บทที่ 1.2 “Do you marry me ?”
“เขาว่ากันว่าผู้หญิงฉลาด เป็นสิ่งต้องห้าม...” ชายหนุ่มเกริ่นเสียงนุ่มกระซิบลงข้างหูเจ้าของเรือนเอวอันกลมกลึง หญิงสาวหมุนตัวกลับหลัง เรือนกายของเขาและเธอแนบชิดกันด้วยอ้อมกอดแข็งแรงของชายหนุ่ม ทั้งใบหน้าก็ประจันหน้าเข้ากัน นัยน์ตาสวยของมัทนามองสบนัยน์ตาที่เปี่ยมไปด้วยแววตาคุกคามของคนตรงหน้า เธอขวยเขินเบี่ยงสายตาหลบไปทางอื่นด้วยเพราะหัวใจของเธอมักพ่ายแพ้ให้แก่สายตาของแอนดี้ ราวกับเทียนไขอ่อนยวบลงเมื่ออยู่ใกล้กับเปลวไฟอย่างนั้น
และในระหว่างนั้น...สายตาของมัทนาก็สังเกตเห็นว่าชุดที่แอนดี้ใส่มาเป็นชุดที่เขาตำหนิว่าไม่พอดี ทำเอามัทนาผละออกจากแผงอกแน่นซึ่งแนบชิดอยู่กับเรือนร่างของเธอในทันที
“ไหนว่า...ไม่พอดีไงคะ ? ” มัทนาใช้ฝ่ามือของเธอลูบไล้ไปตามแผงอก หัวไหล่ ต้นแขน เรือนเอวบนเรือนร่างของชายหนุ่มตรงหน้า เพื่อตรวจจับจุดไม่พอดีตามคำสบประมาทของเขา
หญิงสาวใช้ฝ่ามือซึ่งเต็มไปด้วยจิตวิญญาณของดีไซน์เนอร์ของหญิงสาวลูบคลำไปทั่วทั้งเรือนร่างของว่าที่เจ้าบ่าวอย่างไม่เกรงใจ ทำเอาคนถูกลูบคลำไม่เพียงแต่ขนลุกเกลียวไปทั่วทั้งตัว อวัยวะบางส่วนของเขาพานก็ตื่นตัวขึ้นตามสัมผัสของเธอไปด้วย
ในขณะที่มัทนากำลังวุ่นวายหาจุดผิดพลาดของตนเองบนเสื้อผ้าของชายหนุ่มคู่หมั้น สองฝ่ามือแข็งแรงก็เข้าสกัดฝ่ามือบางที่ดูเหมือนกำลังซุกซนอยู่บนร่างกายของเขาไม่หยุด...
“อืม...หมายความว่ายังไงคะเนี่ย...กลายเป็นคนเจ้าเล่ห์อย่างนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน ? ” แววตาที่เล่นทีจริงของชายหนุ่มทำให้มัทนารู้ว่าตนเองโดนกลของคนขี้โกงเข้าเสียแล้ว
“ก็...ตั้งแต่เมื่อสามปีก่อน...”ชายหนุ่มตอบหน้าตาเฉยระหว่างนั้นก็ใช้นัยน์ตาคมของเขาช้อนมองใบหน้าที่ชวนมองของมัทนาอย่างหวานฉ่ำ แววตาคุกคามที่ทำเอามัทนาต้องเบนหน้าหลบอีกครั้งก่อนที่จะถูกฝ่ามือข้างหนึ่งของเขาเข้าเชยคางแกมบังคับให้เธอหันไปสบตากับเขา
ในขณะที่อารมณ์และบรรยากาศที่กำลังเป็นใจให้เขา
อดิรัตน์จึงไม่รอช้าที่จะโน้มใบหน้าเข้าหาหญิงสาวแล้วปิดเปลือกตาของเขาพริ้มลงหมายที่จะวางริมฝีปากของเขาทาบทับกับริมฝีปากนุ่มของเธอ…
ทว่า…ชายหนุ่มกลับต้องมีอันต้องให้เปิดเปลือกตาของเขาขึ้น
เพราะ...แทนที่ริมฝีปากของเขาจะสัมผัสลิ้มรสริมฝีปากอันฉ่ำนุ่มของคนตรงหน้าอย่างใจดังหวัง แต่เขากลับได้จุมพิตกับเรียวนิ้วมือของคนรู้ทันอย่างมัทนาแทน
“ไหนว่าจะไม่รุ่มร่ามกับมัทจนถึงวันแต่งงานยังไงล่ะคะ ? ” มัทนาทวงถามสัญญาในวันที่เธอตกลงจะพัฒนาความสัมพันธ์กับเขา
เธอไม่ขอให้เขาผูกขาดความรักไว้กับเธอเพียงผู้เดียว ในระหว่างที่ทั้งคู่ตกลงจะคบหาดูใจกัน หากว่าเขาเกิดถูกใจใครมากกว่าเธอ เธอก็ยินดีที่จะจบความสัมพันธ์ระหว่างกันลงได้ในทันที เพราะเธอเข้าใจว่าไม่ว่าชายหนุ่มคนไหนต่างก็ต้องการคู่ครองที่ไม่ผูกมัดจนกว่าเขาจะแน่ใจ ทว่าในระหว่างนั้นการผูกพันทางกายระหว่างเธอและเขาจะไม่เกิดขึ้นแม้กระทั่งจูบ...
