บท
ตั้งค่า

บทที่ 2 คิดจะจับเสือ เหยื่อต้องร้าย (1)

บทที่ 2 คิดจะจับเสือ เหยื่อต้องร้าย (1)

ตะวันสายโด่แต่ทว่าทั้งห้องยังคงมืดและเงียบเชียบไร้สิ่งใดเคลื่อนไหว แม้กระนั้นบอดี้การ์ดที่เฝ้าอยู่ด้านนอกก็ไม่กล้าย่างกรายเข้ามารบกวนผู้เป็นนาย เพราะกว่าเจ้าของห้องจะได้หลับใหลก็จวบจวนจะรุ่งสาง

หญิงสาวที่อยู่ใต้ผ้าห่มหนาพยายามบิดเอี้ยวร่างที่ปวดหนึบไปทั้งตัว เธอค่อย ๆ พลิกกายเพื่อชันตัวลุกขึ้น แต่กลับโดนลำแขนหนาโอบรัดกระชับแนบแน่นกว่าเดิม พร้อมกับจมูกโด่งคมที่ฝังกลบมาที่ซอกคอขาว เพียงแค่นั้นก็ทำเอาร่างเล็กขนลุกเกรียวไปทั่วร่าง

“มัท..คุณเปลี่ยนน้ำหอมเหรอ? ผมชอบนะ อยากจะหอมกกกอดคุณแบบนี้ไปตลอดเลย” เสียงอู้อี้พูดขึ้นพลางสูดดมกลิ่นหอมนั่นจากกายสาวอย่างหลงไหล

“……..”

หญิงสาวเพียงแต่ลอบถอนหายใจออกมาเบา ๆ หัวสมองก็พยายามคิดถึงเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นต่อจากนี้ และเมื่อไม่ได้ยินคำตอบจากอีกฝ่าย แอนดี้ก็จับร่างบางพลิกเข้าหาก่อนจะชันตัวขึ้นคร่อม

“อุ๊ย…คุณ” มาลีรินทร์ตกใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นฉับพลัน ก่อนจะเผลออุทานออกมา และซุ่มเสียงนั่นทำเอาชายหนุ่มรีบหันคว้ารีโมทเพื่อเปิดม่านในห้องทันที

“เธอ…!!! เป็นงี้ไปได้ไง”

“เอ่อ…คุณเป็นคนลากฉันมาที่นี่เองนะคะ”

แอนดี้พยายามคิดไล่เลียงเหตุการณ์เมื่อคืน และเขาก็นึกออกทันทีว่าหญิงสาวร่างเปลือยเปล่าล่อนจ้อนที่นอนอยู่ใต้ร่างของเขา ว่าเธอผู้นี้เป็นใคร และตอนนี้เธอคงกำลังแสร้งเหนียมอาย งุดหน้าต่ำ พร้อมยกมือเรียวบางปิดบังหน้าอกตู้มของเธอไว้ กริยาท่าทางนั้นทำราวกับว่าเธอเป็นเด็กสาววัยแรกแย้มที่ไม่ประสีประสากับผู้ชายยังไงยังงั้น

แอนดี้ปรายตาไล้ไปทั่วร่างเล็กที่พอจะยังมองเห็นก่อนจะพลิกตัวผละออก ในหัวของเขาตอนนี้มีเพียงสองสิ่งที่หญิงสาวด้านหลังจะคิดกับเขา อย่างแรกก็เพียงแค่สนุกตามประสานักท่องราตรี อย่างที่สองคงหวังเงินสักก้อนหรือเผื่อฟลุ๊คคงหวังให้เขาชุบเลี้ยงเป็นแน่

“ไม่ว่าเธอจะมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง แต่แน่นอนว่าเมื่อคืนฉันคงเป็นฝ่ายอนุญาตให้เธอเข้ามา และเธอควรจะต้องรู้ไว้ว่าฉันมีคู่หมั้นแล้วและเรากำลังจะแต่งงานกัน ฉะนั้นแล้วเรื่องระหว่างเราเมื่อคืนนี้ ฉันหวังว่าเธอจะเข้าใจสถานการณ์ทุกอย่างดี ลุกขึ้นแต่งตัวซะ อีกครึ่งชั่วโมงฉันจะให้คนขับรถขับไปส่ง”

แอนดี้พูดน้ำเสียงเรียบเฉย ครั้นพยายามสุภาพอย่างที่คนอย่างเขาจะทำได้ โดยที่เขานั่งหันหลังให้และไม่คิดจะชายตามองมาลีรินทร์ให้เสียลูกตาด้วยซ้ำ เมื่อไม่เมาความหยิ่งยะโสถือตัวว่าเหนือกว่าคนอื่นของเขาก็กลับมา

“ค่ะ..ฉันรู้ว่าคุณเพิ่งถูกคู่หมั้นเทงานแต่ง” มาลีรินทร์พูดขึ้น ขณะชันตัวลุกขึ้นนั่งอย่างยากลำบาก ก่อนจะไล้มือไปที่ลำแขนแกร่งของเขา

“งั้นเธอจะบอกว่า เรื่องที่เราเจอกันเมื่อคืน ไม่ใช่เรื่องบังเอิญสินะ” แอนดี้หันหน้าจ้องไปที่ดวงตาคู่สวย ก่อนจะยกยิ้มมุมปากเหยียด ๆ

