ครูสอนหนังสือ
หลังจากที่ทั้งคู่เดินออกไป จินเฟิงหันมองสามีพลางเอ่ยขึ้นมาอย่างติดตลก
"คู่นั้นเหมาะสมกันจริง ๆ เลยนะคะ"
"อืม เหมาะกันดีจริง ๆ นั่นแหละ"
เขาตอบอย่างเห็นด้วยกับภรรยา เธอกลับเดินออกไปเพื่อเตรียมอาหารกลางวันให้สามี หลังจากที่เห็นนายหญิงลงมาทำอาหารด้วยตัวเองทุกวัน นั่นเป็นสิ่งที่คุ้นตาของสาวใช้ส่วนใหญ่ แน่นอนว่าเรื่องนี้ถูกรายงานไปที่บ้านรองเรียบร้อยแล้ว และตอนนี้สำหรับบ้านรองแล้ว จินเฟิงคือก้างชิ้นโตทีเดียว ที่ทำให้พวกเขานั้นจัดการเฟยหลงได้ยาก
ทำได้แค่ยืดเวลา เพราะอย่างไรแล้ว ก็มั่นใจว่าพิษที่อีกฝ่ายได้รับไป ก็เป็นอะไรที่เรียกได้ว่าค่อนข้างที่จะหนักพอสมควรแล้ว ให้ผ่านงานแต่งของลูกชายไปก่อน ถึงตอนนั้นแล้วค่อยมาหาแผนรับรองใหม่ก็ได้ว่าจะทำอย่างไรต่อไป
สายตาของจินเฟิงเห็นอาหารที่วางอยู่ในครัว ทว่าเธอที่กังวลเกี่ยวกับสารพิษที่ปนเปื้อน แน่นอนว่าเธอให้ต้าหลางออกไปหาวัตถุดิบใหม่มาทั้งหมด จงใจให้เห็นว่าเธอไม่ไว้วางใจอะไรทั้งนั้น
"คุณต้าหลางรบกวนด้วยนะคะ ช่วยไปซื้อของตามรายการให้ฉันหน่อย รีบหน่อยก็ดีค่ะ เจ้านายของคุณน่าจะหิวแล้ว"
ที่เอ่ยย้ำแบบนั้นไป อีกฝ่ายน่าจะเร่งให้เธอสักหน่อย เป็นที่รู้กันดีว่าพวกเขาไม่ควรที่จะทำให้มังกรสงบมีความโกรธขึ้นมา เพราะนอกจากไม่มีอะไรดีแล้ว ยังจะทำให้ต้องเดือดร้อน
"ครับนายหญิง ผมจะรีบ"
ต้าหลางออกไปไม่เกินยี่สิบนาที กลับมาอีกครั้งได้สิ่งของเท่าที่จินเฟิงต้องการจนครบ คนของสามีช่างทำงานได้เร็วดี สมกับที่ต้าหลางคนนี้เป็นมือขวาของเขาจริง ๆ
ที่เธอรู้เพราะตอนนั้น ตอนที่เขาไปบ้านเสิ่นพร้อมกับต้าหลางคนนี้ และฝาแฝดของเขาอีกคน การไปครั้งนั้นเพื่อเป็นการประกาศความยิ่งใหญ่ของแก๊งมังกร บอกแล้วอย่างไรล่ะ ว่าบ้านเสิ่นเองก็ถูกขึ้นบัญชีดำในใจของเขาไปแล้ว
"เร็วดีจริงเลยนะคะ "
"ครับนายหญิง" จะไม่ให้เขารีบได้อย่างไร ในเมื่อนายหญิงเอาความหิวของเจ้านายเขามาข่มขู่ แต่ก็น่าแปลกใจเหมือนกัน ที่คุณชายไว้ใจให้นายหญิงทำอาหาร แต่แบบนั้นก็ดีแล้ว ในตอนดึกดื่นเขาจะได้ไม่ต้องแอบเอาอาหารขึ้นไปให้เจ้านาย สถานการณ์ตอนนี้ก็เริ่มเป็นไปตามแผนของเจ้านายพอสมควรแล้ว
บ้านรองกำลังเคลื่อนไหวบางอย่างในธุรกิจ ก็แค่รอดูว่าคนพวกนั้นจะทำอย่างไรต่อไป ท่านผู้เฒ่าก็ออกไปพักผ่อนที่มาเก๊า คงอีกนานถึงจะกลับมา ช่วงนี้ถึงเป็นโอกาสทองให้คนพวกนั้นมุ่งทำเรื่องเลว ๆ ได้อย่างไม่หวาดกลัวเขี้ยวเล็บของท่านผู้นำ
