บท
ตั้งค่า

บทที่ 2.1 เจ้าสาวกลัวฝน

ประตูคฤหาสน์หลังน้อยใจกลางเมืองบนพื้นที่เกือบสิบไร่ถูกเคลื่อนออกเพื่อต้อนรับรถหกล้อและสิบล้อที่ถูกว่าจ้างให้เข้าติดตั้งเครื่องเสียงยังบริเวณสระน้ำหลังบ้าน ซึ่งเป็นบริเวณที่ถูกกำหนดไว้ให้รองรับเหล่าก๊วนเพื่อนที่จะมาร่วมงานปาร์ตี้สละโสดของนักธุรกิจหนุ่มไฟแรงผู้เป็นหุ้นส่วนใหญ่ของสโมสรฟุตบอลระดับโลกในถัดไป

“ทางนี้ ทางนี้เลยครับ” เสียงโหวกเหวกโวยวายของแซมชายหนุ่มผู้อาสาเป็นพ่องานดังอยู่ไม่ขาดสายระหว่างที่โบกไม้โบกมือให้สัญญาณกับบรรดารถเครื่องเสียง อีกทั้งรถที่ขนอุปกรณ์เข้ามาประดับดาตกแต่งบริเวณสระว่ายน้ำส่วนตัวหลังบ้านที่เคยธรรมดาและเงียบเหงาให้สวยงามราวกับสวรรค์ชั้นเจ็ด

“ฉันรู้สึกว่าแกจะตั้งใจเป็นพิเศษเลยนะ...แซม”ชายหนุ่มรูปร่างสมส่วน อำพรางร่างกายที่อุดมไปด้วยกล้ามเนื้อต้นแขนและกล้ามอกเอาไว้ใต้เสื้อตัวโคร่งและกางเกงลำลอง แอนดี้ผู้เป็นเจ้าของสถานะโสดวันสุดท้าย ส่งเสียงทักทายชายหนุ่มรุ่นราวคราวเดียวกับตนเองผู้ซึ่งเป็นลูกพี่ลูกน้องและเพื่อนรักที่แสนดี

“แหม...พี่ชายจะสละโสดทั้งที ต้องเต็มที่อยู่แล้ว” น้ำเสียงสดใสกระปรี้กระเปร่าของแซมแสดงถึงความยินดีและเต็มใจเป็นอย่างยิ่งที่เขาได้เป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยให้ปาร์ตี้สละโสดของแอนดี้เป็นไปอย่างสมบูรณ์แบบและราบรื่น

แซมชายหนุ่มรักสนุก เขาเป็นหัวเรี่ยวหัวแรงคอยช่วยเหลือพี่ชายอย่างแอนดี้ในทุกครั้งที่เขามีความประสงค์คิดอยากจะทำสิ่งใดแซมก็มักจะยินดีช่วยอย่างไม่มีเหน็ดเหนื่อยเสมอ

ทว่าแท้จริงของความกระตือรือร้นของชายหนุ่มขี้เหงาอย่างแซมก็คือเขาชอบงานสังคมสังสรรค์ เขามีความสุขเมื่อได้อยู่ร่วมกับท่ามกลางผู้คนมากหน้าหลายตาเสมอ และยิ่งหากว่างานนั้นเป็นงานที่ไม่ได้เกิดขึ้นได้บ่อย ๆ ขึ้นชื่อว่าพิเศษในพิเศษล่ะก็...แซมก็ยิ่งจะพยายามให้มีข้อผิดพลาดให้น้อยที่สุด เพราะมันจะคือความทรงจำที่สวยงามที่เพียงแค่นึกย้อนกลับมาก็จำได้ดี

“ฉันนี่โชคดีจริง ๆ” ผู้มีศักดิ์เป็นพี่ไม่พูดเปล่าพลางใช้ฝ่ามือของตนตบลงบนบ่าของแซมผู้เป็นน้องชายเบา ๆ แซมจึงหันมายิ้มให้เขาแล้วพยักหน้ารับรู้ ก่อนที่จะโบกไม้โบกมือให้สัญญาณกับรถที่ขนอุปกรณ์จัดตกแต่งสวนที่ค่อย ๆ เคลื่อนตัวเข้ามาบริเวณสวนอย่างช้า ๆ

แอนดี้ใช้สายตากวาดตามองไปยังจุดต่าง ๆ ระหว่างที่เดินวนไปรอบ บริเวณที่ใช้จัดงาน สีสันจากลูกโป่งซึ่งประดับประดาอยู่ทั่วพื้นที่ใช้งานทำให้สระน้ำหลังบ้านที่แสนจะธรรมดาดูน่าตื่นเต้นแปลกตาราวกับเป็นคนละสถานที่

หลังจากที่ชายหนุ่มเจ้าของงานเดินเตร็ดเตร่มองนั่นโน่นบริเวณที่ใช้จัดงานอยู่พักหนึ่ง โทรศัพท์บนข้อมือของเขาก็สั่นขึ้น แอนดี้กดรับสายในทันทีและหลังจากนั้นเสียงของหญิงสาวก็ดังผ่านบลูทูธที่เหน็บไว้ในช่องหูข้างหนึ่ง