แอนดี้สูดลมหายใจเข้าลึก ๆ ราวกับว่าเขากำลังฝังกลบเอาพลังงานบางอย่างที่พลุ่งพล่านในจิตใจให้จมหายไปยังก้นบึ้งความรู้สึก เขาจำคำสัญญานั้นได้ ตอนนี้เขาจึงทำได้แต่เพียงนำเธอมากอดไว้แนบอกเท่านั้น
“โอเค...ผม...ผมขอโทษ...คือผมแค่จะบอกว่า แซมจะจัดปาร์ตี้สละโลดที่สระน้ำหลังบ้าน ในคืนวันศุกร์หน้า” มัทนาเงยหน้าขึ้นมองใบหน้าของชายหนุ่มด้วยแววตาไร้ซึ่งข้อกังขา
“มัท...ไปด้วยได้มั้ยคะ... ? ” หญิงสาวเอ่ยถาม แววตาของเธอสดใสจนเจ้าของอ้อมกอดนิ่งเงียบไปพักใหญ่ด้วยไม่รู้จะให้คำตอบกับเธออย่างไร
สีหน้าที่สับสนของแอนดี้ชวนให้มัทนาหัวเราะออกมาเพราะหญิงสาวรู้ว่าคำขอของเธอทำให้เขารู้สึกกระอักกระอ่วนใจเป็นอย่างมาก
“อะ อะ เอาสิ...!” แอนดี้ตอบตกลงไปทั้งที่ตนเองก็ยังสองจิตสองใจระหว่างจะตอบว่าได้หรือไม่ได้ดี
เพราะเขาไม่อยากให้ว่าที่เจ้าสาวของเขาคิดมากกับรายละเอียดกิจกรรมที่จะมีขึ้นในงาน เขาเดาใจมัทนาไม่ออกเลยว่าที่เจ้าสาวของเขาอาจจะเข้าใจหรือไม่เข้าใจวัตถุประสงค์ของธรรมเนียมเลี้ยงสละโสดหรือไม่อย่างไร เพราะตั้งแต่คบหาดูใจกันมา มัทนาก็เป็นประเภทไม่หวือหวา เธอไม่ปาร์ตี้ เท่าที่เคยเห็นเธอก็จะแฮงค์เอ้าท์กับเพื่อนสนิทในวงการดีไซน์เนอร์ของเธอเพียงสองสามคนเท่านั้น และเมื่อมัทนาเสนอตัวอยากจะเข้าร่วมงานเลี้ยงสละโลดของเขาด้วย เขาจึงได้แต่ตบปากรับคำออกไปก่อน แล้วเขาจะพยายามทำให้เธอแน่ใจอีกครั้ง...ว่าเธออยากจะเข้าร่วมงานปาร์ตี้สุดเหวี่ยงกับเขาจริง ๆ
“คุณคงจะเป็นสาวที่สวยที่สุดในบรรดาสาว ๆ ที่แซมคัดเข้ามาร่วมงานอย่างแน่นอน...และผมคงจะมองใครไม่ได้นอกจากคุณ” แม้ว่าแอนดี้จะเป็นคนฉลาดแต่เขาก็ไม่เก่งที่จะอธิบายอะไรง่าย ๆ สักเท่าใด เขาจะบอกว่าที่เจ้าสาวเขาอย่างไรว่าในงานจะมีแต่สาว ๆ ที่จะมาแสดงโชว์วาบหวิวให้บรรดาเสือโหยได้อิ่มเอมความวาบหวามก่อนที่จะต้องล้อมตัวเองให้อยู่แต่ในกรอบทะเบียนสมรส
ถ้าหากว่า...มาธ่าของเขายังคงยืนกรานคำเดิมด้วยเพราะนึกสนุก...เขาก็พร้อมจะอยู่กับเธอทั้งคืนมากกว่าหญิงสาวคนใดในงานเลี้ยงสละโสดที่จะเกิดขึ้น
“มัท...ล้อเล่นน่ะค่ะ...ขอให้สนุกนะคะ” มัทนาเขย่งปลายเท้ายกตัวพาริมฝีปากบางของเธอไปแตะลงบนคางของชายตรงหน้าผู้เป็นว่าที่เจ้าบ่าวในอนาคตของเธอ