บท
ตั้งค่า

หน้าที่ทำอาหาร

 คืนนี้จินเฟิงย้ายกลับมานอนห้องเดียวกับเขา ซึ่งเธอคิดว่านั่นเป็นเรื่องที่ดีแล้ว อีกอย่างเตียงของเขาก็เป็นเตียงที่นอนสบายทีเดียว เธอรู้เพราะก่อนหน้านี้เธอเคยนอนที่เตียงนี้มาก่อน 

มือเรียวบางไม่ได้พาอย่างอื่นเข้ามาด้วย เพราะคาดหวังว่าอย่างไรแล้วคืนนี้เธอก็ต้องได้นอนบนเตียงนุ่มนั่น เขาคงไม่ใจร้ายไล่ภรรยาอย่างเธอลงไปนอนพื้นหรอก 

สายตาคมมองมาที่จินเฟิงโดยที่เธอไม่เข้าใจในสายตานั่นมากเท่าไหร่นัก จนกระทั่งอีกฝ่ายเอ่ยปากขึ้นมา

"เธอไม่พาผ้าห่มมาด้วย ? " 

" ผ้าห่มงั้นหรือคะ ไม่ใช่ว่าผ้าห่มผืนของคุณใหญ่มากหรือ ฉันบอกเลยนะคะ ว่าฉันไม่ยอมนอนพื้น"

เอาจริง ๆ จินเฟิงก็พอจะเดาออก ว่าเขาต้องไล่เธอไปนอนพื้นแน่นอน ใบหน้าที่หยิ่งผยองนั่น ไม่ได้มีความคิดที่ซับซ้อนมากนัก ในตอนที่เขาพูดออกมา เธอก็พอจะเดาออกแล้ว ว่าเขานั้นคิดอย่างไร

"อืม แล้วแต่เธอเถอะ ฉันปวดหัว แล้วก็ช่วยทำตัวสงบ ๆ  ด้วย"

เธอเห็นว่าเขาหลับตาไปแล้ว แต่ด้วยการแสดงที่ดีเยี่ยมของเขา เธอคิดว่าคนแบบเขาไม่มีทางไว้ใจเธอจนกระทั่งกล้าหลับหรอกนะ แต่ช่างเถอะใครจะหลับหรือว่าไม่หลับ นั่นไม่ได้เกี่ยวอะไรกับเธอ ตอนนี้ก็ดึกมากแล้ว และเธอก็รู้สึกง่วงเกินกว่าที่จะฝืนตาตัวเอง ไม่ว่าจะเกิดเรื่องอะไร ขอลุกขึ้นมาสู้รบตบมือในวันพรุ่งนี้ก็แล้วกัน

ลมหายใจของเธอสม่ำเสมอและกลายเป็นความเงียบ ช่างเป็นคนที่หลับได้ง่ายจริง ๆ  แม้ว่าอีกใจหนึ่งจะไม่วางใจมากนัก แต่ว่าเท่าที่เห็น ภรรยาของเขาคนนี้ เธอไม่น่าจะมีอันตรายต่อเขามากขนาดนั้น ในวันนี้ที่เธอออกตัวปฏิเสธพยาบาลคนใหม่ เขาคิดว่าเธอไม่ได้หึงหวงอย่างที่พูดออกมาหรอก หรือว่าภรรยาของเขาจะไปรู้อะไรมา 

ชีวิตของเธอเหมือนยืนอยู่บนเส้นด้าย ตั้งแต่ก้าวเท้าข้างหนึ่งเข้ามาในบ้านตระกูลโจวในฐานะนายหญิงแล้วล่ะ ในตอนแรกเขาก็กำลังคิดว่าตระกูลเสิ่นจะทำอย่างไรกับการที่ตระกูลโจวทวงสัญญาการแต่งงานระหว่างตระกูล บอกตามตรงว่าเรื่องลูกสาวคนโตอย่างเสิ่นจินเฟิง ไม่มีใครที่รู้เรื่องนี้มาก่อน บ้านเสิ่นเองคงตั้งใจปกปิด และตั้งใจไม่ให้เด็กสาวคนนี้มีตัวตนขึ้นมาตั้งแต่เริ่มต้น

ว่ากันตามจริง ตระกูลโจวมีพันธสัญญาให้ลูกสาวคนโตแต่งให้ตระกูลโจว คนเหล่านั้นตั้งใจแล้ว ว่าจะให้ลูกสาวที่เพียบพร้อมแต่งเข้าตระกูลโจว และตั้งใจปกปิดเรื่องของจินเฟิงคนนี้ ถ้าหากว่าเฟยหลงไม่ป่วย เขาคิดว่าตระกูลเสิ่นคงจะไม่ยินยอมให้ลูกสาวคนโตตัวจริงแต่งเข้าตระกูลโจวง่าย ๆ  