“ผมแค่จะบอกว่า...อย่าลืม เครื่องดื่มที่ผมสั่งไว้...” แอนดี้เดินกลับภายในบ้านในขณะที่เขากำลังพูดกับปลายสาย โดยที่ไม่ได้บอกแซม ด้วยรู้ดีว่าน้องชายของเขาคงกำลังเพลิดเพลินอยู่กับสิ่งที่เขากำลังทำ

“ไม่ลืมค่ะ...บอส รถกำลังเอาเข้าไปส่งให้แล้วค่ะ” เลขาสาวสวยตอบรับผู้เป็นเจ้านายในทันที

“ดี...ขอบใจนะ” น้ำเสียงของแอนดี้ ทำให้ปลายสายสัมผัสได้ถึงความสุขของเจ้านายของตน เพราะเธอมักจะไม่ค่อยจะได้ยินน้ำเสียงสดใสตื่นเต้นแบบนี้จากเจ้านายหนุ่มสุดหล่อของเธอสักเท่าไร

ตลอดระยะเวลาห้าปีที่เธอได้ติดสอยห้อยตามรับใช้เขามาราวกับพรมเช็ดเท้าหน้าเตียง น้อยครั้งนักที่จะได้เห็นรอยยิ้มของเขา ยิ่งน้ำเสียงแบบเล่นหัวอย่างนี้ด้วยแล้ว ยิ่งหายากราวกับพลิกหาเข็มในมหาสมุทรเลยทีเดียว จะมีก็สองสามปีหลังมานี้ที่แอนดี้ยิ้มเก่งขึ้น อารมณ์ดีขึ้น เครียดน้อยลง ทั้งสังสรรค์ก็น้อยลงด้วย อาจเป็นเพราะเขาได้พบกับหัวใจอีกครึ่งของเขาแล้วก็อาจเป็นได้

เอลิน่ากดวางสายจากหน้าจอบนข้อมือของเธอ ก่อนที่จะขับเคลื่อนรถออกไปจากแยกไฟแดงที่แน่นขนัดผิดปกติในยามบ่าย

หญิงสาวเหลือบตามองดูเวลาที่ฉิวเฉียดบนหน้าจอดิจิตอลตรงคอนโซลรถขณะที่เธอกำลังขยับล้อจอดสนิทลงตรงหน้าร้านดอกไม้ ในระหว่างนั้นสายหนึ่งก็วิ่งปราดเข้ามา เอลิน่าไม่รีรอที่จะใช้คำสั่งเสียงตอบรับปลายสาย

“ค่ะ...คุณผู้หญิง” หญิงสาวที่กำลังใช้สมาธิอยู่กับการจอดรถเกริ่นทักทายปลายสาย

“อุบ!!” เอลิน่าขมวดคิ้วนิดหนึ่งเพราะเสียงประหลาดที่เธอได้ยิน

“คุณ...มัท เป็นอะไรหรือเปล่าคะ ? ” เอลิน่าออกปากถามด้วยความห่วงใย

“ม มะ ไม่มีอะไรจ้ะ” มัทนาที่หลุดหัวเราะให้กับคำว่าคุณผู้หญิง ที่ฟังไม่ว่ากี่ครั้งต่อกี่ครั้งก็รู้สึกจักจี้หัวใจ ตั้งสติตัดอารมณ์แล้วกลับมาพูดธุระของตนต่อ

“คือ...ฉันอยากจะไปเซอร์ไพร์สแอนดี้ในงานเลี้ยงน่ะ ฉันอยากให้คุณแค่ช่วยบอกแอนดี้ตามนี้หน่อย...ถ้าเขาถามถึงฉันอะนะ แบบอยากให้...บอกว่าฉันไปสปาขัดผิวทำสวยอะไรแบบนี้ก็ได้”

มัทนานึกสนุกจึงโทรเข้าหาเอลิน่า เลขาที่รู้ไปทุกอย่างกว่าอับดุลเปรียบได้กับกูเกิ้ลมีชีวิตคู่กายของแอนดี้เลยทีเดียว เพราะ

เอลิน่ามักถูกแอนดี้ไหว้วานคลายข้อสงสัยที่ทุกอย่างที่เขามี เอลิน่าเป็นเลขาที่ชาญฉลาด เธอมักจะมีคำตอบเป็นที่กระจ่างไร้ข้อกังขาต่อเจ้านายของเธอได้เสมอ

“ได้ค่ะ คุณผู้หญิง”เอลิน่ารับปากอย่างไร้ข้อสงสัย

“อย่าเรียกฉันว่าคุณผู้หญิงเลยคุณเอลิน่า...เรียกชื่อเล่นก็พอเรียก‘มัท’ หรือ ‘มาธ่า’ ก็ได้ พอได้ยินคำว่าคุณผู้หญิงทีไร...ฉันรู้สึก...จักจี้หัวใจไปซะทุกทีเลย”

“ได้ค่ะ...คุณมัท” เอลิน่าตกปากรับคำอย่างแข็งขัน ไม่มีอะไรที่เจ้านายขอแล้วเธอจะทำไม่ได้

“ขอบใจมาก ๆ เลยนะจ๊ะ...” สีหน้าของหญิงสาวอมยิ้มอย่างพึงพอใจกับคำตอบที่ได้รับ ก่อนที่จะจรดปลายนิ้ววางสายลงด้วยสีหน้านึกสนุกแววตาของเธอสุกใสเป็นประกายเมื่อนึกถึงฉากประทับใจเล็ก ๆ ที่จะเกิดขึ้นในคืนวันชายโฉด

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel