13 หายไปนาน
ก็แค่หาเรื่องคุย
การรีโนเวทบ้านไม้ใต้ถุนสูงเริ่มขึ้นหลังจากที่ปุณณวิชญ์ให้ทีมวิศวกรและสถาปนิกมาดูบ้านจากนั้นเขาก็เสนอแบบกับเมษา เมื่อพี่สาวและหลานสาวตกตงตามแบบที่เสนอ ชายหนุ่มก็ให้ทีมงานเข้ามาทำทันที ระหว่างนี้เขาให้เมษาและพิจิกาไปพักที่บ้านเช่าในตัวเมืองใกล้ๆ กับโรงเรียนที่พิจิกาเรียนอยู่ ส่วนปุณณวิชญ์นั้นก็มาตรวจดูงานเป็นระยะๆ
“พี่วิชญ์รีบกลับไหมคะ” ตรีทิพย์เดินถือแบบเข้ามา
“ไม่รีบ ตรีมีอะไรหรือเปล่า”
“พอดีตรีจะให้พี่วิชญ์ช่วยดูแบบให้หน่อยค่ะ ตรีว่าจะรอพี่ตุลย์ แต่จนป่านนี้ยังไม่เข้ามาเลย สงสัยวันนี้คงไม่เข้ามาแน่”
ชายหนุ่มหยิบแบบแปลนหอพักขนาด 40 ห้องที่บริษัทกำลังเตรียมนำเสมอลูกค้าขึ้นมาดูอย่างละเอียด หลังจากที่ครั้งที่แล้วเสนอแบบไปแล้วแต่ลูกค้าให้กลับมาแก้ไขอีกบางส่วน
“เรียบร้อยดีนะ นัดคุยอีกครั้งเมื่อไหร่ บางทีพี่อาจเข้าไปด้วย”
“วันอังคารหน้าค่ะ พี่วิชญ์ว่างก็ดีนะคะ เพราะลูกค้าบ่นว่าอยากเจอพี่วิชญ์อยู่เหมือนกัน” ลูกค้าท่านนี้เป็นลูกค้าเก่าที่เคยร่วมงานกันมาหลายโครงการแล้วเขาเลยอยากหาเวลาไปคุยด้วยตัวเองหลังจากที่ให้ตุลาเป็นตัวแทนในครั้งที่แล้ว
ชายหนุ่มกำลังเตรียมตัวกลับบ้านที่อัมพวาเนื่องจากตลอดหลายวันที่ผ่านมาเขาได้แต่ให้โฟร์แมนถ่ายรูปมาให้ดูเท่านั้น เขาอยากไปดูแลหน้างานด้วยตัวเองเพราะอยากให้บ้านออกมาถูกใจมากที่สุด ชายหนุ่มไม่ลืมที่จะแวะไปรับหลานสาวที่บ้านเช่า
“ไปด้วยกันไหมคะแม่” พิจิกานั่งรอน้าชายที่หน้าบ้านเอ่ยชวนอีกครั้งเพื่อความแน่ใจ
“แม่พึ่งแวะไปดูเมื่อวาน หนูดีไปดูกับน้าวิชญ์เถอะจ้ะ”
“แม่คะ หนูดีขอไปหาพี่โอปด้วยได้ไหมนะคะ”
“ได้สิ แต่อย่าลืมถามน้าวิชญ์ด้วยว่ารีบกลับหรือเปล่า”
“ค่ะแม่”
รถออดี้ Q5 สีขาวขับมาจอดหน้าบ้านเช่าหลังเล็กในตลาด พิจิกาชะเง้อคอยาวมองไปตามถนนเพราะเลยเวลานัดของน้าชายมาสักพักแล้ว
“หนูดี” ปุณณวิชญ์ลดกระจกลงเรียกเด็กสาวให้เดินมาขึ้นรถ
“สวัสดีค่ะน้าวิชญ์” เด็กสาวยกมือไหว้น้าชาย แม้จะสนิทสนมกันมากขึ้นแต่เธอก็ยกมือไหว้ทุกครั้งที่เจอกับน้าชาย
“เป็นไงรอนานไหม” เขาถามเมื่อเธอขึ้นมานั่งข้างๆ เขา
“ไม่นานค่ะ แต่น้าวิชญ์เอารถใครมาคะเนี้ยหรูเชียว หนูดีแทบไม่กล้าขยับตัวเลย” เธอนั่งตัวลีบทำเอาเขาอดหัวเราะไม่ได้
“รถน้าเอง”
“แล้วคนนั้นล่ะคะ” เด็กสาวหมายถึงฮอนด้าซีวิคที่เธอเคยนั่งเมื่อตอนย้ายมาอยู่ที่นี่
“นั่นก็ใช่ แต่คันนี้มันเร็วกว่า น้าว่าบางที่หนูดีน่าจะอยากกลับดูบ้านเร็วๆ” เขาตอบแบบติดตลก แต่ที่จริงแล้วคันเดิมที่เคยใช้ตอนนี้เขาเอาไปสีใหม่ แม้จะมีรถคันนี้แล้วแต่คันเก่าก็เป็นรถคันแรกที่เขาเก็บเงินซื้อจากเต้นรถมือสอง เขาอยากเก็บไว้เตือนความทรงจำว่าครั้งหนึ่งเขาเองก็ไม่ได้มีพร้อมทุกอย่างเหมือนกับวันนี้
