ตอนที่ 11 ทำงานที่กองถ่าย
@วันถัดมา...
หลังเลิกงานเอมิกาก็มาทำงานเสริมโดยการรับจ้างแจกใบปลิวตามสวนสนุกเหมือนทุกวัน หน้างามเงยขึ้นมองเครื่องเล่นที่มีเด็กเล่นกันอย่างสนุกสนาน จู่ๆ ก็เผลอยิ้มออกมาอย่างไม่ได้ตั้งใจ หลังเลิกเรียนผู้ปกครองมักพาลูกหลานมาเล่นที่สวนสนุกแห่งนี้ เสียงใสๆ ของด็กน้อยดังแจวจาวเหมือนกำลังมีความสุขทำให้เธออดยิ้มไม่ได้ พวกเขาดูมีความสุขมากเวลาอยู่กับเพื่อนๆ
แต่เครื่องเล่นที่สวนสนุกแห่งนี้ราคาค่อนข้างสูง เด็กส่วนใหญ่ที่มาที่นี่ล้วนเป็นลูกคนมีกะตังค์กันทั้งนั้น คิดแล้วก็แอบสงสารลูกตัวเองอยู่เหมือนกัน เขาจะมีโอกาสมาที่นี่กับเพื่อนๆ หรือเปล่าเพราะออสตินเป็นเด็กพูดน้อย ค่อนข้างเก็บตัวและไม่ค่อยมีเพื่อน ส่วนหนึ่งก็น่าจะมาจากสภาพแวดล้อมที่ส่งผลให้เขาเป็นแบบนี้
ได้แต่ภาวนาขอให้บริษัทที่เพิ่งยื่นใบสมัครนัดสัมภาษณ์เร็วๆ เพราะอยากพาลูกไปจากที่นี่แล้ว อยากให้เขาเจอสังคมใหม่ๆ เจอผู้คนใหม่ๆ
หญิงสาววางแก้วน้ำที่ดูดจนเกือบหมดลงบนม้านั่ง หยิบเครื่องสำอางราคาถูกออกมาจากกระเป๋า ใช้แป้งฝุ่นซับความมันออกจากใบหน้า เติมลิปสติกให้ริมฝีปากมีสีสันอีกนิดก่อนจะหยิบซองเอกสารสีน้ำตาออกมา ข้างในคือใบปลิวที่เธอต้องแจกให้หมดภายในวันนี้ คาดว่าใช้เวลาไม่ถึงชั่วโมงก็น่าจะแจกเสร็จ นิ้วเรียวแกะซองสีน้ำตาลแล้วหยิบปึกใบปลิวออกมา ทันใดนั้นหัวใจดวงน้อยก็กระตุกหน่วงอย่างไม่ได้ตั้งใจ
นั่งนิ่งอยู่อย่างนั้น...ไม่กล้าหยิบมันออกมา
เอมิกานั่งรวบรวมสติอยู่นาน ดวงตาค่อนข้างเหม่อลอยหลังเห็นสิ่งที่ต้องแจกให้กับผู้คนที่มาใช้บริการในสวนสนุกแห่งนี้ ริมฝีปากบางเม้มเข้าหากันจนเป็นเส้นตรง ค่อยๆ ดึงใบปลิวปึกนั้นออกมา
‘ซุปเปอร์สตาร์หนุ่มชื่อดัง มาร์ติน ออสก้า ลี ประกาศหมั้นแฟนสาวกะทันหัน!’
