บทที่ 4
การตายของพัดชาทำให้ป้านานั้นรู้สึกว่ามีความสุขมากขึ้น...พูดได้ไม่อายปากว่าเจ็ดปีกว่าที่พัดชามาเป็นนายหญิงนั้น แกรู้สึกอึดอัดจนอยากจะลาออกวันล่ะหลายหน ไม่ใช่แค่ป้านา คนรับใช้ทำงานบ้านหลายคนก็คิดแบบนั้น ยิ่งเด็กทำงานทำความสะอาดนั้น เปลี่ยนเวียนเข้าออกเป็นว่าเล่น เพราะทนรับอารมณ์นายหญิงของบ้านไม่ไหวจริงๆ
แม่กับลูกช่างต่างกันนัก
คริมานั้นไม่เหมือนพัดชาเลยแม้แต่น้อย...
ออกรับแทนเสียด้วยซ้ำ ถ้าเกิดว่าพัดชาเรียกคนรับใช้ไปตำหนิ ถ้าทำไม่ถูกใจ หรือซุ่มซ่ามบังเอิญทำของเธอเสียหาย คริมานั้นบางหนจะบอกกับมารดาว่าเธอเป็นคนทำเอง เพื่อไม่ให้ท่านลงโทษพวกเด็กในบ้าน ผลปรากฏว่าบางทีคริมาเป็นคนโดนตี โดนทำโทษแทน
พัดชาเรียกลูกสาวไปประจานและฟาดก้นเอาเหมือนเด็กๆ ต่อหน้าพวกคนรับใช้บ่อยๆ ถ้อยคำด่าทอนั้น ฟังแล้วให้นึกถึงกำพืดของคนพูด ที่คงไม่ได้เหมือนฉากหน้าที่เที่ยวบอกกับใครต่อใคร ว่าเป็นลูกผู้ดีมีเงิน ได้รับการอบรมเลี้ยงดูมาในสังคมระดับชั้นสูง แบบที่หลอกสามีและคนอื่นๆ
คิดถึงอดีตใดๆ ของแม่ลูกคู่นี้แล้ว ป้านาก็มองคุณหนูของเธออย่างเห็นอกเห็นใจ ทุกคนเห็นว่าคุณกริชมีสีหน้าแบบไหนใส่คุณวีวี่ และคนเก่าแก่อย่างป้านาก็พอจะรู้ระแคะระคายว่าไฉนแล้วคุณกริชถึงได้ออกจากบ้านไปอยู่เมืองนอก ไม่กลับมาบ้านอีกเลย เพิ่งจะมาก็ตอนที่คุณกานต์ท่านเสียนี่แหละ
“คุณกริชน่ะ เธอชอบกะเพราหมูกรอบนะคะ ป้าจำได้”
จู่ๆ ป้านาก็เอ่ยเปรยขึ้น แล้วค้นในตู้เย็นแล้วหันมาบอกกับคริมาที่ยืนอยู่หน้าเตากำลังทำแกงคั่วสับประรดอยู่
“เหรอคะ?”
“ค่ะ เธอชอบมากๆ เดี๋ยวป้าจะปั่นจักรยานไปซื้อหมูมาให้นะคะคุณวี่ ป้าจะทำหมูกรอบให้ค่ะ มีหม้ออบลมร้อนทำไม่นานค่ะ”
ยังไม่ทันจะถามอะไรต่อ ป้านาก็ออกไปจากห้องครัวเสียแล้ว คริมาขมวดคิ้วเล็กน้อย ไม่เข้าใจว่าป้านามาบอกเธอแบบนั้นทำไม แต่คิดอีกทีก็ดีเหมือนกัน เธอจะได้ทำของถูกใจให้เขาลองได้รับประทานดู...
เธอหวังว่าอาหารฝีมือเธอ ถ้าเขาชอบ มันจะทำให้เขา...รู้สึกดีกับเธอขึ้นบ้าง
หญิงสาวได้แต่ลอบถอนใจ ขณะที่มือยังสาละวนทำอาหารง่วน การพบเขาอีกหนและการได้อยู่กับเขาแบบนี้ มันทำให้เธอลิ้มรสชาติทั้งขมทั้งหวานปะปนกันไปหมดในความรู้สึก
กริชดนัย
การเจอเขาอีกครั้งทำให้คริมานั้นรู้แน่แก่ใจแล้วว่า หัวใจของเธอมันยังคงรู้สึกกับเขาเหมือนเมื่อหกปีที่แล้วไม่มีเปลี่ยนเลย
....
