ตอนที่ 12 เพียงสบตา
“นั่นไงคุณมาร์ตินมาแล้ว ไปเติมหน้าให้คุณมาร์ตินสิน้องอ้อม”
เอมิกานิ่งงันทันทีที่รู้ว่าเจ้าของเสียงคือใคร เธอไม่กล้าหันไป ผู้ชายที่ชื่อมาร์ตินในวงการมีแค่ไม่กี่คน ภาวนาขออย่าให้เป็นเขาเลย....อย่าเป็นเขาเลย
“ไม่ได้ยินที่คุณปิ่นสั่งหรอ มาเติมหน้าให้ฉันสิ” เสียงเข้มดังขึ้นเหมือนกำลังรำคาญ ก่อนที่เขาจะเดินอ้อมมาข้างหน้า นั่งลงตรงข้ามกับเอมิกา
ทันทีที่สบตากัน...เหมือนโลกทั้งใบกำลังหยุดหมุน
เหตุการณ์เมื่อห้าปีก่อนหวนคืนกลับมา สองมือบีบเข้าหากันแน่น สบตาไม่กระพริบ ในขณะที่มาร์ตินเองก็สบตานิ่งๆ เหมือนกัน เขาจะจำได้หรือเปล่าว่าเมื่อห้าปีก่อน...เราสองคนเคยมีอะไรกันจนกลายเป็นตราบาปไปตลอดชีวิต
คิ้วเข้มกระตุกทันทีที่ได้สบตากับดวงตากลมโตคู่นั้น เขารู้สึกคุ้นหน้าคุ้นตาผู้หญิงคนนี้เหลือเกิน เหมือนเคยเห็นที่ไหนมาก่อนแต่ก็จำไม่ได้ ไม่คิดว่าช่างแต่งหน้าที่กองจ้างมาจะมีหน้าตาสะสวยขนาดนี้ แม้เธอจะอยู่ในชุดกลางเก่ากลางใหม่ ใบหน้าไร้เครื่องสำอางแต่งแต้ม มีเพียงลิปมันเปลี่ยนที่เคลือบอยู่บนริมฝีปาก แต่เธอกลับดูสวยจนหยุดมองไม่ได้ เป็นความงามธรรมชาติที่สมัยนี้หาไม่ค่อยได้แล้ว คิดไม่ออกเลยว่าถ้าจับเธอคนนี้แต่งหน้าแต่งตัว....จะสวยหมดจดขนาดไหน
ความจริงวันนี้เขาแค่มาเป็นตัวประกอบเพราะช่วงนี้รับแค่งานพรีเซ็นเตอร์ ส่วนงานละครหรืองานซีรีย์พักไว้ก่อนเนื่องจากอยากมีเวลาส่วนตัวให้กับแฟนสาว แค่ปรากฏตัวก็เรียกเสียงฮือฮาจากคนได้ทั้งประเทศ ถ้าไม่ติดว่าปิ่นสุดาเป็นคนรับคิวงานนี้ไว้แล้วโดนเท เขาก็คงไม่มาแทน เพราะซุปเปอร์สตาร์อย่างเขาไม่ค่อยรับงานตัวประกอบ
“อะ...เอ่อ...ค่ะ” เอมิกาทำตัวไม่ถูก ท่าทีของมาร์ตินแสดงให้เห็นว่าคืนนั้นเขาจำเธอไม่ได้จริงๆ ด้วย ใช่สิ เรื่องมันผ่านมานานแล้วนิ คงมีแต่เธอคนเดียวเท่านั้นที่ยังไม่ตัดใจจากเรื่องนี้สักที
มือสั่นเทาหยิบตลับแป้งผสมรองพื้นออกมา สองมือรั้งหน้าหล่อเหลาเข้ามาใกล้ๆ ทำให้ใบหน้าอยู่ห่างกันแค่คืบ เอมิกาเริ่มหายใจไม่เป็นทั่วท้อง พยายามควบคุมสติให้ได้มากที่สุดทั้งๆ ที่อยู่ในอาการตกใจ ไม่คิดว่าจะเจอเขาที่นี่
“ช่วงนี้คุณมาร์ตินดูออร่าขึ้นนะคะ” ปิ่นสุดาเอ่ยขึ้น พร้อมจัดแจงทรงผมให้ซุปเปอร์สตาร์หนุ่มสุดหล่อ มาร์ตินแต่งหน้าแต่งตัวมาจากบ้านแล้ว ที่เหลือก็แค่เก็บรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ เพราะวันนี้เข้าแค่ฉากเดียว เป็นแค่ซีนเล็กๆ
“ออร่ายังไงหรอครับ”
“ก็ออร่าว่าที่เจ้าบ่าวไงคะ พี่ปิ่นว่าคุณมาร์ตินกับคุณอลิสเนี่ยเหมาะสมกันที่สุดแล้ว นี่แหละที่เขาเรียกว่าคู่กิ่งทองใบหยกของวงการ เหมาะสมกันที่สู๊ด”
เอมิกามองดูมาร์ติน เห็นใบหน้าเปื้อนยิ้ม เขาดูมีความสุขเวลาที่มีคนพูดถึงคู่หมั้น แต่ทั้งสองก็เหมาะสมกันดีนะ คุณอลิสสาเป็นถึงลูกเจ้าสัว ส่วนมาร์ตินเองก็เป็นลูกชายของตระกูลผู้ดีแห่งแดนมังกร เรือล่มในหนองทองจะไปไหน เธอเทียบอะไรกับอลิสสาไม่ได้เลยแม้แต่ปลายเล็บ และไม่อาจเอาตัวไปเปรียบเทียบเพราะมันต่างกันราวฟ้ากับเหว
“ตายจริง! ทำไมหน้าของคุณมาร์ตินเทาแบบนี้ล่ะน้องอ้อม!” ปิ่นสุดาอ้าปากค้างเมื่อเห็นสีหน้ากับสีคอของดาราหนุ่ม เพราะมันดันต่างกันคนละสี มาร์ตินเป็นคนผิวขาวมากและเอมิกาดันหยิบแป้งผิดเบอร์อีก
เพราะมัวแต่คิดอะไรเรื่อยเปื่อยจนลืมสังเกตสีหน้าของซุปเปอร์สตาร์หนุ่ม
“อุ้ย! ตายแล้ว อ้อมหยิบแป้งผิดเบอร์ค่ะ” มาร์ตินตวัดตาดุมาทางเอมิกา ดึงกระจกออกจากมือของเธอ ทันทีที่เห็นสีหน้ากับสีคอของตัวเองสันกรามหนาถึงกับขบแน่น
“ทำอะไรของเธอ!”
