ตอนที่ 6 ท้องหรือเปล่า
...สองเดือนถัดมา…
“คุณพ่อข๋า คุณแม่ข๋า หนูกลับมาแล้วค่ะ” เสียงหวานแจ๋วของเอมิกาดังขึ้นพร้อมกับการปรากฏตัวของเธอ แต่คนในบ้านก็ดูไม่ได้ตื่นเต้นอะไรขนาดนั้นกับการกลับมาเท่าไหร่ แม้จะรู้สึกน้อยใจอยู่บ้างแต่ก็พยายามไม่คิดมาก เพราะยังไงเธอก็เป็นได้แค่ส่วนเกินอยู่ดี “หนูซื้อหมูกระทะชุดใหญ่มาฝากด้วยนะคะ”
เอมิกายื่นถุงของกินให้แม่เลี้ยง ท่านทำหน้าเหมือนเบื่อหน่ายแต่ก็รับไว้ ส่วนพ่อของเธอกำลังนั่งซ่อมพัดลมอยู่แต่ก็ไม่ได้พูดอะไร ดูไม่ได้ดีใจเลยด้วยซ้ำที่เห็นเธอกลับบ้าน
หญิงสาวเม้มปากเข้าหากัน พ่อจะดีใจไหมหากรู้ว่าเธอสอบได้ที่หนึ่งของห้อง
“คุณพ่อคะ หนูมีอะไรบางอย่างให้พ่อดูค่ะ” เอมิกาฉีกยิ้มแล้วยื่นใบเกรดให้คุณพ่อดู ท่านหันมามอง พยักหน้าหนึ่งครั้ง แลดูไม่ได้ดีใจขนาดนั้นเหมือนเป็นเรื่องปกติ เพราะเธอก็สอบได้ที่หนึ่งทุกเทอมอยู่แล้ว แต่อย่างน้อยก็น่าจะพูดอะไรสักคำให้เธอชื่นใจบ้าง ไม่ใช่เอาแต่เฉยชาเหมือนเธอไม่ใช่ลูก
“โอ้ย! กะอีแค่สอบได้ที่หนึ่ง ทำเป็นเรื่องใหญ่ไปได้ คิดว่าบนโลกใบนี้มีแกสอบได้ที่หนึ่งคนเดียวหรอ” เสียงแม่เลี้ยงดังขึ้นเพราะอิจฉาที่ลูกสาวของตนไม่เคยสอบได้ที่หนึ่ง แถมยังอยู่อันดับท้ายๆ ของห้องอีก “มาช่วยฉันเตรียมกับข้าวนี่! เดี๋ยวหนูนิก็กลับมาแล้ว”
เอมิกาหน้าจ๋อย วางสัมภาระลง เห็นสีหน้าเครียดๆ ของพ่อแล้วก็อดคิดมากไม่ได้ ท่านคงทะเลาะกับแม่เลี้ยงเรื่องเธอแน่ๆ กลับบ้านทีไรมักมีปัญหาตลอดเพราะแม่เลี้ยงไม่ค่อยขี้หน้าชอบเธอเท่าไหร่ คงทำให้คุณพ่อท่านหนักใจ รู้ดีว่าไม่มีใครต้องการแต่ก็พยายามปลอบใจตัวเองว่าสักวันเดียวทุกอย่างก็ดีขึ้น
หลังจากเตรียมอาหารเสร็จทุกคนก็มานั่งล้อมวงบนเสื่อผืนเก่าๆ ตรงกลางคือหม้อชาบูที่ผ่านการใช้งานมานับไม่ถ้วน แต่ก็ยังไม่ได้ลงมือรับประทานเพราะต้องรอลูกสาวคนโตของบ้านเสียก่อน บรรยากาศค่อนข้างอึดอัด แต่เอมิกาก็ชินแล้วแหละเพราะมันเป็นแบบนี้ประจำ
จนกระทั่งลูกสาวคนโตของบ้านกลับมาพร้อมกับถุงช็อปปิ้งเต็มไม้เต็มมือ เพราะเพิ่งไปเดินตลาดกับเพื่อนๆ มา
“แม่กำลังจะโทรหาพอดี มาลูกมา หม้อกำลังร้อนเลย” เสียงของแม่เลี้ยงร้องเรียกลูกสาวสุดที่รัก เอมิกาเงยหน้ายิ้มทักทายลูกสาวต่างแม่