พิจิกามองดูบ้านของตัวเองที่ตอนนี้เริ่มเป็นรูปเป็นร่างมองแทบไม่เห็นเค้าโครงเดิม ชั้นล่างที่เคยเป็นใต้ถุน ก็ถูกดัดแปลงเป็นห้องกระจกใส ครึ่งหนึ่ง อีกครึ่งหนึ่งดัดแปลงเป็นห้องครัว ส่วนชั้นบนที่เคยเป็นไม้เก่าๆ ตอนนี้เหลือแต่โครงบ้าน สังกะสีเดิมที่มุงหลังคาถูกก็รื้อออกจนหมด
“มันจะเหมือนในรูปใช่ไหมคะ” เธอหันมาถามน้าชายเพราะเริ่มไม่แน่ใจ
“เหมือนสิ แต่ตอนนี้มันยังไม่เสร็จ หนูดีเลยยังมองไม่ออก”
เด็กสาวเดินดูรอบๆ บ้าน ระหว่างนั้นชายหนุ่มถือแคตตาล็อกสีทาสำหรับภายในตรงมาที่เธอ
“นี่เป็นสีทาภายในทั้งหมด น้าให้หนูดีเลือกสีในห้องนอนเอง ส่วนด้านนอกตัวบ้านก็ตามที่เราเคยคุยกันไว้”
หลังจากเลือกสีห้องนอนของตัวเองได้แล้วก่อนกลับเธอขอไปหากัลยณัฏฐ์เขาจึงขอตามไปด้วย
ปุณณวิชญ์เดินตามหลานสาวมายังโอบรักโฮมสเตย์ที่เขาเองพึ่งเคยมาครั้งแรก เขาบริเวณโถงกว้างที่ถูกจัดเป็นห้องรับแขก ตอนนี้มีเพียงหญิงสาวสูงวัยกำลังนั่งดูรายการทีวีอยู่เพียงลำพัง
“สวัสดีค่ะครู”
“สวัสดีครับน้ากัลยา” ชายหนุ่มยกมือไหว้ผู้สูงวัยที่หันมาพอดี คงเพราะพื้นโอบรักโฮมสเตย์เป็นพื้นไม้เวลาเดินจึงเกิดเสียงดังบ้าง
“อ้าว! วิชญ์ หนูดี หายไปกันนานเลย นึกยังไงวันนี้มาที่นี่ได้ แล้วบ้านที่ไปอยู่สะดวกสบายดีไหม น้าบอกให้มาพักด้วยกันก็ไม่ยอม” ครั้งที่เมษามาแจ้งให้ครูกัลยาทราบว่าจะไปเช่าบ้านอยู่ในตลาดนั้น กัลยาและนำให้มาพักอยู่ด้วยกันที่บ้าน แต่เขาเกรงใจจึงขอไปเช่าบ้านในตลาดดีกว่า เพราะใกล้กับโรงเรียนที่พิจิกาเรียนอยู่
“ก็สะดวกดีครับ หนูดีเดินไปโรงเรียนได้สบายเลย ใกล้นิดเดียว”
“คุณน้าผู้ชายไม่อยู่เหรอครับ ผมยังไม่เคยเจอเลย” วันที่จัดงานวันเกิดของหลานสาวเขาไม่มีโอกาสเจอกับสามีของกัลยา พออีกวันเขาไปที่บ้านเพื่อแจ้งว่าจะย้ายไปเช่าบ้านในตลาดก็ยังไม่เจอ วันนี้เขาคิดว่ายังไงต้องได้มาสวัสดีทักทายแต่ก็ผิดจากที่คาดไว้
“ไม่อยู่จ้ะ บ่ายๆ วันอาทิตย์แขกส่วนใหญ่จะเช็คเอาท์กันหมด น้าเค้าเลยเข้าไปดูงานในสวนจ้ะ”
พิจากาเห็นว่าผู้ใหญ่ทั้งสองคุยกับได้สักพักแล้วก็ถามขึ้น
“พี่โอปล่ะคะ” เมื่อมองไปทั่วจนแน่ใจแล้วเด็กสาวก็ถามถึงคนที่เขาตั้งใจมาหาแต่แรก
“อยู่ที่บ้านจ้ะ หนูดีจะกลับเลยหรือแวะไปหาก่อนล่ะลูก” เธอถามทั้งๆ ที่พอจะรู้คำตอบ เพราะตั้งแต่ย้ายไปบ้านเช่านี่ก็ 2 สัปดาห์แล้วที่เด็กสาวไม่ได้แวะมาช่วยงานที่โอบรักโฮมสเตย์เลย
“หนูดีจะไปหาพี่โอปแล้วก็จะกลับเลยค่ะ อาทิตย์หน้าหนูดีคงไม่ได้มาเพราะที่โรงเรียนมีติวพิเศษค่ะ”
“ตั้งใจเรียนนะลูก ปีหน้าก็ม. 4 แล้ว คิดไว้หรือยังว่าจะเรียนต่อที่ไหน”
“ยังเลยค่ะ เอาไว้หนูดีว่าจะมาปรึกษาครูกับพี่โอปอีกที”
“ได้สิจ้ะ แต่ครั้งหน้าจะเข้ามาต้องบอกก่อนนะ ครูว่าจะทำคุกกี้ไปให้แม่หนูทานกับกาแฟด้วย มารอบนี้แขกเหมาไปหมดเลย ทั้งที่นี่และที่ร้านในตลาด” กัลยาหมายถึงคุกกี้ที่เธออบไว้ให้แขกทานกับกาแฟและวางขายที่ร้านขายของฝากของเธอที่ตลาดน้ำ และมีลูกค้าบางคนติดใจซื้อกลับบ้านกันไปจนหมด
“ค่ะ” “ครับ” สองน้าหลานรับคำ ก่อนยกมือไหว้แล้วพากันเดินออกไป