ตอนที่ 5 เธอคือใคร?
แสงตะวันยามเช้าสาดสะพรั่งผ่านม่านหน้าต่างสีขาวเข้ามา ปลุกให้ใครบางคนค่อยๆ รู้สึกตัว เผยอตาขึ้นอย่างมึนงง รู้สึกปวดเหมื่อยไปทั่วร่างกาย แข้งขาไร้เรียวแรง ครั้นพอจะยกขาก็รู้สึกเจ็บจี๊ดส่วนนั้นอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน เรียกได้ว่าเจ็บระบมไปหมด
ไรแดดอ่อนๆ ไล่ริ้วไปยังคนที่นอนหลับตาพริ้มอยู่ข้างๆ เขาเป็นชายหนุ่มลูกครึ่งไทย-จีน-อังกฤษ ส่วนสูงประมาณร้อยแปดสิบแปดเซนติเมตร ใบหน้าหล่อเหลาราวกับไม่มีอยู่จริงบนโลกมนุษย์ และเขายังเป็นถึงซุปเปอร์สตาร์หนุ่มที่โด่งดังที่สุดในตอนนี้
เอมิกาเผยอริมฝีปากขึ้น พอพลิกตัวก็ปรากฏว่าแขนไปชนเข้ากับอะไรบางอย่างที่มีลักษณะคล้ายๆ คน ทำให้ดวงตากลมโตเบิกโพลง แต่ยังไม่กล้าหันไป
เมื่อคืนเธอฝันว่าได้เจอกับมาร์ติน ซึ่งเป็นซุปเปอร์สตาร์หนุ่มชื่อดังของเอเชีย ในฝันยังได้ร่วมรักกันอย่างถึงพริกถึงขิง อยู่ในอ้อมกอดแสนอบอุ่นทั้งคืน แต่เมื่อนึกอะไรขึ้นมาได้ หัวใจดวงน้อยก็เต้นระส่ำ ก่อนหน้านี้จำได้ว่ามารับงานชงเหล้ากับน้ำไส และทำให้เธอได้เจอกับบุคคลที่ไม่คิดว่าชาตินี้คงไม่มีทางโคจรมาเจอกัน
“คุณมาร์ติน...”
หรือว่าเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืน....ไม่ใช่ความฝัน
พรึ่บ!
ดวงหน้างามหันขวับ ดวงตาเบิกกว้าง รีบยกมือปิดปาก ข้างๆ คือชายหนุ่มผู้อยู่สูงเกินเอื้อม แสดงว่าเมื่อคืนเธอมีอะไรกับมาร์ตินจริงๆ
ริมฝีปากสั่น น้ำตาพาลจะไหลลงมาอยู่รอมร่อ ร่องรอยตามเนื้อตัวบงบอกให้รู้ว่าเมื่อคืนมันคือเรื่องจริง เพราะความโลภอยากได้เงินไปซื้อมือถือเครื่องใหม่ ทำให้เธอดื่มเหล้าจนเมาแล้วเผลอมีอะไรกันและเขาก็ยังเป็นผู้ชายคนแรกของเธอด้วย
“มะ...ไม่จริง~" เธอกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่ ขยับตัวออกห่างมากขึ้น พยายามเงียบเสียงให้ได้มากที่สุดเพราะกลัวอีกฝ่ายตื่นขึ้นมา แต่เมื่อหางตาเหลือบไปเห็นรอยเลือด ทำให้น้ำตายิ่งไหลทะลักออกมาราวกับเขื่อนแตก
เรื่องพวกนี้มันไม่ควรเกิดขึ้น ถึงแม้มาร์ตินจะเป็นชายหนุ่มรูปงามและมีชื่อเสียงโด่งดังแต่มันก็ไม่ได้ทำให้เธอดีใจเลยที่ได้ขึ้นเตียงกับเขา เพราะเธอกับเขาเหมือนอยู่กันคนละโลก เขาเป็นลูกชายของตระกูลผู้ดีเก่าแห่งแดนมังกร เกิดมาบนกองเงินกองทองและยังเป็นถึงซุปเปอร์สตาร์ชื่อดังของเอเชีย เป็นที่หมายปองของสาวๆ ในขณะที่เธอ...เป็นแค่หญิงสาวธรรมดาๆ อาศัยอยู่บ้านนอกคอกนาตั้งแต่เกิด ที่บ้านมีอาชีพรับจ้างทั่วไปซึ่งแต่ละเดือนก็แทบไม่พอกิน
มันต่างกันราวฟ้ากับเหว
“เราไม่ควรเจอกันเลย...” เธอปรายตามองชายหนุ่มใบหน้าสลักหล่อเหลาด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความเศร้า ต้องรีบไปจากตรงนี้ก่อนที่เขาจะตื่นขึ้นมา จะไม่มีทางให้เขารู้ว่าค่ำคืนที่ผ่านมาได้พรากความบริสุทธิ์ของเธอไป
ทุกอย่างจะกลายเป็นความลับและหายสาบสูญไปกับเธอตลอดกาล...