“กลับมาตั้งแต่เมื่อไหร่” เสียงของนิโลบลถามอย่างห้วนๆ ก่อนจะวางถุงช้อปปิ้งลงซึ่งมีแต่ถุงเสื้อผ้า แต่ทันใดนั้นสายตาก็เหลือบไปเห็นมือถือเครื่องใหม่ราคาเกือบครึ่งแสนของเอมิกา ทำให้หล่อนตาลุกวาว เพราะมือถือที่ใช้อยู่ราคาแค่หมื่นต้นๆ เอง “มือถือใครอ่ะ”
“ของอ้อมเองจ้า”
“ขอดูหน่อย” หล่อนหยิบมันขึ้นมาดูอย่างถือวิสาสะ รู้สึกอิจฉาน้องสาวนอกคอกที่ได้ใช้มือถือรุ่นดีกว่าตัวเอง “ใครซื้อให้”
“อ้อมเก็บเงินซื้อเองจ้า”
“ไม่เชื่อหรอก มือถือแพงขนาดนี้คนอย่างแกคงไม่มีปัญญาซื้อแน่นอน แกมีเสี่ยเลี้ยงใช่ไหม!”
“ปะ..เปล่านะพี่นิ! อ้อมเก็บเงินซื้อจริงๆ อ้อมไปทำงานกับน้ำใสมา”
“มือถือรุ่นนี้เพิ่งเปิดตัวล่าสุดสามเดือนที่แล้ว แกไปทำงานอะไรมา ทำไมแค่สามเดือนถึงมีเงินซื้อมือถือราคาเกือบครึ่งแสน”
“อะ...อ้อมไปทำงาน...เอ่อ...เสิร์ฟมาค่ะ” เอมิกาหน้าซีด เหงื่อตก ไม่คิดว่าเรื่องแค่นี้นิโลบลจะยกมาเป็นประเด็นให้พ่อกับแม่เลี้ยงด่าเธอ
“ฉันไม่เชื่อหรอก แกต้องมีเสี่ยเลี้ยงแน่ๆ!” เมื่อได้ทีนิโลบลก็รีบหันไปฟ้องแม่หวังให้แม่ยึดมือถือมาให้ตน เพราะหล่อนเองก็อยากได้มือถือรุ่นนี้เหมือนกัน เพื่อนๆ ในมหาวิทยาลัยต่างก็ใช้มือถือรุ่นนี้กันทั้งนั้น “แม่คะ ยัยนี่มันต้องมีเสี่ยเลี้ยงแน่ๆ หนูนิสัมผัสได้ ยึดมือถือมันมาเลยค่ะคุณแม่!”
“พอก่อนหนูนิ นั่นมันมือถือของน้องนะ” เสียงของคุณพ่อแย้งขึ้นพร้อมสีหน้าลำบากใจ
“แล้วคุณพ่อจะแน่ใจได้ยังไง....ว่าลูกของคุณพ่อไม่มีเสี่ยเลี้ยงจริงๆ ระวังท้องโย่ไม่รู้ตัวนะคะ!”
“พอเถอะหนูนิ ถ้าลูกอยากได้ เดี๋ยววันหน้าแม่ไปผ่อนให้นะ เรามากินหมูกระทะกันเถอะแม่หิวแล้ว” แม่เลี้ยงตัดบทเพราะไม่อยากให้ลูกสาวทะเลาะกับเอมิกา ลูกของหล่อนก็ต้องไม่น้อยหน้าเช่นกัน เอมิกาได้อะไร นิโลบลต้องได้มากกว่า
เอมิกาก้มหน้างุดด้วยความเสียใจ พยายามทำดีมาตลอดหวังให้พี่สาวต่างมารดาและแม่เลี้ยงยอมรับ แต่ผลที่ได้ ทุกคนก็ยังไม่ยอมรับในตัวเธออยู่ดี
แต่ในระหว่างที่เอมิกากำลังจะคีบหมูเข้าปาก จู่ๆ กลิ่นฉุดของอาหารก็ตีเข้าจมูกจนรู้สึกผะอืดผะอม
“อื้อ...อุ๊บ!!”