ตอนนี้อ้ายหนิงคนนั้น คงคิดว่าอีกไม่นานตำแหน่งผู้นำคนต่อไปต้องเป็นญาติผู้น้องของเขา ช่างเป็นผู้หญิงที่เห็นแก่ได้เอาเสียจริง ๆ ทั้งที่จริงแล้วการที่อ้ายหนิงยืนในวงการนี้ได้อย่างดี ก็เป็นเพราะเขาทั้งนั้น ผู้หญิงแบบนั้นช่างไม่แตกต่างอะไรกับอสรพิษ ที่ปล่อยเอาไว้ก็พาลแต่จะไม่มีอะไรดีขึ้น

ตอนนี้เขาอยากดูละครอะไรมากกว่านี้ อยากรู้ว่าผู้หญิงคนนั้นกับฉิงฮั่นจะไปกันได้สักกี่น้ำ อีกคนก็ชอบเอาชนะ อีกคนก็เห็นแก่ได้ ถ้าได้แต่งงานกันจริง ๆ  มันคงจะบันเทิงน่าดูทีเดียว

เสียงตะกุกตะกักในตอนเช้า เฟยหลงที่ไม่มั่นใจว่าตนเองเผลอหลับไปในตอนไหน ทั้งที่จริงแล้วเขาไม่เคยชินที่จะมีใครนอนอยู่เตียงเดียวกันกับเขา ตอนนี้คนที่คิดว่าควรจะหลับอยู่ เข้ามาพร้อมกับชามอาหาร ซึ่งแน่นอนว่าอาหารที่เธอนำเข้ามานั้น มันไม่ใช่อาหารสำหรับคนป่วย

"อะไร"

"รีบล้างหน้าล้างตา แล้วมาทานอาหารเถอะค่ะ"

"อาหาร  "

"ใช่ค่ะ อาหารเช้าพวกนี้ฉันปรุงเองกับมือ แล้วฉันก็จะมานั่งทานกับคุณด้วย คุณจะได้ไม่เหงาไงคะ"

"วุ่นวาย"

ถึงเขาจะพูดแบบนั้น แต่ก็ยินยอมที่จะลุกจากเตียงไปล้างหน้า ก่อนที่จะมานั่งมองจานอาหารที่ภรรยาเอามาจัดวางเอาไว้

"ทำเอง "

"แน่นอนค่ะ เห็นแบบนี้ฉันมีทักษะในการทำอาหารดีมากนะคะ "

ปกติแล้วเขาจะไม่กินอาหารที่คนในบ้านทำทั้งนั้น แต่เมื่อเห็นว่าจินเฟิงกล้าที่จะนั่งกินไปพร้อมกับเขาด้วย ไม่รู้ทำไมเขาถึงกล้าที่จะวางใจเธอได้มากถึงขนาดนี้กัน

"กวางตุ้งน้ำมันหอยค่ะ ฉันชอบกินมากทีเดียว"

"ชอบก็กินเข้าไปให้มากหน่อย ผอมจะเห็นกระดูกหมดแล้ว คนอื่นจะพูดเอาได้ว่าตระกูลโจวของเขาดูแลนายหญิงไม่ดี"

ทำเป็นอ้างนั่นนี่ เขาเองต่างหากที่เป็นห่วงเธอ จินเฟิงคิดในใจ ทว่าทำได้แค่กินอาหารกินเข้าไปอย่างเอร็ดอร่อย กว่าจะรู้ตัวเฟยหลงก็อิ่มไปก่อนแล้ว แต่วันนี้เขายอมกินอาหารด้วย ถือว่าเป็นการเริ่มต้นความสัมพันธ์ที่ดีทีเดียว

"อร่อยหรือเปล่าคะ"

"อืม  ต่อไปเธอก็จัดการเรื่องอาหารเถอะ"

เหมือนว่าเขาจะลืมคำสั่งก่อนหน้านี้ไปแล้ว ที่เขาห้ามไม่ให้เธอไปวุ่นวายกับห้องครัว ก็ช่วยไม่ได้จริง ๆ ที่เธอทำอาหารได้อร่อยจนเขาอยากจะกินเข้าไปมากกว่านี้ แต่ถ้าทำแบบนั้นมันก็จะเป็นเรื่องที่น่าสงสัยจนเกินไป เขายังต้องเล่นละครเป็นคนป่วยไปอีกนาน

"ได้สิคะ ฉันจะได้มีงานอะไรทำบ้าง"  

อีกฝ่ายแสดงท่าทีดีใจ เมื่อเขาอนุญาตให้เธอรับผิดชอบอาหารของเขาได้ แน่นอนล่ะที่เขาไว้ใจเพราะว่าอาหารทุกอย่างที่เขากิน เธอก็ต้องกินด้วย แบบนี้แล้วเธอจะกล้าที่จะวางยาเขาได้อย่างไร

การเจ็บปวดของเขา เป็นโรคที่หมอตรวจหาไม่พบ ก็แน่สิเพราะเขาไม่ได้เป็นอะไร ตรวจพบก็น่าจะเป็นเรื่องที่แปลกประหลาดเกินไปแล้ว ที่ทำแบบนี้เพราะต้องการเห็นเนื้อแท้ของใครหลายคนให้ชัดเจนมากยิ่งขึ้น ตอนที่กำจัดทิ้งจะได้ไม่เป็นการตัดสินใจที่ผิดพลาด