แอมิกาตั้งใจอ่านเนื้อหาอย่างละเอียด หัวใจดวงน้อยเจ็บปวดอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน ลึกๆ ทำไมถึงรู้สึกเสียใจ เธอควรจะดีใจไม่ใช่หรอที่เขากับแฟนสาวกำลังจะหมั้นกัน แม้มาร์ตินจะเป็นพ่อของลูก แต่เขาไม่รู้จักเธอด้วยซ้ำ และไม่รู้ว่าค่ำคืนนั้นมีเลือดเนื้อเชื้อไขของเขาติดท้องมาด้วย ส่วนคนที่น่าสงสารที่สุดก็คือออสติน เขามีพ่อ แต่พ่อของเขาอยู่สูงเกินกว่าจะก้มตัวลงมากอด
“แม่ขอโทษนะลูก...แม่ขอโทษ~” เธอเอ่ยเสียงสั่นเหมือนกำลังจะร้องไห้ แต่ก็ต้องฮึบเอาไว้
เส้นขนานที่ไม่มีทางบรรจบกัน....พ่อของออสตินเจอคนที่คู่ควรแล้ว
แม้จะรู้สึกเสียใจอยู่ลึกๆ แต่เอมิกาก็ต้องทำตามหน้าที่ เพราะต้องรีบกลับไปทานข้าวกับลูกชายสุดที่รัก ก่อนออกมาทำงานเธอบอกลูกชายว่าห้ามออกจากบ้านเด็ดขาดเพราะกลัวโดนขังไว้ข้างนอกอีก ออสตินจึงใช้ชีวิตอยู่ในห้องเพียงลำพัง โชคดีที่ปริยภัทรซื้อแท็ปเล็ตให้ ลูกชายของเธอจึงนอนดูการ์ตูนอยู่แต่ในห้อง พรุ่งนี้เป็นวันหยุดเอมิกากะว่าจะพาลูกชายออกไปกินหมูกระทะร้านโปรด
ทำไงได้...เกิดมาจนก็ต้องดิ้นรน เชื่อว่าเมื่อไหร่ที่ออสตินโตเขาจะสามารถเลี้ยงดูแม่ในยามแก่เฒ่าได้ แม้จะมีกันแค่สองคนแม่ลูก แต่ก็ไม่ได้รู้สึกเหงาเลยเพราะออสตินเป็นทุกอย่างของชีวิตไปแล้ว
@สามวันถัดมา
“อ้อม วันนี้หลังเลิกงานได้ไปทำงานเสริมไหม” เสียงของอรอุมาเพื่อนร่วมงานเอ่ยถาม
“ไม่อ่ะ วันนี้เป็นวันของเพื่อนอีกคน”
“งั้นก็ดีเลย ตอนเย็นเธอช่วยไปทำงานแทนฉันได้ไหม พอดีเย็นนี้ต้องพาแม่ไปหาหมออ่ะ”
"งานอะไรหรอ"
“งานที่กองถ่ายน่ะ แค่ไปช่วยกองเฉยๆ งานไม่หนัก รายได้ดีด้วยนะ ถ้าไม่ติดว่าต้องพาแม่ไปหาหมอฉันก็คงไม่ให้คนอื่นไปแทนหรอก”
“นานไหม เพราะฉันต้องกลับบ้านไม่เกินสองทุ่ม เดี๋ยวน้องออสตินเป็นห่วง”
“ไม่นานหรอก ราวๆ สองชั่วโมง ไปแทนฉันหน่อยนะ เดี๋ยวทางกองจะว่าให้เพราะเขาจ่ายเงินฉันมาแล้ว อีกอย่างกองถ่ายก็อย่างแถวๆ บ้านอ้อมด้วย” หล่อนว่าพรางหยิบบัตรประจำตัวของกองถ่ายออกมายื่นให้เอมิกา เพราะรู้ว่ายังไงเพื่อนก็ไม่ปฏิเสธอยู่แล้ว "เดี๋ยวฉันไลน์บอกทางกองให้นะว่าจะให้เพื่อนไปแทน ส่วนเงินค่าจ้างเดี๋ยวฉันโอนให้ทีหลัง”
เอมิกาก้มลงมองบัตรประจำตัวของกองถ่ายซึ่งเป็นชื่ออรอุมา มีกองละครมาถ่ายทำแถวบ้านเธอด้วยหรอ ทำไมไม่เห็นรู้เรื่องเลย แต่จะว่าไปเธอก็ไม่ได้ติดตามละครหรือซีรีย์อยู่แล้วเพราะไม่ค่อยมีเวลาดู ทุกลมหายใจเข้าออกมีแต่งานกับลูกเท่านั้น
หลังจากตกลงกันเสร็จเอมิกาได้ค่าจ้างจากอรอุมาเป็นจำนวนเงินสองพันห้าร้อยบาท เธอก็รีบตรงไปยังกองถ่ายตามโลเคชั่นที่อรอุมาเป็นคนส่งให้ทันที ซึ่งตรงนั้นคือสตูดิโอขนาดใหญ่ห่างจากบ้านของเธอราวๆ ห้าร้อยเมตร
พอมาถึงก็เห็นทางกองถ่ายกำลังเริ่มเซ็ตฉาก หน้าที่ของเธอก็แค่ช่วยตรวจดูความเรียบร้อยของกองและนักแสดง ซึ่งคนที่อรอุมาบอกให้ไปหาชื่อพี่ปิ่น เป็นผู้จัดการดารา
“มาแล้วหรอ” เสียงของหญิงวัยกลางคนรูปร่างค่อนข้างท้วมแต่ดูดีเอ่ยถามอย่างเป็นมิตร
เอมิกาโค้งศีรษะอย่างอ่อนน้อมถ่อมตน ค่อนข้างเกร็งเพราะไม่รู้จักใครเป็นการส่วนตัว
“สวัสดีค่ะ อ้อมมาแทนอรค่ะ”
“อรโทรมาบอกฉันแล้ว ฉันพี่ปิ่นนะ” ปิ่นสุดาคลี่ยิ้มอย่างเป็นมิตร ดูไม่ถือตัวเลยสักนิด พลอยทำให้เอมิกาคลายความกังวลลงบ้าง “เพิ่งมาทำงานนี้ครั้งแรกใช่ไหม”
“ใช่ค่ะ อ้อมไม่เคยทำงานกับกองถ่ายมาก่อน พี่ปิ่นช่วยสอนหน่อยนะคะ”
“วันนี้ไม่ได้ทำอะไรมากหรอก แค่ช่วยแต่งตัวให้นักแสดงช่วยพี่เฉยๆ พอแต่งหน้าเป็นใช่ไหม”
“ก็พอได้ค่ะ แต่อาจจะไม่ชำนาญ”
“แต่งหน้าผู้ชายไม่ได้ทำอะไรมากหรอก นั่งรอตรงนี้ก่อนนะ เดี๋ยวอีกสักพักนักแสดงก็มาแล้ว” ปิ่นสุดาผายมือไปยังเกาอี้เล็กๆ ตัวหนึ่ง
เอมิกาโค้งศีรษะให้อีกครั้งแล้วเดินไปนั่งรออย่างงงๆ สายตาสำรวจดูรอบๆ สตูด้วยความอยากรู้ ตอนนี้ค่อนข้างวุ่นวายเพราะต้องเซ็ตฉากรอนักแสดง ส่วนปิ่นสุดาเดินไปคุยกับฝ่ายคอสตูมที่ยืนอยู่อีกฝั่ง เพิ่งรู้ว่าเบื่องหลังของกองถ่ายวุ่นวายแค่ไหนกว่าจะถ่ายได้แต่ละฉาก โชคดีที่คนในกองค่อนข้างเป็นมิตรพอสมควร
ในขณะที่เอมิกานั่งรอนั่งเริ่มงานอย่างใจจดใจจ่อ ได้มีใครบางคนเปิดประตูเข้ามาในสตู เท้ายาวก้าวเข้ามาหยุดอยู่ด้านหลัง ก่อนที่เสียงเข้มจะดังขึ้นดึงสติของเอมิกากลับมา
“ขอโทษนะครับที่ให้รอนาน พอดีช่วงนี้รถติด”