บทย่อ
เรื่องราวของดีไซเนอร์สาวที่หนีงานแต่งหลังจากเห็นพฤติกรรมบางอย่างในตัวว่าที่เจ้าบ่าวในคืนวันสละโสด ที่มันทำให้ฝันของเธอสลายเกินจะรับได้ จนต้องหนีไปพักใจไกลถึงเกาะเกือบร้างทางใต้ของไทย แต่ก็เกิดเรื่องราววุ่นวายบางอย่างตามมาเมื่ออดีตคนเคยรักพลิกแผ่นดินตามหา ขณะที่เธอก็เริ่มมีใจให้กับนายหัวหนุ่มที่ปลอมตัวเป็นแค่คนดูแลเกาะแห่งนี้ จนเกิดความสัมพันธ์ทางกายใจอย่างรวดเร็ว… รักเก่าก็ตามมา รักใหม่มันก็แซ่บบบ …คนสวยก็ว้าวุ่นเลยทีนี้…
บทที่ 1.1 “Do you marry me ?”
“ค่ะ มัทถูกใจชุดมากค่ะ ตรงกับใจของมัทที่ออกแบบไว้ทุกตารางนิ้วเลย ไม่มีอะไรต้องแก้แล้วล่ะค่ะ สวยถูกใจเหมือนได้ตัดเองกับมือขอบคุณมากนะคะ”
มัทนาว่าที่เจ้าสาวป้ายแดงใช้สายตามองเกลี่ยลงบนชุดสีขาวซึ่งใส่สวมทับอยู่บนหุ่นโชว์ตรงหน้าของเธอ น้ำเสียงเอ่ยกับปลายสายอย่างพึงพอใจในรายละเอียดทุกกระเบียดนิ้วอย่างอิ่มเอมใจ เธอค่อย ๆ ไล้เรียวนิ้วมือของตนเองลงสัมผัสกับแพรพรรณสีขาวไข่มุกซึ่งถูกตัดเย็บด้วยความปราณีตจนออกมาเป็นชุดแต่งงานที่เธอเป็นผู้ออกแบบและเลือกเนื้อผ้าด้วยตนเองทุกขั้นตอน
เสียอย่างเดียวที่เธอไม่ได้ลงมือตัดเย็บมันด้วยตัวเอง เพราะเธอต้องใช้เวลาไปตระเตรียมงานในส่วนต่าง ๆ ไม่เช่นนั้นชุดแต่งงานเพียงเท่านี้ก็ไม่คณามือของดีไซเนอร์ดีกรีห้องเสื้อรันเวย์มิลานอย่างมัทนาไปได้
“คุณมัทจะไม่ลองสวมหน่อยเหรอคะ ถ้าหากว่ามีสัดส่วนตรงไหนต้องแก้ หนูจะได้เอากลับไปให้ช่างปรับปรุงให้ค่ะ” ธิดาเกริ่นกับหญิงสาวเจ้าของชุดที่ยืนอยู่ตรงหน้าของเธอ
“ไม่เป็นไรจ้ะ ฉันโอเคแล้ว ทุกอย่างเพอร์เฟคดีแล้ว”
มัทนาตอบพลางก็พยักหน้าเบาๆ เป็นคำตอบให้แก่ธิดา พนักงานสาวผู้ซึ่งเป็นธุระนำชุดมาส่งให้เธอถึงที่โดยที่เธอไม่ต้องเสียเวลาเดินทางไปยังสตูดิโอ
“ดีใจที่คุณมัทชอบนะคะ...คุณมัทต้องเป็นเจ้าสาวที่สวยมากแน่ๆ เลยล่ะค่ะ” ธิดาเอ่ยพูดไปตามจริงอย่างที่เธอคิด
เพราะจากสายตาของธิดาแล้วมัทนาเป็นผู้หญิงที่เปี่ยมไปด้วยเสน่ห์ทั้งที่มองดูเพียงผิวเผินจากทางด้านหลัง เรือนร่างเพรียวบางของเธอที่ได้สัดส่วนสวยดูมีสุขภาพดี ทั้งผิวสีน้ำผึ้งของเธอก็ขับให้ผ้าเนื้อสีขาวมุกที่ใช้ตัดเย็บชุดดูสุกใสเป็นประกายสวยงาม
“ขอบใจมากจ้ะ”
มัทนาละสายตาที่มองชุดหันมายิ้มให้ธิดา ใบหน้าที่ถูกแต่งแต้มด้วยสีสันที่เป็นธรรมชาติรับกับสีของลูกเชอรี่ที่ถูกฉาบไว้อยู่บนริมฝีปากทำให้มัทนาดูมีเสน่ห์อย่างล้ำลึกยิ่งขึ้น ทั้งที่ธิดาที่เป็นผู้หญิงด้วยกันยังไม่อาจละสายตาจากมัทนาได้โดยง่าย
“ให้หนูช่วยยกเข้าที่ให้มั้ยคะ ? ” ธิดาไม่ลืมที่จะถามซ้ำเพราะเธอถูกกำชับมาให้ดูแลลูกค้าให้พอใจที่สุดในทุกครั้งที่ให้บริการ ถึงแม้ว่าในครั้งนี้ธิดาจะเกือบลืมเพราะเผลอมองมัทนาผู้เป็นลูกค้าของเธอจนเพลินจนเกือบลืมทำสิ่งสำคัญไป
“ไม่แล้วจริง ๆ จ้ะ ฉันโอเคแล้ว ทุกอย่างดีแล้ว” มัทนาเอ่ยตอบอย่างรวดเร็วให้คนรอฟังคำตอบได้รู้ว่าเธอได้รับสิ่งที่พึงใจอย่างเพียงพอแล้ว...