หลังจากที่ได้ของมาแล้ว จินเฟิงก็เริ่มลงมือจัดการทำอาหาร สามีของเธอเหมือนจะตั้งหน้าตั้งตารออาหารกลางวันจากเธออยู่vg นับวันยิ่งเป็นเจ้าแมวน้อยของเธอ ยิ่งตอนที่ขู่ขนฟูนั่นยิ่งเป็นอะไรที่น่าสนใจ
อาหารที่หน้าตาธรรมดาเอาเสียมาก ๆ แต่ไม่รู้ทำไม เฟยหลงถึงกินอาหารจนหมดทุกครั้งไป รูปร่างที่ผอมเกินไปของเขาก่อนหน้านี้ เริ่มดูดีขึ้นมาบ้างแล้ว แน่ล่ะว่าเขากินอาหารครบสามมื้อ แถมในแต่ละมื้อ ก็มีสารอาหารที่ครบถ้วน แรก ๆ ก็บังคับตัวเองให้ได้อยู่หรอกว่าเขาไม่ควรกินมากเกินไป แต่นานวันเข้ามันไม่ได้บังคับความต้องการของร่างกายได้มากขนาดนั้น กว่าจะรู้ตัวอาหารในชามก็เกลี้ยงแล้ว
"เติมอีกสักชามไหมคะ ฉันทำเผื่อเอาไว้"
"ไม่ ฉันอิ่ม"
แม้ว่าต้องการมันมากขนาดไหน ได้แต่ร้องเรียกว่าก่อนหน้านี้ เขาเพิ่งจะกินข้าวหมดชามไป เขายังต้องแกล้งเป็นคนป่วยไปอีกนาน ถ้าหากว่าร่างกายยังได้รับอาหารอย่างครบถ้วนแบบนี้แล้ว มันจะเรียกได้ว่าสมจริงได้อย่างไรกัน
สามวันต่อมาอาจารย์ที่สอนหนังสือให้กับจินเฟิงก็มาถึง เฟยหลงตั้งใจให้ลูกน้องหาคนที่เป็นผู้หญิงเท่านั้น และกำชับว่าทำอย่างไรก็ได้ให้ภรรยาของเขานั้นสอบเข้ามหาวิทยาลัยให้ได้ในปีหน้านี้ มันเป็นงานที่หนักทีเดียว แต่เมื่อมองค่าจ้างที่สูงลิบ ใครบ้างที่จะไม่รับ
"สวัสดีค่ะ คุณนายโจว ฉันเหล่าซือลี่ ถิงอัน จะมาเป็นคนสอนหนังสือเตรียมความพร้อมสอบเข้ามหาวิทยาลัยนะคะ"
"สวัสดีค่ะ เหล่าซือ ฉันเสิ่นจินเฟิงค่ะ เรียกฉันว่าจินเฟิงเถอะค่ะ"
หลังจากที่ทำความรู้จักกับครู่ที่มาสอนหนังสือเบื้องต้นแล้ว จินเฟิงเริ่มต้นเรียนอย่างหนัก ต้องเรียกได้ว่านี่มันเป็นหลักสูตรเร่งรัดของจริงกันเลยล่ะ เธอสนใจกับการเรียนจนเกือบลืมอาหารของสามี แน่นอนว่าเรื่องนี้เธอก็ไม่วางใจให้แม่บ้านจัดหาให้เขา เธอขอเวลาเหล่าซือในตอนกลางวันเพื่อเตรียมอาหารสำหรับสามี อย่างน้อยก็ตอบแทนในสิ่งที่เขามอบให้ ถึงแม้ว่ามันจะเป็นแค่การเอาใจใส่ที่เล็กน้อยก็ตามที
มือเรียวเคาะประตู ก่อนที่จะเปิดเข้าไป เขามองมาที่เธอด้วยสีหน้าประหลาดใจ เขาคิดว่าตอนนี้ภรรยาของเขาควรเรียนหนังสืออยู่กับครูที่เขาจ้างมาไม่ใช่หรือ
"ทำไมไม่เรียน "
เฟยหลงเอ่ยถามออกมาเสียงเข้ม แต่จินเฟิงคุ้นชินจนเฉย ๆ กับน้ำเสียงแบบนั้นของเขาแล้ว สำหรับคนอื่นมันอาจน่ากลัว แต่เธอรู้ดีอยู่แก่ใจว่าเขาใจดีกว่าที่คิดเอาไว้
"ฉันขอตัวเหล่าซือมาทำอาหารกลางวันให้คุณก่อนค่ะ ฉันมีหน้าที่ของฉันนะคะ "
พอได้ยินแบบนี้แล้ว แทนที่จะรู้สึกโกรธเธอ เขากลับมีท่าทีเบาสบายลง อย่างน้อยเธอก็ไม่ได้หนีการเรียน แต่เขาก็ไม่ได้คาดหวังว่าเธอจะเป็นห่วงเขามากถึงขนาดนี้ ถึงจะรู้สึกดี แต่การแสดงออกก็ยังเฉยเมย เหมือนคนที่ไม่ได้รู้สึกอะไร