“อะ...อ้อมขอโทษค่ะ เดี๋ยวอ้อมแก้ไขให้นะคะ”
“ไม่รู้หรอว่าฉันต้องใช้แป้งเบอร์หนึ่ง”
“อ้อมเพิ่งมาทำงานนี้เป็นครั้งแรก...ขะ...ขอโทษคุณมาร์ตินด้วยนะคะ” หญิงสาวรีบก้มหน้างุด ไม่กล้าสบตาดุ
“อย่าไปโทษน้องเขาเลยนะคะคุณมาร์ติน น้องเขาเพิ่งมาทำงานนี้เป็นครั้งแรก พี่ก็ลืมบอกไปเลยว่าแป้งมันมีสองเบอร์”
“อีกไม่กี่นาทีก็เข้าฉากแล้ว เรื่องแต่งหน้ามันไม่ควรพลาดนะครับ” ชายหนุ่มตวัดตามองร่างเล็กที่เอาแต่ก้มหน้า เหมือนเธอกำลังสั่น “ไปล้างหน้าให้ฉันในห้องน้ำเดี๋ยวนี้!”
“เดี๋ยวพี่ปิ่นไปล้างให้ค่ะ”
“ไม่ต้องครับ เธอเป็นคนทำ...ก็ให้เธอเป็นคนล้าง” ชายหนุ่มพูดทิ้งท้ายก่อนจะลุกพร๊วดไปเข้าห้องน้ำ
เอมิกาหน้าเสีย เพิ่งรู้ว่าดาราบางคนแทบไม่เป็นมิตรเลย หนึ่งในนั้นก็คือมาร์ติน เพราะตั้งแต่เดินเข้ามายังไม่เห็นเขาทักทายใครเลยนอกจากปิ่นสุดา คงเป็นอย่างที่นักข่าวว่าจริงๆ
“อ้อมขอโทษนะคะพี่ปิ่น เดี๋ยวอ้อมจะรีบไปคลีนหน้าให้คุณมาร์ติน ดูท่าทางเหมือนเขาไม่พอใจอ้อม”
“ซุปเปอร์สตาร์ก็เป็นแบบนี้แหละ อีกหน่อยเดี๋ยวก็ชิน”
เอมิกาเดินตามมาร์ตินเข้าไป เห็นเขานั่งรออยู่ในห้องน้ำ หญิงสาวเม้มปากเข้าหากัน ค่อยๆ ใช้มือปิดประตู เมื่ออยู่ด้วยกันสองต่อสองอาการประหม่าก็เริ่มรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ ไม่ต่างจากวันแรกที่เจอกันเลย
“มาค่ะ ดะ...เดี๋ยวอ้อมคลีนหน้าให้นะคะ”
“อืม” เข้าตอบสั้นๆ แต่สายตามองหน้างามไม่วางตา
เอมิกาเดินอ้อมมาข้างหน้า วางกระเป๋าเครื่องสำอางลง จากนั้นก็หยดคลีนซิ่งลงบนแผ่นลีแล้วเช็ดไปที่หน้าหล่อเหลาอย่างเบามือ พยายามไม่สบตา เพราะแค่นี้ก็เสียอาการจนแทบควบคุมสติไม่ได้แล้ว
“ชื่ออะไร” จู่ๆ เขาก็ถามขึ้น
“อะ...อ้อมค่ะ”
“เพิ่งมาทำงานครั้งแรกหรอ”
“ค่ะ อ้อมมาแทนเพื่อนค่ะ”
“งั้นครั้งหน้าฉันคงไม่เจอเธอใช่ไหม”
“คะ?” เอมิกาเงยหน้าขึ้น ทำให้ปลายจมูกของทั้งสองเกือบชนกัน ดวงตากลมโตสั่นระริกเมื่อสบตากับดวงตาคมคู่นั้นอย่างไม่ได้ตั้งใจ
ภาพในค่ำคืนแห่งความโหดร้ายตามมาหลอกหลอนอีกแล้ว
“แค่งานแรกยังทำพลาด หวังว่าครั้งต่อไปฉันคงไม่เห็นหน้าเธออยู่ในกองนะ”