“อร่อยเหมือนเดิมเลยจ้ะ หนูวี่ ขอบคุณมากสำหรับอาหารมื้ออร่อยๆ แล้วก็สำหรับของฝากด้วย”
ทนายจารึกเอ่ยบอกกับคนที่มาส่งเขาถึงรถ หลังจากรับประทานอาหารเย็นเสร็จแล้วที่บ้านของครอบครัวสิทธา นอกจากอาหารเย็นแล้วก็ยังมีขนมบัวลอยแสนอร่อยให้รับประทานจนอิ่มหนำ คริมาแบ่งอาหารส่วนหนึ่งที่เธอทำไว้มากใส่กล่องให้เขาเอาไปฝากคนที่บ้านด้วย เธอเอาไว้ตรงเบาะหลังให้กับเขาอย่างเรียบร้อย แล้วปิดประตูรถให้เขา ทนายจารึกมองเธออย่างชอบใจกับกิริยาละมุนแช่มช้อยของคริมา เธอเป็นคนบุคลิกดี หน้าตาสวยน่ารัก พูดจาเพราะ และทำงานเก่ง คริมาโตขึ้นมากและเป็นผู้หญิงที่มีคุณภาพคนหนึ่งเลยทีเดียว
ผู้หญิงแบบนี้ ถ้าผู้ชายคนไหนได้ไปเป็นภรรยา คงจะเสริมส่งชีวิตให้ดีงาม
ลูกไม้ไกลต้น
เขาใช้คำนี้กับคริมาได้โดยแท้
“ถ้าอยากกินอีก ก็บอกนะคะ เดี๋ยววี่จะทำแล้วให้ลุงพวงเอาไปให้ที่สำนักงานค่ะ”
เธอว่า สำนักงานกฎหมายของจารึกตั้งอยู่ใกล้กับบริษัท
“อดทนนะครับ”
เสียงทุ้มอ่อนโยนเอ่ยเปรยขึ้น คริมามองคนพูดแล้วกะพริบตา มือของทนายจารึกเอื้อมลูบศีรษะของเธอ สัมผัสนั้นทำให้คริมาถึงกับน้ำตาคลอ เธอมองสบตากับเขาแล้วพยักหน้า
“ค่ะ...”
“อดทนกับคุณกริช อดทนที่จะทำความดีต่อไปนะครับคุณวี่ ผมเชื่อนะครับ ว่าคุณกริชจะมองเห็นสิ่งนั้น มองเห็นเนื้อแท้ของคุณวี่”
“ค่ะ”
เสียงนั้นเครือสั่น น้ำตาทำท่าจะหยดลงมา จารึกส่งผ้าเช็ดหน้าที่เขามักจะพกเสมอติดตัวให้เธอเช็ดน้ำตา แล้วเอ่ยบอกยกให้เมื่อเธอทำท่าจะส่งมันคืน
“เก็บไว้นะครับ แล้วก็เก็บน้ำตาไว้ ต่อไปนี้ยิ้มเยอะๆ ครับคุณวี่ เวลาแห่งความเศร้ามันผ่านไปแล้วครับ”
“ค่ะ”
รับคำสั้นๆ แล้วกำผ้าเช็ดหน้าของเขาไว้ พร้อมกับยกมือไหว้ลา ทนายความหนุ่มใหญ่มองไปทางชั้นสองของบ้าน กริชดนัยที่พอรับประทานอาหารเย็นแล้ว ก็ขอตัวกลับขึ้นไปบนห้อง พร้อมกับถอนใจน้อยๆ แล้วเอ่ยลาสาวน้อยที่มาส่งเขา
คริมามองรถของทนายจารึกจนลับตา เธอเอาผ้าเช็ดหน้าที่เขาให้ใส่กระเป๋ากางเกงไว้ แล้วเดินกลับเข้าไปด้านในบ้าน เพื่อดูแลความเรียบร้อยประจำวัน ก่อนจะขึ้นห้องของตัวเองเพื่อพักผ่อน
อดทนกับกริชดนัย อดทนที่จะทำความดี
ทนายจารึกสอนเธอไว้แบบนั้น
เธอล้วงผ้าเช็ดหน้าของเขาออกมาจากกระเป๋า วางมันไว้ตรงโต๊ะตรงข้างหัวเตียง แล้วมองมัน คำสอนนั้นยังก้องวนไปมาในสมองของเธอ
เธอจะอดทน
คริมาบอกย้ำกับตนเอง
และยิ้มให้กับผ้าเช็ดหน้าของจารึก
เธอสัญญาว่าเธอจะไม่ร้องไห้ และต่อไปนี้เธอจะยิ้มให้กับกริชดนัยในทุกวัน ทำดีกับเขาในทุกวัน เขาอาจจะยกโทษให้เธอได้บ้าง กับสิ่งที่เธอทำลงไป
เธอทำ?
จนถึงตอนนี้คริมาก็ยังเฝ้าถามตนเอง ว่าเรื่องคืนนั้น คืนที่เธอถูกกล่าวโทษ เขาถูกกล่าวโทษ ใครกันแน่ที่เป็นคนทำ ใครกันแน่ที่เป็นคนผิด
ช่างเถอะ ทุกคำตอบคริมานั้นรู้ดีอยู่แก่ใจ ว่าจริงๆ แล้ว คนผิดนั้นคือใคร...