บทที่ 2 มอมเมา 1

“ไอ้เชี้ยพีค แผนอย่างต่ำ ไอ้ห่า!” ศิรชัชสบถใส่เพื่อนรักที่นั่งอยู่ข้างกันทันทีที่อีกฝ่ายหัวเราะหึๆ ออกมาเบาๆ

ด้วยเพราะต่อมความอยากใส่ใจของเขามันทำงานตั้งแต่คุยกันก่อนหน้านี้แล้ว ดังนั้นตลอดระยะเวลาเกือบชั่วโมงที่ผ่านมาเขาจึงไม่เป็นอันทำอะไรอย่างอื่นเลยนอกจากนั่งจ้องคนเป็นเพื่อนอย่างพฤทธิ์

กระทั่งเขาจับสังเกตมันได้นั่นแหละว่าเป้าหมายของมันคือใคร เขาถึงได้เลิกนั่งจ้อง แต่เขาก็คิดไม่ถึงเลยว่าเขาต้องมาตกใจกับการกระทำของเพื่อนสนิท ที่ร้ายกาจถึงขั้นวางยาผู้หญิง

“นี่มึงอัพสกิลความแบดไปถึงขั้นไหนแล้ววะไอ้พีค ไอ้เชี้ยเอ๊ย! จะแอ้มสาวทุกวันนี้คือไม่เข้าไปจีบเข้าไปคุยเลย? โป๊ะยาแม่งอย่างเดียว เลวสัสๆ” ศิรชัชเอ่ยถามเพื่อนรักอย่างกระแทกกระทั้นก่อนจะทิ้งตัวลงพิงพนักโซฟาแรงๆ แล้วยกแก้วเหล้าขึ้นดื่ม

“มึงก็พูดเกินไป กูเลวเฉพาะกับคนที่ทำไม่ดีกับกูก่อนเท่านั้นแหละ”

“? ...หมายความว่าไงวะ หรือว่ามึงกับผู้หญิงคนนั้นเคยรู้จักกันมาก่อน?”

“ก็ไม่เชิง” พฤทธิ์ตอบแล้วยื่นโทรศัพท์มือถือของตนเองให้เพื่อสนิทดู

“ใครวะ? ผู้หญิงคนนั้นเหรอ”

“อืม...ชนิกานต์ อิงครัต คนรักเก่าพี่ชายกู” พฤทธิ์เอ่ยตอบด้วยน้ำเสียงที่เข้มจัดกว่าเดิมอย่างเห็นได้ชัด

และเพียงแค่ได้ยินคำว่าคนรักเก่าพี่ชายกูเพียงเท่านั้น ศิรชัชก็คาดเดาเรื่องราวทุกอย่างได้โดยที่พฤทธิ์ไม่ต้องอธิบายอะไรเพิ่ม

สามเดือนก่อนตัวศิรชัชเองก็ได้ไปร่วมงานศพของพีรเชษฐ์พี่ชายเพียงคนเดียวของพฤทธิ์ ทำให้ชายหนุ่มพอจะรับรู้อะไรๆ เกี่ยวกับสาเหตุที่แท้จริงของการเสียชีวิตของพี่ชายเพื่อนสนิทมาบ้าง นั่นจึงทำให้เขาเข้าใจการกระทำในครั้งนี้ของเพื่อนสนิทมากขึ้น เพราะถึงแม้พฤทธิ์จะไม่ใช่คนดีหรือคนขาวสะอาด แต่หมอนี่ก็ไม่ใช่คนเลวร้ายถึงขนาดคบไม่ได้อะไรขนาดนั้น ซึ่งก็เหมือนกับเขาที่เป็นคนเทาๆ ที่มีทั้งด้านดีและไม่ดีในตัวเอง ขึ้นอยู่ที่ว่าจะเลือกใช้ด้านใดแสดงออกต่อคนที่เดินเข้ามาในชีวิต

และในกรณีของผู้หญิงคนนี้...ไม่แน่ว่าพฤทธิ์อาจจะใช้ด้านสีดำของตัวเองที่มีอยู่แสดงออกกับเธอ ซึ่งสาเหตุก็เป็นเพราะพฤทธิ์เชื่อว่า เธอคนนี้แหละที่เป็นสาเหตุให้พีรเชษฐ์เสียใจจนถึงขั้นตรอมใจและหันหน้าไปพึ่งสารเสพติดเพื่อบรรเทาความเจ็บปวด

“มึงแน่ใจนะว่าใช่ ประวัติที่คนของกูส่งให้มึงอ่านหมดรึยัง ไม่ใช่ว่าผิดฝาผิดตัวหรือว่ามีฝาแฝดขึ้นมานะเว้ย”

“กูแน่ใจว่าไม่ผิดตัว...ผู้หญิงแพศยาแบบนี้มีคนเดียวในโลกแหละมึง” พฤทธิ์ว่าพร้อมกับเบ้ปาก ก่อนจะหันไปชนแก้วกับเพื่อนสนิท

ตัวเขายังไม่อ่านประวัติของชนิกานต์ที่คนของศิรชัชส่งมาให้ก็จริง แต่สำหรับผู้หญิงคนนี้ เขาว่าเขารู้จักหล่อนดีในระดับหนึ่ง ต่อให้ไม่มีประวัติที่สั่งให้สืบมาเขาก็มั่นใจแน่นอนว่าเรื่องนี้ไม่มีทางผิดพลาด

ก็คนมันเคยๆ กันอยู่นี่นา...

ย้อนกลับไปเมื่อตอนที่เขายังเรียนอยู่ในระดับปริญญาตรีที่มหาวิทยาลัยชั้นนำแห่งหนึ่งของประเทศไทย เขาได้มีโอกาสรู้จักกับรุ่นน้องปีหนึ่งคนหนึ่งในคณะบริหารธุรกิจ แน่นอนว่าความสวยน่ารักของเธอสะดุดสายตาของเข้าอย่างจัง อีกทั้งเธอก็เพิ่งจบไฮสคูลมาจากอเมริกา เรียกได้เป็นดาวเด่นของคณะสุดๆ ตัวเขาที่เคยเป็นถึงเดือนคณะจะไม่ทำความรู้จักน้องใหม่เลยก็เหมือนจะเสียเกียรติภูมิของตัวเองอยู่หน่อยๆ

ใช่...ผมเข้าไปทำความรู้จักน้องใหม่คนนั้น และสุดท้ายก่อนที่ผมจะจบการศึกษาและเตรียมตัวที่จะไปเรียนต่อต่างประเทศ ความสัมพันธ์ของผมกับรุ่นน้องคนนั้นลึกซึ้งกันไปถึงไหนต่อไหน

ทว่า...ถึงแม้ผมจะเรียนจบและมีฐานะทางบ้านถึงขั้นดีมากๆ แต่ผมก็ไม่คิดตัดอนาคตของตัวเองโดยการแต่งงานมีครอบครัวตั้งแต่อายุยี่สิบเอ็ดยี่สิบสอง แน่นอนว่าผมบอกเลิกรุ่นน้องคนนั้นก่อนที่ผมจะเดินทางไปเรียนต่อที่อังกฤษ

ในเวลานั้นรุ่นน้องคนนั้นก็เหมือนจะเข้าใจสถานการณ์ที่เป็นอยู่ในเวลานั้นดี เธอเข้าใจอะไรง่ายสมกับที่เติบโตมาจากเมืองนอกเมืองนา รุ่นน้องคนนั้นยอมเลิกรากับผม พวกเราจากกันด้วยดีแถมยังมีคืนวันอันเร่าร้อนส่งท้ายให้กันและกัน