บทที่ 2 ลงทัณฑ์…ซาตาน 3
“เพลง บอสเรียกเธอให้ไปหาที่ห้องแน่ะ”
“บอส? บอสใหม่มาทำงานวันนี้แล้วเหรอ” เพลงพิณเลิกคิ้วเรียวขึ้นสูงอย่างงุนงงเล่นเอาธนิตาต้องถอนหายใจเฮือก
“นี่เธอตกข่าวตลอดเลยนะเพลง วันนี้บอสใหญ่คนใหม่มาแล้ว ท่านเรียกให้เธอไปพบ”
“เรียกฉัน? เรียกทำไม”
“เอ๊ะ ฉันจะไปรู้เหรอไง ท่านเรียก เธอก็ไปเถอะ”
“โอเคๆ ฉันจะไปเดี๋ยวนี้แหละ” แล้วเพลงพิณก็ลุกขึ้นอย่างกระฉับกระเฉงแต่แล้วก็ต้องชะงักเมื่อได้ยินเสียงธนิตาเรียกไว้
“เออนี่เพลง”
“มีอะไรเหรอ”
“ได้ข่าวว่าบอสหล่อมาก ฉันล่ะอิจฉาเธอจริงๆที่ได้ไปเจอหน้าบอสตัวจริงเสียงจริง”
“บ้า!” หญิงสาวส่ายหน้าไปมาอย่างระอาใจก่อนจะหันหลังเดินขึ้นชั้นบนเพื่อไปพบ ‘บอส’ ที่เธอไม่เคยเห็นหน้า
เมื่อมาหยุดยืนอยู่ตรงหน้าห้องที่มีป้ายกรอบทองเขียนติดไว้ว่า ‘ห้องผู้อำนวยการ’ เพลงพิณก็สูดลมหายใจเข้าลึกๆเพื่อเรียกความกล้าให้กลับมาเต็มเปี่ยมเหมือนเดิม ก่อนที่มือเรียวจะเคาะประตูเบาๆเป็นเชิงขออนุญาต
ก๊อกๆ
“เชิญ” เสียงของคนในห้องดังออกมาสั้นๆห้วนๆดูคุ้นหูเพลงพิณอย่างบอกไม่ถูก แต่เธอไม่มีเวลาคิดนานนัก เพราะเธอได้เปิดประตูเข้าไปแล้ว แต่…
ว่างเปล่า !
ภายในห้องกว้างขวางที่มีโต๊ะทำงาน เก้าอี้บุนวมตัวหนาสองตัว ตู้เย็น โซฟา มีทุกอย่างครบครันรวมทั้งความเย็นจากเครื่องปรับอากาศชั้นดี แต่กลับไร้วี่แววของสิ่งมีชีวิตอยู่ในห้อง
เพลงพิณหันไปปิดประตูห้องไว้ตามเดิม พลางกวาดตามองไปทั่วห้องเพื่อหา…คุณจามิล บอสคนใหม่
“บอสคะ ฉันมาแล้วค่ะ” เธอลองพูดออกไป แต่ก็ไร้เสียงใดตอบกลับมา ทำให้หญิงสาวเริ่มจะรู้สึกไม่ดี จึงคิดจะกลับออกจากห้อง แต่ยังไม่ทันได้ขยับตัวทำอย่างที่ใจคิด อ้อมแขนแข็งแรงของใครคนหนึ่งก็กอดเธอจากทางด้านหลังเข้าเสียก่อน
“ว้าย!” หญิงสาวหวีดร้องอย่างตกใจ ก่อนจะเบิกตากว้างเมื่อได้ยินเสียงหนึ่งกระซิบที่ข้างหู
“ร้องไปเถอะ ห้องของผมเป็นห้องเก็บเสียง ต่อให้คุณตะโกนจนคอแทบแตกก็ไม่มีใครได้ยินเสียงคุณ”
“ถ้าบอสรู้ คุณตายแน่” หญิงสาวพูดเสียงแผ่วพร้อมพยายามดิ้นให้หลุดจากอ้อมกอดของคนแปลกหน้า
“โง่จริงนะคุณ ผมนี่แหละคือบอส” เสียงทุ้มๆตอบกลับมา
“ปล่อยฉันนะ บ้ากามที่สุด ฉันจะลาออกจากงาน”