"กินอาหารกลางวันเถอะค่ะ"
น่าแปลกใจที่เธอไม่เคยขอให้เขากินยาที่หมอมอบเอาไว้ให้ แต่เขาแอบดูเม็ดยาจะหายไปจากซองยาในทุกวัน ตอนแรกก็คิดว่าคิดไปเอง แต่มันหายไปจริง ๆ
หรือเธอจะรู้ว่านั่นไม่ใช่ยารักษาเขาจริง ๆ แต่เป็นยาที่ยิ่งกินลงไปเท่าไหร่ อาการที่ทรุดมากขึ้นเท่านั้น แต่ที่ติดอยู่ในความคิด เธอจะรู้เรื่องนี้ได้อย่างไร เฟยหลงมั่นใจในตัวเองว่าเขาทำการแสดงได้แนบเนียนมากทีเดียว คงไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะมีใครรู้ หรือบางครั้งภรรยาของเขาจะมีเหตุผลอย่างอื่น
ช่างเถอะเมื่อไหร่ที่เธอไม่ได้คิดจะทำลายเขา เขาที่เป็นสามีก็จะให้ความช่วยเหลือเธอตามหน้าที่ แต่ที่ผ่านมาจินเฟิงก็ทำตัวดีมาตลอด ยิ่งอยู่กับเธอนานเท่าไหร่ ยิ่งได้รู้เลยว่าพื้นฐานนิสัยของเสิ่นจินเฟิง กับเสิ่นอ้ายหนิง แตกต่างกันมากจริง ๆ
"คุณคะ ฉันคิดว่าจะสร้างบ้านพักและเปิดให้คนเช่า "
"เอาสิ "
เขาคีบอาหารเข้าปากไป พลางพยักหน้ากับสิ่งที่เธอบอก เงินที่เขาให้เธอไม่ว่าเธอต้องการที่จะเอาไปทำอะไรนั่นคือสิทธิของเธอ ที่จริงจินเฟิงไม่ต้องบอกเขาก็ได้
" ได้หรือคะ"
"ฉันไม่ได้ห้าม ตอนนี้เธอรีบกลับไปเรียนต่อเถอะ ฉันจัดการเองได้"
"ไม่ค่ะ ฉันจะรอให้คุณทานเสร็จก่อน"
"ก็แล้วแต่เลย "
เขาเริ่มคุ้นชินกับการที่มีสายตาจ้องมองใบหน้าเขาแบบแทบจะกลืนกิน ก็พอจะเข้าใจได้ว่าทำไมถึงเป็นแบบนั้น เขาน่ะหน้าตาดีขนาดไหนก็พอที่จะรู้ ด้วยเชื้อชาติผสมที่น้อยคนนักจะรู้ว่าแม่ของเขาเป็นสาวญี่ปุ่น แน่ล่ะว่าคนในตระกูลไม่ยอมรับในตอนแรก จนกระทั่งแม่ให้กำเนิดเขาออกมา ปู่ถึงได้เริ่มเปิดใจต่อแม่มากขึ้น
"เลิกจ้องฉันแบบนั้นได้แล้ว ฉันอิ่มแล้วเธอเก็บไปได้เลย"
"ไม่ใช่ว่าคุณเพิ่งจะทานไปได้หน่อยเดียวหรือคะ ทานเพิ่มอีกสักนิดเถอะ"
"ไม่ และตอนนี้เธอก็ออกไปจากห้องฉันได้แล้ว"
"ค่ะ ๆ ออกก็ออก"
จินเฟิงตอบรับอย่างว่าง่าย เธอไม่อยากขัดใจเขามากนัก นับวันยิ่งขู่เก่งจริง ๆ หลังจากที่เขาเลิกเล่นละครว่าป่วย เธอยังคิดไม่ออกเลยว่าจะรับมือกับเขาอย่างไรดี แค่เพียงหวังว่าเมื่อถึงจุดนั้น เธอจะไม่มีจุดจบแบบเดิมก็พอ การเกาะขาทองคำคู่นี้ มันคงจะทำให้เธอมีชีวิตที่สงบสุขและปลอดภัย ไม่รู้สิ แต่เธอเชื่อว่าจะเป็นแบบนั้น
เมื่อเอาของไปเก็บในห้องครัว เธอก็เดินเข้าไปห้องเรียนอีกครั้ง เหล่าซือจัดเตรียมแผนการสอนในช่วงบ่ายเอาไว้ให้เรียบร้อยแล้ว เธอทั้งสอนได้เข้าใจง่าย และเพียงไม่นานจินเฟิงก็จดจำบทเรียนไปได้มากทีเดียว