“โอเคค่ะ หากคุณมัทไม่มีอะไรเพิ่มเติมแล้วหนูก็โล่งใจค่ะ” มัทนาพยักหน้าเบา ๆ หนึ่งครั้งระหว่างที่เธอหันหน้ามายิ้มให้กับธิดา
“หนูกลับก่อนนะคะ” มัทนาพยักหน้ารับอีกครั้ง ก่อนที่จะยกมือรับไหว้ธิดา
“กลับดี ๆ นะ” รอยยิ้มที่มองเพียงปราดเดียวก็ติดตาของมัทนาทำเอาหลายคนที่เคยเจอเธอพลอยยิ้มได้ตามไปด้วย
ด้วยรอยยิ้มอันแสนสดใสราวกับดอกกุหลาบแรกแย้มในยามต้องแสงอรุณของมัทนาเมื่อสามปีก่อนที่อิตาลี ในคราวที่เธอเฉิดฉายบนเวทีรันเวย์มิลาน ในฐานะดีไซเนอร์หน้าใหม่ผู้ซึ่งได้รับการตอบรับอย่างล้นหลามด้วยยอดขายหลายล้านยูโร เธองามสง่า ฉลาด และมีความมั่นใจตรงตามผู้หญิงในทัศนะคติของนักธุรกิจหนุ่มไฟแรงเช่นแอนดี้ อดิรัตน์ผู้ถือหุ้นใหญ่ของสโมสรฟุตบอลระดับโลก เขาผู้ซึ่งเป็นสปอนเซอร์รายใหญ่ในครั้งนั้น ถึงกับลงมือเขียนจดหมายน้อยเหน็บไปในช่อดอกกุหลาบช่อโตเพื่อขอดินเนอร์เดตกับมัทนาในคืนวันเดียวกันนั้น
มัทนายิ้มกว้างให้กับความทรงจำที่พรั่งพรูมาจากความทรงจำอดีต ในระหว่างที่เธอทอดสายตามองชุดเจ้าสาวที่พราวพร่างอยู่เบื้องหน้า โทรศัพท์ที่กำไว้ในมือราวกับเป็นส่วนหนึ่งของอวัยวะเกิดสั่นขึ้น...
ครืด ครืด ….ที่รัก
“ไฮ...ดาร์ลิง” หลังจากปราดมองหน้าจอเพียงผ่านตา
มัทนาก็ไม่รอช้าที่จะรับสายนั้นอย่างเต็มใจด้วยน้ำเสียงที่สดใสและอ่อนหวาน
“ผมกำลังลองชุด...”เสียงชายหนุ่มที่คุ้นเคยดังตอบกลับมา
“คุณ...ว่ามันโอเคมั้ยคะ ? ” มัทนาเอ่ยถามอย่างกริ่งเกรงในคำตอบที่เธอกำลังจะได้รับ
“ผมว่า...มันออกจะไม่พอดีไปนิด...หรือผมน้ำหนักขึ้น...ก็ไม่รู้สินะ!” คำตอบของปลายสายทำเอามัทนาทำหน้ายุ่ง เธอครุ่นคิดทบทวนถึงความผิดพลาดในทันทีว่าตนเองปล่อยผ่านส่วนสำคัญตรงไหนให้หลุดรอดไป หรือหลงลืมที่จะกำกับตรงส่วนใดไป จึงได้ทำให้เกิดรายละเอียดผิดพลาดขึ้นมาได้
“มัท...กำชับแล้วนะคะเนี่ย อุตส่าห์วางใจให้ร้านตัดเย็บเก่าแก่ทำงานให้เลยนะ ทำไมไม่เป็นมืออาชีพเลย ? ” หญิงสาวละสายตาออกจากชุดสีขาวของเธอในทันที
มัทนารู้สึกเป็นกังวลในสิ่งที่ผิดพลาด เธอจึงหุนหันคว้าเอากุญแจรถที่วางอยู่บนเคาน์เตอร์มาไว้ในมือก่อนที่จะผลักประตูออกไปอย่างรวดเร็ว จนไม่ทันได้สังเกตสิ่งผิดปกติรอบข้างกายเป็นผลให้แผนของใครบางคนสำเร็จ
“...แอนดี้!!” มัทนาพึมพำถึงใครคนหนึ่งซึ่งเธอจำได้แม้กระทั่งกลิ่นน้ำหอมของเขาขณะที่เธอถูกโอบกอดเรือนเอวเอาไว้จากทางด้านหลัง
“เป็นแผนของคุณใช่มั้ยคะ ? ” หญิงสาวออกปากถามเพื่อความแน่ใจอีกครั้ง ทั้งที่เธอรู้อยู่แก่ใจอยู่แล้วว่าเขาจะต้องเป็น
อดิรัตน์ว่าที่เจ้าบ่าวของเธออย่างแน่นอน