“คุณเองก็ชอบไม่ใช่เหรอ ไอ้เรื่องกามๆพวกนี้น่ะ” เสียงเยาะๆที่ถามขึ้นฟังดูคุ้นหูอย่างน่าประหลาด ทำให้เธอรวบรวมแรงฮึดครั้งสุดท้ายสะบัดตัวจนหลุดก่อนจะหันไปมองหน้าเขาให้ชัดๆเต็มตา
“คุณ…!” เพลงพิณอ้าปากค้างเมื่อเห็นหน้าผู้ชายคนที่มากอดเธอได้ถนัด
“ครับ ผมเอง นายจามิลที่จูบคุณไปเมื่อวาน”
“คุณเป็นบอส?” ถามอีกครั้งเหมือนไม่แน่ใจ
“ใช่ ผมเป็นเจ้านายคุณ”
“ฉันขอลาออก”
“ผมไม่ให้คุณออก” เขาตะคอกเสียงกร้าวจนร่างบางสะดุ้งโหยง
“คุณไม่มีสิทธิ์มาสั่งฉัน ถ้าฉันจะลาออกมันก็เป็นสิทธิ์ของฉัน”
“ก็เอาสิคุณแพรพิณ ได้ข่าวว่าแม่คุณคอยป่วยออดๆแอดๆอยู่ไม่ใช่เหรอ อยากลาออกแล้วไม่มีเงินไปเลี้ยงแม่ก็เอาสิ” เขาดึงไพ่ใบสุดท้ายออกมาขู่ประหนึ่งว่าเขาคือผู้ที่เหนือกว่าเธอ เล่นเอาเพลงพิณถึงกับอ้าปาก ตาค้าง
“คุณรู้ได้ไง”
“ไม่มีอะไรที่ผมอยากรู้แล้วจะไม่รู้”
“แต่คุณมีบางเรื่องที่ไม่รู้นะ”
“อะไร”
“ฉันชื่อเพลงพิณ ไม่ใช่แพรพิณ”
“คิดว่าเปลี่ยนชื่อแล้วผมจะจำคุณไม่ได้เหรอไง ผู้หญิงแพศยา โชคดีจริงๆที่วันนี้ผมเจอคุณแถมยังได้ทำงานบริษัทเดียวกันอีก”
“แต่ฉันโชคร้ายที่เจอคุณ”
“พ่อผมก็โชคร้ายที่เจอผู้หญิงอย่างคุณ”
“หมายความว่าไง” เสียงใสๆย้อนถามอย่างทันควัน ทำเอาหน้าเข้มเริ่มส่อแววถึงความเดือดดาลอย่างเห็นได้ชัด
“อย่ามาทำหน้าซื่อ คิดเหรอว่าผมจะรู้ไม่ทันมารยาของคุณ”
“มารยาอะไร ฉันไม่รู้เรื่องนะ”
“ว่าไงล่ะแพรพิณ โอ๊ะ! ไม่สิ ลืมไปว่าคุณชื่อเพลงพิณ หึหึ” เขาทำเสียงเยาะๆที่ท้ายประโยค ก่อนจะพูดต่อไปอีกว่า “ตกลงว่าอยากลาออกจากงานจริงๆน่ะเหรอ”
“ใช่ ฉันจะลาออก”
“แล้วจะเอาเงินที่ไหนไปหาเลี้ยงแม่ หรือว่า…” เขาละคำพูดไว้เพียงเท่านั้นแล้วกวาดตามองเธอไปทั้งตัวอย่างเหยียดหยัน “หรือว่าคิดจะใช้ร่างกายตัวเองแลกเงินเหมือนที่ผ่านๆมา”
“หยุดคำพูดสกปรกของคุณลงเดี๋ยวนี้นะ” หญิงสาวโกรธจนตัวสั่น แต่มีหรือที่คนอย่างจามิลจะหยุดลงง่ายๆ ยิ่งเห็นว่าเธอโกรธ เขาก็ยิ่งยั่วยุเพลิงโทสะ
“ผมให้คุณคืนละห้าร้อยมันน้อยเกินไปใช่มั้ย คุณถึงเล่นตัวจัง พ่อผมให้คุณคืนละเท่าไหร่ล่ะ คุณถึงยอมง่ายนัก”
“คุณจามิล!” เพลงพิณเรียกชื่อเขาเสียงดังอย่างหงุดหงิด ในขณะที่ตาคมสว่างวาบแล้วกระชากร่างบางเข้าปะทะอกแกร่งอย่างรวดเร็ว
“ว้าย !” เธอร้องอย่างตกใจ และเขาก็อาศัยช่วงนี้นี่เอง ก้มลงประกบปากจูบเธออย่างรวดเร็วและดุดัน
จุ๊บ !