“เป็นอะไร” แม่เลี้ยงถามขึ้นพร้อมตวัดตาดุมอง
“นะ...หนูว่าน้ำจิ้มกลิ่นมันเหม็นๆ นะคะ สงสัยน้ำจิ้มเสียแล้วแน่ๆ”
“น้ำจิ้มจะเสียได้ยังไง ฉันกับพ่อแกยังกินอยู่เลย”
“ตะ...แต่มันเหม็นจริงๆ ค่ะ หนูคลื่นไส้ไปหมดแล้ว อุ๊บ!!”
“คลื่นไส้งั้นหรอ...” แม่เลี้ยงหันไปมองหน้าสามี ทั้งสองสบตากันด้วยแววตาเชิงสงสัย อาการแบบนี้หล่อนเคยเป็นตอนตั้งท้องนิโลบล กระทั่งเสียงของนิโลบลดังขึ้น
“แกท้องหรือเปล่ายัยอ้อม!”
“ห้ะ! ปะ...เปล่านะ อ้อมไม่ได้ท้อง!”
“โกหก! อาการแบบนี้คืออาการของคนท้องชัดๆ แกท้องกับไอ้เสี่ยที่ซื้อมือถือให้ใช่ไหม!”
“เปล่านะพี่นิ..อะ...อ้อมไม่ได้ท้อง!” เอมิกาเหงื่อตก ส่ายหน้าปฏิเสธก่อนจะหันไปทางคนเป็นพ่อหวังขอความช่วยเหลือ “คุณพ่อคะ อ้อมไม่ได้ท้องนะคะ!”
“อย่าไปฟังมันค่ะคุณ อาการแบบนี้ท้องชัดๆ แถมช่วงนี้มันยังดูอวบๆ ขึ้นด้วย”
“ได้โปรดฟังอ้อมนะคะคุณพ่อ อ้อมไม่ได้ท้องจริงๆ พ่อเชื่ออ้อมนะ!”
“แล้วช่วงที่เรียนอยู่...แกแอบไปมีอะไรกับใครหรือเปล่า” คนเป็นพ่อถามอย่างไม่ไว้ใจ ลูกสาวเข้าไปเรียนในเมือง ค่อนข้างห่างไกลสายตา แถมยังได้มือถือเครื่องใหม่กลับมาอีก บางทีมันก็น่าคิด
“อะ..อ้อม...” เอมิกาหน้าซีดเหมือนกระดาษเอสี่ ไม่กล้าบอกความจริงกับพ่อ และยิ่งทำให้เธอมีพิรุธมากขึ้น
ใช่สิ! ตั้งแต่วันนั้นเธอก็ไม่เคยกินยาคุมเลย อีกอย่างประจำเดือนก็ไม่มาเกือบสองเดือนแล้ว ตอนแรกคิดว่าตัวเองเครียดเพราะเพิ่งผ่านช่วงสอบไป จนลืมคิดไปเลยว่าอาการที่ประจำเดือนไม่มามันยังมีอีกหนึ่งสาเหตุนั่นก็คือ...ท้อง!
“เหอะ! โจรไม่มีทางยอมรับหรอกว่าตัวเองเป็นโจร ไปซื้อที่ตรวจครรภ์มาซิหนูนิ ตรวจให้มันรู้ๆ ไปเลยว่าเป็นอย่างที่คิดหรือเปล่า เผื่อบางคนจะได้ตาสว่างขึ้นว่าลูกสาวไม่ได้ใสอย่างที่คิด!”