“ก็..บังเอิญนะ…นี่คุณ..ฉันไม่ได้เป็นฝ่ายลากคุณมาขึ้นเตียงนะ”

หญิงสาวเริ่มเสียงแข็งใส่ ถึงแม้ว่าเธอจะอยากจับผู้ชายตรงหน้าให้อยู่หมัด แต่กระนั้นเขาก็ไม่มีสิทธิ์มองเธอด้วยสายตาแบบนั้น แอนดี้ที่ทนฟังคำตอบนั่นก็ลุกพรวดทั้ง ๆ ที่ร่างกายเขาไม่มีสิ่งใดปกปิดอยู่เลย ทำเอา

มาลีรินทร์ต้องเบือนหน้าหนี

“เอาไป…ฉันไม่มีเวลามาเถียงกับเธอทั้งวันหรอกนะ”

แอนดี้เดินกลับมาหยุดตรงหน้าหญิงสาวพร้อมยื่นเช็คเงินสดหนึ่งแสนในมือให้ มาลีรินทร์ตอนนี้ถึงกับหน้าร้อนผ่าวกับสิ่งประเจิดประเจ้อชี้โด่ชี้เด่ที่อยู่ห่างหน้าเธอเพียงแค่ช่วงศอก ถึงแม้ว่าสิ่งที่เขาทำมันยิ่งตอกย้ำความไร้ศักดิ์ศรีของเธอ แต่กระนั้นมือบางก็เอื้อมไปคว้าเช็คใบนั้นอย่างเสียไม่ได้ เธอปรายสายตาดูตัวเลขบนกระดาษก่อนจะช้อนหน้าขึ้นมองเขาและพูดออกไปว่า

“มันไม่น้อยไปหน่อยเหรอ…สำหรับค่าเปิดซิง!!” หญิงสาวกลั้นใจพูดในสิ่งที่ไม่คิดว่าชีวิตนี้จะต้องพูดออกมา ในสถานการณ์อันน่ากระอักกระอ่วนแบบนี้ นี่มันไม่ใช่สิ่งที่เธอคิดสักนิด

“หึ…เอาจริงดิ นี่ใช้มุขนี้มากี่ครั้งแล้วล่ะแม่คุณ เท่าที่ฉันจำได้ลางๆ มันไม่น่าจะใช่แบบนั้นนะ หึ”

แอนดี้โน้มตัวเข้าหาโดยใช้ลำแขนแกร่งของตนค้ำยันคร่อมร่างบางไว้ ก่อนจะใช้สายตาเหยียดไล้ไปทั่วดวงหน้าสวยของคนตรงหน้า ซึ่งต้องยอมรับว่า ผู้หญิงตรงหน้าเข้าขั้นสวยจัด ทำเขาเผลอไผลมองอย่างลืมตัวหลายต่อหลายครั้งเมื่อได้สบตา ขณะที่ในหัวก็คิดถึงเรื่องลามกสุดเหวี่ยงเมื่อคืน แม้ว่าภาพในหัวจะไม่ชัดเจนมากนัก แต่เขาก็พอจะเข้าใจได้ว่าอะไรเป็นอะไรและมันไม่ได้ลางเลือนจนเก็บมาจินตนาการต่อไม่ได้

“ก็คิดจะใช้หลายครั้งอยู่เหมือนกันนะ…ซ้อมพูดมาตั้งนาน ในที่สุดก็ได้พูดสักที” มาลีรินทร์พูดพลางทำหน้ายียวน ด้วยนึกหมั่นไส้คนร่างยักษ์ตรงหน้า ก่อนยกแขนเรียวสองข้างขึ้นโอบรอบคอคนตัวโตตรงหน้าและดึงเขาเข้าหาจนหน้าของทั้งคู่ห่างกันเพียงคืบ

“หึ…แสนหนึ่งฉันก็รู้สึกเสียดายเงินจะแย่อยู่แล้วกับผู้หญิงราคาถูกแบบเธอ!!” พูดจบเขาก็สะบัดการเกาะกุมของหญิงสาวทันที ทำเอาคนตัวเล็กหน้าเกือบคะมำ ก่อนที่เขาจะเหยียดกายยืนเต็มความสูง มือข้างนึงก็คว้าผ้าขนหนูมาพันเอวไว้หลวม ๆ

“ฉันคงไม่จบอยู่ที่หนึ่งแสนหรอก..แล้วเจอกันนะคะสามี!!”

มาลีรินทร์คลี่ยิ้มหวานให้ ก่อนจะพยายามชันกายลุกขึ้นยืนเยื้องกายเปลือยเปล่าลงจากเตียงและก้มเก็บเสื้อผ้าที่หล่นเกลื่อนพื้น แอนดี้ถึงกับหมุนตัวหนีภาพชวนหวิวนั่นทันที นี่คงเป็นสิ่งเดียวที่เขาพยายามไม่จดจำ ด้วยกลัวว่าหากเขาระลึกถึงมัน ในมโนภาพได้ชัดเจน อาจจะเป็นเรื่องยากที่เขาจะเขี่ยความสัมพันธ์นี้ออกไป

มาลีรินทร์เม้มปากไว้แน่นขณะก้าวเดินออกไป โดยไม่แสดงความปวดเกร็งของร่างกายออกมา แต่ถึงอย่างนั้นแอนดี้ที่แอบลอบมองก็สังเกตเห็นว่าท่วงท่าการย่างก้าวของเธอไม่ปกติ

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel