บทที่ 2 ลงทัณฑ์…ซาตาน 1
บทที่ 2
ลงทัณฑ์…ซาตาน
ปึดๆ
หลังมือเรียวถูกยกขึ้นมาเช็ดน้ำตาตัวเองครั้งแล้วครั้งเล่า ก้มหน้าก้มตาลงจากรถตุ๊กตุ๊กแล้วจ่ายเงินให้คนขับก่อนจะเดินไปไขกุญแจรั้วบ้าน
น้ำตาที่ยังหลั่งริน ทำให้ทุกสิ่งทุกอย่างดูพร่าเบลอ กว่าจะไขกุญแจรั้วได้สำเร็จก็ใช้เวลาไปนานหลายนาที
ร่างบางในชุดแสนหวานวิ่งเข้าไปในตัวบ้าน ผ่านผู้เป็นแม่เข้าไปในห้องเล็กๆส่วนตัว ก่อนจะทิ้งกายลงบนเตียงแข็งๆแคบๆพร้อมระบายความรู้สึกทั้งหมดของตัวเองออกมาผ่านหยดน้ำตา
“ฮือๆๆๆ”
ก๊อกๆๆ
เสียงเคาะประตูดังขึ้นพร้อมกับเสียงอ่อนๆที่แสดงถึงความห่วงใยของมารดา
“เพลง เป็นอะไรหรือเปล่าลูก?”
เพลงพิณสูดน้ำมูกเบาๆก่อนจะเดินไปเปิดประตูให้สมพิศเดินเข้ามา แว่บแรกที่สมพิศมองเห็นหน้าของบุตรสาว นางก็รู้สึกตกใจอยู่ไม่น้อย
ดวงตาที่เคยร่าเริงก็หม่นหมอง
สีหน้าที่เคยสดใสไปด้วยนวลแป้งก็เลอะเต็มไปด้วยหยาดน้ำตา
อะไรกันที่ทำให้ลูกสาวนางเป็นไปได้ถึงขนาดนี้
“เพลง เพลงเป็นอะไร ใครทำอะไรเพลง ไหนบอกแม่มาสิ”
ได้ฟังคำถามที่แสดงถึงความห่วงใยของมารดา เพลงพิณก็สุดจะทนอดกลั้นต่อไปไว้ได้ เธอจึงโผนกายเข้ากอดร่างผอมแห้งของสมพิศพร้อมสะอื้นไห้ออกมาอย่างคนที่ขวัญเสีย
“มีอะไร บอกแม่มาสิเพลง” นางดันตัวนิ่มๆของลูกสาวให้ออกห่างพลางจ้องที่ใบหน้าเปรอะคราบน้ำตาอย่างคาดคั้นจนเพลงพิณต้องเสหลบตา
“เปล่าค่ะแม่ เพลงไม่ได้เป็นอะไร”
“โกหก ถ้าไม่ได้เป็นอะไรแล้วเพลงจะร้องไห้ทำไม”
“คือ…เพลง”
“เพลง ตอบแม่มาตามตรงสิ ไหนบอกว่าจะไปร้านหนังสือไง ตอนจะไป เพลงก็ยังดีๆอยู่นี่นา ทำไมกลับมาถึงร้องไห้ได้ล่ะ”
“คือเพลงเจอผู้ชายคนหนึ่งค่ะ” หญิงสาวสูดจมูกฟืดฟาด มองลึกๆเข้าไปในดวงตาของมารดาก่อนจะตัดสินใจตอบไปว่า
“เขาจูบเพลง”
“ห๋า!” สมพิศถึงกับลมจับ ต้องถอยหลังไปนั่งลงบนขอบเตียงเล็ก มองหน้าหญิงสาวที่ยืนอยู่ตรงหน้าอย่างสำรวจ
“เขาเป็นโรคจิตเหรอเพลง ทำไมไม่ไปแจ้งตำรวจ”
เพลงพิณส่ายหน้าช้าๆ น้ำตาเริ่มไหลออกมาอีกรอบ “ท่าทางเขาเหมือนไม่ใช่คนโรคจิตเลยค่ะแม่”
“ถ้ามันไม่โรคจิต แล้วมันมาจูบเพลงทำไม”
“เขาทำเหมือนกับว่าเขารู้จักเพลง”
“ยังไงล่ะ แม่ไม่เข้าใจ แล้วเพลงรู้จักมันหรือเปล่า”
“ไม่รู้จักค่ะ เพลงไม่เคยเห็นหน้าเขาเลย”
“นั่นไง มันต้องโรคจิตแน่ๆ” สมพิศตบเข่าดังฉาด
“เขาด่าว่าเพลงแพศยา ดัดจริต ไร้ยางอาย แถมคิดว่าเพลงเป็นโสเภณีด้วย” หญิงสาวพูดเสียงเครือสะอื้น เล่นเอาสมพิศเริ่มเป็นเดือดเป็นแค้น แต่อีกใจก็เป็นห่วงความรู้สึกหญิงสาว นางจึงดึงข้อมือบางให้มานั่งลงข้างๆก่อนจะกอดเอาไว้อย่าปลุกปลอบ
“อย่าร้องไห้ไปเลยนะเพลง ยังดีที่มันแค่จูบ ไม่ได้ทำอะไรมากไปกว่านี้”
“แต่เพลง…” หญิงสาวพูดเสียงขาดเป็นห้วงๆอยู่ที่อกของมารดา
“ไม่ต้องพูดอะไรอีกแล้วล่ะลูก ถือว่าให้ทานไอ้โรคจิตไปนะ แค่เพลงกลับมาบ้านอย่างปลอดภัย แม่ก็ดีใจแล้วล่ะ”
เพลงพิณเม้มปากแน่น กระพริบตาถี่ๆ กอดเอวสมพิศไว้แน่นก่อนจะพูดออกมาเสียงกระท่อนกระแท่น ซึ่งประโยคนี้นี่แหละที่ทำเอาผู้เป็นแม่ถึงกับผงะ หน้าซีดเผือดแทบไร้สีเลือด
“แต่เขาเรียกเพลงว่า…แพรพิณ !”