ตอนที่ 3
ทักษภรเร่งฝีเท้าออกจากริมรั้ว จนถึงลานจอดรถ ทินภัทรเปิดประตูลงมาขมวดคิ้วมองน้องสาว
“ไปไหนมา ทำไมโผล่ออกมาจากตรงนั้น” แววตาคนถามเหมือนต้องการจับผิด
“พรไปดูดอกกุหลาบมาค่ะ” เธอแสร้งโกหก
ทินภัทรขบกราม พอรู้ว่าน้องกับลูกชายศัตรูมีใจต่อกัน เมื่อก่อนนั้นอาจได้ แต่ตอนนี้ไม่มีทาง พวกมันไม่ใช่เพื่อนบ้านเหมือนเก่าก่อน แต่คือศัตรูที่ต้องล้างผลาญให้ตายกันไปข้างหนึ่ง
“เข้าบ้าน พี่มีเรื่องคุยด้วย”
เธอก้าวตามพี่ชายเข้ามาข้างใน มารศรีมองบุตรชายสีหน้าหม่นหมอง เสร็จจากงานศพสามี หัวใจเธอเหมือนแหลกสลาย สงสารลูกชายที่ต้องทำงานหนักมากขึ้น กลับบ้านดึกๆ ดื่นๆ แทบทุกวัน
คนเป็นน้องหย่อนกายลงบนโซฟา เพื่อรอฟังว่าพี่ชายจะคุยอะไร ทินภัทรวางแบบบ้านไว้ตรงหน้า แล้วยิ้มเศร้า
“เราไปอยู่บ้านใหม่ด้วยกันนะครับแม่” เขาบอกน้ำตาเริ่มคลอ มองผู้ให้กำเนิด เห็นสีหน้าแววตาแม่แล้วเจ็บปวดทรมาน
“พี่จะไปจากที่นี่เหรอคะพี่ทิน!” สีหน้าเริ่มซีดเผือด ทำไมต้องย้ายไปไม่เข้าใจ
“ใช่!”
“ทำไมคะ ทำไมเราต้องย้ายไป บ้านนี้เป็นบ้านของพ่อนะคะ!”
“ก็เพราะมันเป็นบ้านของพ่อไงพี่ถึงต้องขายแล้วย้ายไป พี่ไม่อยากทนเห็นเพื่อนบ้านเลวๆ พวกนั้น!” ชายหนุ่มขึ้นเสียง คนเป็นแม่น้ำตาเอ่อ
“แต่พรไม่อยากไป ทุกอย่างที่มันเกิดขึ้นไม่เกี่ยวกับฤทธิ์แล้วก็พี่เนตรเลย”
“ไม่เกี่ยวได้ยังไง สองคนนั้นมันลูกฆาตกรที่ฆ่าพ่อเรานะพร!”
มารศรีริมฝีปากสั่น น้ำตาไหลรินออกมา
“พอเถอะลูก ถ้าพี่เขาอยากย้ายเราก็ย้ายไป แม่เองก็ไม่อยากอยู่ที่นี่เหมือนกัน แม่ไม่อยากคิดถึงพ่อไปมากกว่านี้” สำหรับเธอ ทั้งชีวิตสามีเป็นคนช่วยเหลือ ชุบเลี้ยง ตอนนี้ขาดที่พึ่งทั้งทางกายทางใจ มันทรมานมากเหลือเกิน
ทักษภรน้ำท่วมปาก น้ำตาไหลริน ริมฝีปากเม้มแน่น ร้อยราวนี้มันจะผสานไม่ได้เลยหรือ เธอรักเขา รักมากเหลือเกิน
“พี่เข้าใจพร แต่เลิกคิดซะ มันเป็นไปไม่ได้ เพราะพี่จะไม่ยอมให้มีวันนั้นแน่!” แววตาแน่วแน่มองน้องสาว ทักษภรรู้ดีว่าตนไม่มีทางเลือกไหนเลย
หกโมงเช้า
นวฤทธิ์ยืนมองข้างบ้านขนย้ายข้าวของ มองเห็นคนรักก้าวออกมาทอดสายตามาทางเขา นวฤทธิ์แทบทนไม่ไหว จนคิดปีนรั้วข้ามไป ทว่ามือบางกลับมาจับท่อนขาไว้อย่างรวดเร็ว คนถูกจับหันมาน้ำตาคลอหน่วย เนตรอัปสรส่ายหน้า
“อย่าทำแบบนี้ฤทธิ์ พี่ทินไม่เหมือนเดิมกับเราอีกแล้ว ถ้าฤทธิ์ปีนข้ามไป เขาต้องแจ้งตำรวจจับเราแน่”
“แต่พี่เนตร พรกำลังจะไปแล้วนะครับ” เสียงทุ้มเริ่มสั่นเครือ
“ฤทธิ์ยังหาทางติดต่อกับพรได้ไม่ใช่เหรอ ต่อให้ห่างกัน ว่างๆ ก็นัดเจอกันก็ได้”
ชายหนุ่มฟังคำพี่กัดฟันแน่นแล้วกระโดดลงมา ร่างผอมบางก้าวเข้ามาร่วมวง ยืนมองเพื่อนบ้านแสนดีกำลังขนของเพื่อจากไป นาลินน้ำตาไหลออกมาอาบแก้ม เนตรอัปสรหันมาสบตามารดาแล้วโอบกอดไว้เพื่อปลอบ
รถสิบล้อเคลื่อนหายไปสองคัน คงเหลือแค่คันสุดท้าย และคาดเดาได้ว่า อีกไม่นานเจ้าของบ้านคงติดตามไปด้วย คงไม่ย้อนกลับมาอีกแล้ว ทินภัทรหันมองดวงตาคมวาววับ เห็นเพื่อนบ้านยืนมองแววตาเศร้าหมอง เขาไม่มีวันให้อภัยคนพวกนี้แน่