอนด์อย่างรวดเร็ว
‘จ๊อกกกกกก’ ทันทีที่งานเสร็จสิ้นเสียงกระเพาะประท้วงก็ดังขึ้น มัทนาจึงเหลือบตาขึ้นไปมองนาฬิกาที่แขวนอยู่บนผนัง
“สามทุ่มแล้วเหรอเนี่ย ไวจัง” เป็นปกติที่เธอมักจะลืมกินอาหารเพราะทำงานจนเพลิน และเมื่อเกินเวลาเธอก็เลือกที่จะกินแต่อาหารที่ให้โปรตีนสูงเพื่อไม่ให้ตนเองขาดสารอาหาร ด้วยเหตุนี้จึงทำให้ดีไซน์เนอร์หุ่นดีไม่แพ้จากนางแบบสักเท่าไร
หลังจากที่เติมโยเกิร์ตผลไม้รวมให้กับเจ้ากระเพาะอาหารจอมประท้วงก็ถึงเวลาที่มัทนาจะต้องพักผ่อน
‘นอน’ แม้สิ่งนี้ไมใช่สิ่งที่เธอคิดจะทำ แต่มัทนาก็ทิ้งตัวลงเกลือกกลิ้งกับฟูกนุ่มขนาดคิงส์ไซซ์หลังจากเติมเสบียงลงท้องที่ร้องขออาหารจนอิ่มแปล้ หญิงสาวเอเชียเรือนร่างบอบบางนอนกลิ้งไปมาอย่างอิสระบนฟูกผืนกว้าง ครั้นก็จินตนาการถึงตอนที่จะต้องมีหมอนกล้ามใหญ่ยักษ์มานอนเคียงข้าง ๆ แล้วก็ทำเอาหญิงพรหมจรรย์อย่างมัทนาปิดเปลือกตาข่มลงบดกันจนยับย่น ด้วยเพราะรู้สึกครั่นเนื้อตัว จักจี้หัวใจขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก
‘ยัยมัท...หล่อนอยากได้อีตาก้ามปูเจ้าของทีมฟุตบอลมาเป็นหลัวเธอจริง ๆ อะเหรอ’ คำถามย้อนย้ำทำให้แน่ใจเฝ้าเวียนว่ายถามตัวเองอยู่ในสมองของหญิงสาว ด้วยเพราะเธอไม่อาจให้คำตอบที่แน่แท้กับตนเองได้ว่า‘แอนดี้จะเป็นสามีที่ดี’ และจะพาเธอไปได้ตลอดรอดฝั่ง
ทำให้มัทนาเกิดหวงแหนความโสดขึ้นมาเสียดื้อ ๆ แม้ว่าเธอจะมีความรู้สึกดีกับแอนดี้จนเรียกว่ารักก็ได้ เพราะหลงใหลในความน่ารักและสุภาพของเขา แต่มัทนาก็ไม่อาจแน่ใจได้ว่า เธอรักเขามากพอที่จะร่วมหัวจมท้ายด้วยกันหรือไม่...
ถึงแม้ความกังวลจะมีมากมหาศาลเพียงไรก็ไม่ใช่เหตุผลที่จะมาใช้ล่มงานแต่งที่ร่อนการ์ดออกไปแล้วกว่าห้าร้อยคำเชิญ
หน้าของแอนดี้และหน้าของเธอคงจะจบกับแค่ความประหม่าและไม่แน่ใจของเธอเท่านั้นเป็นไม่ได้ ฉะนั้นถอยไม่ได้แล้วมัทนา
เพราะทุกอย่างเริ่มนับเวลาไปแล้ว