หญิงสาวรีบก้มหยิบเสื้อผ้าขึ้นมาสวมใส่ แต่สภาพหลุดรุ่ยเกินกว่าจะสวมใส่ได้ หากออกไปในสภาพนี้ต้องมีคนรู้แน่ๆ ว่าเมื่อคืนไปทำอะไรมา ทำให้เธอตัดสินใจหยิบเสื้อคลุมราคาแพงของเขามาคลุมทับ พร้อมเอ่ยคำขอโทษในใจว่า....ไม่ได้ตั้งใจจะขโมยเสื้อราคาแพงขนาดนี้แต่เธอจำเป็นจริงๆ
ไว้มีโอกาส จะหาทางเอาไปคืน
“ลาก่อนนะคะ...คุณมาร์ติน” เธอเอ่ยเสียงเศร้าเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนจะเปิดประตูแล้วหายไปอย่างไร้ร่องรอย เหลือไว้เพียงเศษซากอารยธรรมที่เกิดขึ้นในค่ำคืนที่ผ่านมา มีเพียงชายหนุ่มที่นอนหลับตาพริ้มอย่างมีความสุข โดยไม่รู้ว่าเมื่อคืนผู้หญิงที่เขานอนด้วยเป็นใคร
สามชั่วโมงถัดมา...
ครืด~ครืด~
เสียงมือถือเครื่องหรูแผดดังขึ้น ทำให้ชายหนุ่มที่กำลังนอนหลับฝันหวานลืมตาขึ้นด้วยความหงุดหงิดพร้อมควานหามือถือ
“มึงออกจากไนท์คลับของกูยัง” ปลายสายคือเสียงของเตวิชญ์ เจ้าของไนท์คลับหรูซึ่งเป็นเพื่อนสนิทของมาร์ติน โทรมาถามด้วยความเป็นห่วงเพราะเมื่อคืนลูกน้องรายงานว่ามาร์ตินหิ้วผู้หญิงเข้าห้อง
“อ่าว กูอยู่ไนท์คลับของมึงหรอ” ร่างสูงดีดตัวลุกขึ้นนั่ง แต่ทันใดนั้นก็ต้องขมวดคิ้วเมื่อเห็นสภาพห้อง ซึ่งห้องนี้ก็คือห้องพักส่วนตัวของหุ้นส่วนไนท์คลับ เขาเอนหลังพิงหัวเตียง พร้อมกับครุ่นคิดว่าเมื่อคืนมันเกิดอะไรขึ้น ทำไมถึงไม่กลับบ้าน
“ลูกน้องของกูรายงานว่าเมื่อคืนมึงหิ้วผู้หญิงไปนอนด้วย กูก็เลยโทรมาถาม ทำอะไรก็ระวังหน่อยเดี๋ยวจะพลาดไม่รู้ตัว”
“ห้ะ! กูเนี่ยนะหิ้วเด็กในไนท์คลับของมึงมานอนด้วย บ้าไปแล้ว มึงก็รู้ว่ากูไม่มีทางเอาผู้หญิงพวกนี้”
“ถ้าไม่จริงแล้วลูกน้องของกูไปเอารูปมาจากไหน กินแล้วก็ใช้เงินยัดปากด้วย เดี๋ยวแม่งก็ซวยหรอก”
“ดะ...เดี๋ยวนะ! เมื่อคืนกูมีอะไรกับเด็กของมึงจริงๆ หรอ” ชายหนุ่มรีบก้มสำรวจดูร่างกายพบว่าตนอยู่ในสภาพเปลือยทั้งร่าง แถมบนที่นอนยังมีคราบน้ำรักสีขาวเลอะอยู่ แต่สิ่งที่ทำให้เขาสะดุดตานั่นก็คือ...รอยเลือด!
“มีหรือไม่มีมึงเองก็น่าจะรู้อยู่แก่ใจ เราเป็นผู้ชาย ยังไงก็ต้องทิ้งร่องรอยไว้อยู่แล้ว”
“มะ..มึง...กูเจอแจ็คพอตว่ะ!” เขาลูบรอยเลือดด้วยความสงสัย มันคือเลือดพรหมจรรย์หรือเลือดที่เกิดจากการใช้ความรุนแรง
“อะไรวะ”
“บนเตียงมึงมีรอยเลือด”
“เลือดอะไร”
“กะ...กูก็ไม่รู้เหมือนกัน” มาร์ตินกวาดตาดูรอบๆ ห้องก็ไม่เจอใคร เดินเข้าไปดูในห้องน้ำ เดินไปดูหลังห้องก็ไม่เจอใคร มีแค่ร่องรอยที่บ่งชี้ว่าเมื่อคืนเขามีอะไรกับหญิงสาวปริศนาจริงๆ
“เอาแล้วไง มึงไปเปิดซิงเขาหรือเปล่า”
“ถ้าเปิดซิงจริงๆ แล้วทำไมถึงไม่มีใครอยู่ในห้องกับกูวะ” ชายหนุ่มพยายามคิดว่าเธอคนนั้นคือใคร แต่ก็พอจำได้ลางๆ ด้วยความที่เมื่อคืนค่อนข้างมืดทำให้เขามองหน้าของเธอไม่ชัดเท่าไหร่ แต่ก็จำได้ว่าเธอคนนั้นสวยมาก สวยจนเขาอดใจไม่ไหว “ถ้าเป็นเด็กที่ไนท์คลับของมึงจริงๆ แสดงว่าคืนนี้เธอต้องมาทำงานถูกไหม?”
“อืม แต่มึงจำหน้าเธอคนนั้นได้ใช่ไหมวะ เด็กที่ไนท์คลับของกูไม่ใช่น้อยๆ นะ อย่าจำผิดคนนะเว้ยไม่งั้นซวยแน่”
“จำได้ลางๆ ว่ะ แต่ถ้าเห็นหน้าก็พอจะดูออกว่าเป็นใคร”
“งั้นคืนนี้เดี๋ยวกูพาไปชี้ตัวแล้วใช้เงินปิดปากเธอซะ เผื่อแม่นั่นแอบแบล็คเมล์มึง”
มาร์ตินทิ้งตัวลงนอน สองมือยกขึ้นคลึงขมับ เมื่อคืนยอมรับว่าเมามากจนถึงขั้นหิ้วเด็กที่ไนท์คลับของเตวิชญ์ไปกิน แล้วถ้าแม่นั่นแบล็คเมล์ขึ้นมาจริงๆ เขาต้องซวยแน่ๆ เพราะฉะนั้นคืนนี้ต้องหาตัวเธอให้พบ!
ในความคิดมีเพียงภาพของหญิงสาวรายหนึ่งลอยวนอยู่ในหัว นั่นกูคือภาพที่เธอดึงเขาเข้ามาบดจูบอย่างนุ่มนวล แม้จะเคยผ่านงานละครกับนักแสดงแถวหน้ามาหลายคน แถมบรรดาแฟนเก่าของเขาก็เป็นถึงนางแบบและเซเลบริตี้ชื่อดัง แต่ก็ไม่เคยเห็นใครสวยหมดจดเท่าผู้หญิงคนนี้มาก่อน
“เธอเป็นใคร?”