บทที่ 2 ลงทัณฑ์…ซาตาน 2
เช้านี้อากาศดูจะแจ่มใสมากกว่าทุกวัน พนักงานในบริษัทต่างก็พากันตื่นเต้นที่รู้ว่าวันนี้…จะมีบอสคนใหม่เข้ามาบริหารงานแทนคุณจิรายุทธที่ได้เสียชีวิตไปเมื่อไม่นานมานี้เอง
ตั้งแต่คุณจิรายุทธจบชีวิตลงด้วยการผูกคอตาย ผู้เป็นลูกชายหัวแก้วหัวแหวนเพียงคนเดียวของคุณจิรายุทธก็เป็นผู้ประสานงานแทนบิดามาโดยตลอดโดยไม่ได้เข้ามาทำงานในบริษัทอย่างเป็นกิจลักษณะ ยังดีที่มีคุณวิเชษฐ์ที่ปรึกษาของคุณจิรายุทธคอยเป็นธุระจัดการงานต่างๆให้ด้วย ทุกอย่างในบริษัทจึงยังคงเรียบร้อยดีโดยไม่เกิดปัญหา
และเมื่องานศพผ่านพ้นไป ทุกอย่างเริ่มเข้าที่เข้าทาง นายจามิล ฐิติวนากุล ก็เข้ามานั่งในตำแหน่งท่านประธานสูงสุดแทนผู้เป็นบิดาอย่างเต็มตัว
ข่าวลือที่ออกมาอย่างหนาหูว่าจามิลเป็นผู้ชายที่หล่ออย่างร้ายกาจ ทำให้สาวๆพนักงานในบริษัทต่างก็ตื่นเต้นยินดีกับการที่ได้บอสคนใหม่เป็นหนุ่มรูปหล่อ ไฟแรงสูง
แต่คงมีอยู่เพียงคนเดียวกระมังที่ตกข่าวในเรื่องนี้…นั่นก็คือเพลงพิณนั่นเอง
ร่างบางในชุดยูนิฟอร์มสีฟ้าของทางบริษัทเดินแกมวิ่งขึ้นบันไดตึกขึ้นมาอย่างร้อนรนพลางคอยก้มลงมองนาฬิกาที่ผูกไว้ตรงข้อมือเป็นระยะอย่างกังวลใจ
จะว่าไปแล้ว นี่เป็นวันที่เธอมาสายในรอบสามเดือนมานี้เลยก็ได้กระมัง สาเหตุน่ะเหรอ…มันอยู่บนใบหน้าของเธอแล้วในตอนนี้ ดวงตาที่เคยกลมโตสดใสเป็นประกายวิบวับเหมือนดวงดาราบนฟากฟ้าในยามค่ำคืน มาตอนนี้ดูหมองๆและแดงช้ำเหมือนเจ้าตัวเพิ่งผ่านการร้องไห้มาอย่างหนัก … เธอร้องไห้หลายชั่วโมงแถมยังตาสว่างนอนไม่หลับ กว่าจะหลับได้ก็ปาเข้าไปตีสามแล้ว และนี่ก็คือเหตุผลที่ว่าทำไมวันนี้เธอจึงมาสายผิดปกติ
เพราะความที่เอาแต่ก้มหน้าก้มตาวิ่งเพื่อให้ทันเวลางานนั่นเอง ร่างของเธอจึงชนเข้ากับใครคนหนึ่งจนเธอกระเด็น แต่คนที่เธอชนนั้นกลับไม่เป็นอะไร
หญิงสาวรีบทรงตัวให้ยืนตัวตรงมั่นคงเหมือนเก่าก่อนจะเงยหน้าขึ้นมองผู้ชายที่เธอเพิ่งชนไปเมื่อครู่
เขาเป็นคนสูงมากจริงๆ สูงจนเธอต้องแหงนหน้า ถึงจะมองเห็นหน้าเขาได้อย่างชัดเจน ชุดสูทที่เขาสวมใส่อยู่นั้นเป็นสีดำสนิท ส่งผลให้ร่างสูงดูมีสง่าและน่ากลัวขึ้นอีกเป็นเท่าตัว ส่วนใบหน้าของเขานั้น…หล่อเหลายิ่งกว่าพระเอกละครหลายๆคนมารวมกันเสียอีก
เครื่องหน้าทุกสัดส่วนที่ประกอบขึ้นมาจนเป็นใบหน้าเขาดูเหมาะสมและสวยงามจนไร้ที่ติเหมือนเทวดาบรรจงปั้นมากับมือ
เขาเป็นคนผิวขาวอมชมพูบ่งบอกถึงความเป็นคนมีสุขภาพพลานามัยที่ดีและออกกำลังกายอยู่เสมอ
คิ้วของเขาเข้มยาวสวย หัวคิ้วชนกันและปลายหางคิ้วยาวเลยหางตาเป็นรูปสวยเหมือนจิตรกรตั้งใจตวัดปลายพู่กันวาดคิ้วให้ ดวงตาคมกริบเป็นสีดำสนิท ดูดุดันแต่แฝงไปด้วยเสน่ห์ลึกลับที่ทำให้ใครๆไม่อาจละสายตาไปได้ จมูกโด่งเป็นสันสวยไร้ที่ติ ริมฝีปากสีชมพูกุหลาบกำลังขยับยิ้มเหยียดหยัน เป็นรอยยิ้มที่เธอเคยเห็นมาก่อน…!
ใช่ เธอเคยเห็นรอยยิ้มนี้มาก่อน เพราะเธอเพิ่งเจอเขาไปเมื่อวานนี้นี่เอง !
“มองอะไร” เขาถามเสียงเข้ม หรี่ตามองคนที่สูงแค่อกของเขาตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า
“ปะ ป่าว” เพลงพิณไม่เข้าใจเลยจริงๆว่าทำไมอยู่ๆตัวเธอถึงสั่นขึ้นมาได้ หัวใจเต้นแรงเหมือนกำลังหวาดกลัวอะไรสักอย่าง หญิงสาวก้มหน้างุดๆแล้วหันหลังเตรียมเดินหนี แต่มือแข็งๆจับต้นแขนเธอยึดไว้ได้ทัน
“เดินชนผมแล้วไม่คิดจะขอโทษบ้างเลยหรือ” เขาถามเสียงเรียบ ถึงน้ำเสียงเขาจะไม่บ่งบอกถึงอารมณ์ แต่เธอก็รับรู้ได้ว่าเขากำลังดูถูกเธออยู่
“ขะ ขอโทษค่ะ” หญิงสาวพูดอุบอิบโดยไม่คิดจะหันกลับมามอง
“ก็แค่นั้น” แล้วเขาก็ยอมปล่อยต้นแขนเธอแต่โดยดี ทันทีที่เป็นอิสระ เพลงพิณก็รีบเดินแกมวิ่งไปจากเขาทันที
คุณพระช่วย…! นี่มันอะไรกัน เพิ่งเจอกันอยู่เมื่อวานนี้ วันนี้ก็ต้องมาเจอกันอีกแล้วน่ะหรือ ขอเถอะนะ ขอให้เธอเจอเขาครั้งนี้เป็นครั้งสุดท้ายทีเถอะ…
ดูเหมือนคำขอของเธอจะไร้ผล เมื่อเธอทำงานได้ไม่ถึงชั่วโมงดี เพื่อนร่วมงานก็เดินมาบอกเธอว่า