จินเฟิงนั่งเฝ้าสามี พลางเอาไหมพรมกับเข็มมานั่งถักเสื้อกั๊กอุ่น ๆ สำหรับคนเป็นสามี  ใช่ช่วงนี้เป็นฤดูร้อน แต่เป็นเพราะเธอว่างเกินไปต่างหาก ในเมื่อไม่มีอะไรให้ทำระหว่างวัน มันคงจะเป็นเรื่องที่น่าเบื่อเกินไป ถ้าหากว่ารอแค่ทำอาหารเท่านั้น

" ฉันจะให้ครูมาช่วยสอนเธอที่บ้าน ถึงตอนที่สอบเข้ามหาวิทยาลัย ก็จะได้ยื่นรายชื่อเข้าสอบ"

อยู่ ๆ เขาก็เอ่ยออกมาเงียบ ๆ เรื่องที่ต้องการให้เธอเรียนต่อเขาไม่ได้พูดเล่น ๆ แววตาที่จริงจังมุ่งมั่นแบบนั้นแล้วด้วย แน่นนอนล่ะว่าจินเฟิงยินดียิ่งกว่ายินดี เธอเองก็ชื่นชอบที่จะเรียนไม่ต่างกัน 

"ขอบคุณมากนะคะ"

เธอวางไหมพรมในมือลง ก่อนที่จะเหลือบสายตามองนาฬิกาที่บอกว่าลาว่าใกล้ถึงเวลาอาหารกลางวันของสามีแล้ว  ทว่าตอนที่จะผลักประตูออกไป กลับมีมือที่ผลักประตูเข้ามาอย่างไร้มารยาท

เป็นอ้ายหนิงกับฉิงฮั่นที่ควงแขนกันเข้ามาพร้อมกับการ์ดสีหวานในมือ เธอกระตุกยิ้มเล็กน้อย น้องสาวเธอคิดจริง ๆ สินะ ว่าในอนาคตผู้ชายคนนี้จะให้สิ่งที่เธอคาดหวังได้จริง ๆ

"พี่สาว พี่เขย อยู่พร้อมหน้าพร้อมตากันก็ดีแล้วค่ะ วันนี้ฉันแค่จะมาบอกข่าวดี ฉันกับคุณโจวฉิงฮั่นเราจะแต่งงานกัน"

เฟยหลงกระตุกยิ้มเล็กน้อย ก่อนที่จะปรับสีหน้ากลับมาเป็นปกติ อย่างที่ไม่มีใครทันได้สังเกตเห็น เวลาผ่านไปเพียงไม่นาน ไม่คาดคิดว่าญาติผู้น้องของเขาจะเร่งรีบขนาดนี้ เฟยหลงทอดสายตามองทั้งคู่ด้วยแววตาอ่อนแรง การแสดงที่ยอดเยี่ยมของสามี ทำเอาจินเฟิงแทบจะตบมือชื่นชมเขาจริง ๆ 

จินเฟิงยิ้มพลางถอยกลับไปยืนใกล้เตียงสามี

"ไม่คิดว่าทั้งสองจะมีข่าวดีกันเร็วขนาดนี้ แต่ในฐานะพี่สาวฉันก็ต้องแสดงความดีใจกับเธอด้วยอ้ายหนิง"

จินเฟิงยิ้มให้น้องสาว ในขณะที่ในใจนั้นเธอรู้สึกสมเพชทั้งคู่จนเต็มทนแล้ว ถ้าหากแต่งงานกัน คงจะเป็นคู่สามีภรรยาที่เหมาะสมกันมากที่สุดแล้ว

" พี่ไม่แสดงความยินดีกับผมหน่อยหรือครับ "

ฉิงฮั่นตั้งใจที่จะเยาะเย้ยเฟยหลง ทว่าแววตาที่ดูเหมือนไร้ชีวิตชีวา ไร้ซึ่งความรู้สึก ใด ใด แบบนั้นของอีกฝ่าย ทำเอาเขาแทบคลั่งออกมา อวดดีไปหน่อยเถอะ อีกไม่นานเขานี่แหละที่จะเป็นผู้นำตระกูลคนต่อไป ขนาดผู้หญิงของมัน เขายังแย่งมาได้ นับประสาอะไรกับตำแหน่งของมัน

" ออกไป "

แค่นั้นก็ดูออกแล้วว่าเฟยหลงไม่พอใจ แต่ทั้งคู่ก็ยังวางการ์ดสีหวานเอาไว้ให้

"ครับ ครับ  พวกเราไม่อยู่รบกวนพี่นานหรอก นี่การ์ดครับ หวังว่าผมจะได้รับเกียรติ อย่าลืมไปร่วมแสดงความยินดีกับพวกเราล่ะครับ"

ฉิงฮั่นเพิ่งสังเกตเห็นว่ากาฝากตระกูลเสิ่นดูดีขึ้นกว่าก่อนหน้านี้ทีเดียว ไม่ได้ผอมแห้งอย่างเช่นก่อนหน้านี้ ทั้งที่เพิ่งจะแต่งงานเข้ามาได้แค่เดือนเดียว ญาติผู้พี่ของเขาช่างดูแลผู้หญิงได้ดีจริง ๆ 

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel